ถึงแม้ว่าบริษัทเทคโนโลยีในสหรัฐจะยังรายงานงบในไตรมาส 2 ยังไม่ครบก็ตาม แต่งบของบริษัทเทคโนโลยีไม่ว่าจะเป็น Alphabet หรือ Microsoft ที่ออกมาดี คำถามที่นักลงทุนสนใจในกลุ่มบริษัทเทคโนโลยีคือ บริษัทไหนที่มีโอกาสจะไปแตะมูลค่าตามราคาตลาด 1 ล้านล้านเหรียญบ้าง
Brand Inside รวบรวมปัจจัยสำคัญของ 4 บริษัทที่น่าจะเข้าป้าย 1 ล้านล้านเหรียญในเร็วๆ นี้ ซึ่งประกอบไปด้วย Apple Amazon Alphabet และ Microsoft ถึงแม้ว่าสภาวะตลาดหุ้นสหรัฐตอนนี้จะไม่สดใส เนื่องจากความกังวลในเรื่องของสงครามการค้า หรือแม้แต่การขึ้นดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐเองก็ตาม
Apple
มูลค่าตลาด: 941,790 ล้านเหรียญสหรัฐ
P/E: 18.68 เท่า
ปัจจัยที่จะทำให้ไปถึงมูลค่าตลาด 1 ล้านล้านเหรียญสหรัฐ: iPhone รุ่นใหม่ รวมไปถึงรายได้จากบริการอื่นๆ
Apple เป็นบริษัทเทคโนโลยีบริษัทแรกที่มีโอกาสมากที่สุดในตอนนี้ที่มูลค่าตลาดจะไปแตะ 1 ล้านล้านเหรียญสหรัฐ มากที่สุด โดยสิ่งที่ทำรายได้ให้แก่ Apple มากที่สุดในรอบปีที่ผ่านมาคือ iPhone นั่นเอง
แต่หลังจากนี้เราจะเห็นบริษัทเริ่มให้ความสำคัญกับผลิตภัณฑ์อื่นๆ ไม่ว่าจะเป็นส่วนของบริการต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น Apple Music ที่ Apple เริ่มรุกหนักมากขึ้นเรื่อยๆ หรือแม้แต่ iCloud โดยข้อมูลจาก Morgan Stanley ประมาณว่ามีแค่ 1 ใน 4 ของผู้ใช้ iPhone จ่ายเงินบริการอื่นๆ ให้กับ Apple ดังนั้นยังมีช่องว่างอีกมากที่จะทำให้ Apple เติมเต็มในเรื่องนี้ และพาบริษัทไปสู่มูลค่าตลาดที่ 1 ล้านล้านเหรียญสหรัฐ ได้
Amazon
มูลค่าตลาด: 874,379 ล้านเหรียญสหรัฐ
P/E: 283.81 เท่า
ปัจจัยที่จะทำให้ไปถึงมูลค่าตลาด 1 ล้านล้านเหรียญสหรัฐ: Cloud และรายได้จาก Amazon Prime
ตามมาด้วยอันดับ 2 ที่จะมีโอกาสไปถึงมูลค่าตลาด 1 ล้านล้านเหรียญสหรัฐ คือ Amazon ถึงแม้ว่าค่า P/E จะทะลุฟ้าไปแล้ว แต่นักลงทุนก็มีความคาดหวังกับ Jeff Bezos ไม่ใช่น้อย โดยคาดกันว่าปัจจัยที่จะทำให้ Amazon ไปถึงจุดนั้นได้คือรายได้ของ Amazon Prime และรวมไปถึง Cloud อย่าง AWS มากขึ้น ซึ่งช่วงปีหลังๆ รายได้จาก Cloud เพิ่มขึ้นอย่างมาก
ยังรวมไปถึงรายได้ใหม่ๆ ที่อาจเกิดขึ้น อย่างเช่น การรุกตลาด Healthcare หรือแม้แต่การเข้ามารุกตลาดโฆษณา
แต่ความเสี่ยงของบริษัทในช่วงนี้คือเรื่องที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ กำลังเพ่งเล็ง Amazon อย่างหนักในหลายๆ เรื่อง ไม่ว่าจะเป็นเรื่องที่การขนส่งพัสดุที่ Amazon ทำสัญญากับ USPS ที่ทรัมป์มองว่า USPS เสียเปรียบ หรือไม่เว้นแม้แต่เรื่องของหนังสือพิมพ์ Washington Post ที่ Jeff Bezos เป็นเจ้าของนั้นวิจารณ์ทรัมป์อย่างหนักหน่วง จนล่าสุดทำให้ทรัมป์หัวร้อนออกมาทวีตถึงเรื่องการจ่ายภาษีของ Amazon อีกด้วย
Alphabet (Google)
มูลค่าตลาด: 840,736 ล้านเหรียญสหรัฐ
P/E: 30.83 เท่า
ปัจจัยที่จะทำให้ไปถึงมูลค่าตลาด 1 ล้านล้านเหรียญสหรัฐ: Cloud และโฆษณา
หลังจากที่ Alphabet ได้รายงานงบในไตรมาส 2 ได้ออกมาและได้เซอร์ไพรส์นักลงทุน เนื่องจากรายได้ของบริษัทยังโตอย่างต่อเนื่อง แถมกำไรยังถือว่าสวยงาม แม้ว่าจะหักลบจากเรื่องคดีผูกขาด แต่ก็ทำให้บริษัทมีมูลค่ามากว่า 8 แสนล้านเหรียญสหรัฐ ไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว และเป็นอีกหนึ่งบริษัทที่มีโอกาสเข้าป้าย 1 ล้านล้านเหรียญในเร็วๆ นี้อีกด้วย
Alphabet เองยังได้กล่าวกับนักลงทุนว่าบริษัทในปัจจุบันไม่ใช่บริษัทโฆษณาอย่างเดียว แต่บริษัทยังจะมีรายได้อื่นๆ มาเพิ่มเติมในอนาคต ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของ Google Cloud Platform ที่รายได้กำลังโตวันโตคืนไม่น้อย หรือแม้แต่ TensorFlow ที่เอาไว้เจาะกลุ่มนักพัฒนา โดยเฉพาะเรื่อง Deep Learning โดยเฉพาะอีกด้วย และยังมีเทคโนโลยีอื่นๆ ที่กำลังพัฒนาอีกมาก
แต่งานยากของ Alphabet ในปัจจุบันคือหน่วยงานกำกับดูแลโดยเฉพาะในทวีปยุโรปเริ่มจับตามองเรื่องของการผูกขาดของบริษัทมากขึ้น ซึ่งอาจทำให้บริษัทนั้นอาจไปไม่ได้ถึงฝั่งฝัน
Microsoft
มูลค่าตลาด: 828,886 ล้านเหรียญสหรัฐ
P/E: 29.01 เท่า
ปัจจัยที่จะทำให้ไปถึงมูลค่าตลาด 1 ล้านล้านเหรียญสหรัฐ: Cloud และรายได้จากองค์กร
หลังจากที่บริษัทรายงานงบไตรมาส 2 ไปเรียบร้อย และบริษัทเองคาดว่ารายได้ของบริษัทในปีนี้จะแตะ 1 แสนล้านเหรียญเป็นครั้งแรก ยังรวมไปถึงผู้ใช้งาน Office 365 มากกว่า 31 ล้านคนไปแล้วด้วยนั้น
นักวิเคราะห์จาก Deutsche Bank และ Piper Jaffray รวมไปถึง Atlantic Equities ได้ปรับเป้าหมายราคาหุ้นของ Microsoft ขึ้นมา ซึ่งจะทำให้มูลค่าตลาดของบริษัทผ่าน 1 ล้านล้านเหรียญไปได้จากรายได้ของ Cloud อย่าง Azure และรวมไปถึง Office 365 ที่ยังเติบโตได้อีก
แต่บริษัทเองก็มีความเสี่ยงเรื่องของ Azure ที่นักวิเคราะห์มองว่าท้ายที่สุดแล้วจะไม่สามารถสู้กับ AWS ของ Amazon เองได้ โดยถ้าหากเทียบเรื่อง Scale กับ AWS ในระยะยาวแล้วจะกลายเป็นว่ากำไรขั้นต้นของ Azure เองนั้นพ่ายแพ้ให้กับ AWS
ที่มา – TechCrunch, Bloomberg, CNBC, Fortune
Note – อนึ่งเคยมีบริษัทที่มูลค่าทางตลาดไปถึง 1 ล้านล้านเหรียญมาแล้วคือ “PetroChina” เมื่อปี 2007
ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา