ถ้าใครอยู่วงการฟิตเนส ออกกำลังกายจะทราบอย่างดีว่ามีแบรนด์ My Whey เวย์โปรตีนน้องใหม่ที่เพิ่งเปิดตัวเมื่อปีที่แล้ว เป็นแบรนด์ในเครือ “เถ้าแก่น้อย” ตลาดนี้มีโอกาสอย่างไร ทำให้เถ้าแก่น้อยถึงเลือกจับ
แตกแบรนด์กลุ่มสุขภาพ นอกเหนือจากสาหร่าย
ด้วยเทรนด์การดูแลสุขภาพที่มีมาหลายปีแล้วในประเทศไทย ทำให้คนไทยเลือกที่จะทานอาหารที่มีประโยชน์ และออกกำลังกายมากขึ้น หลายคนเลือกเข้าฟิตเนส สร้างกล้ามเนื้อ เป็นเทรนด์ที่เห็นในกลุ่มดารา เซเลบริตี้ด้วย เทรนด์นี้ส่งผลให้ธุรกิจอื่นๆ มีการเติบโตเช่นกัน หนึ่งในนั้นก็คือ “เวย์โปรตีน”
เวย์โปรตีนเป็นที่นิยมในกลุ่มของผู้ออกกำลังกายในการเล่นเวทเทรนนิ่ง เพื่อเสริมกล้ามเนื้อ แต่เวย์โปรตีนที่ขายในไทยส่วนใหญ่จะเป็นการนำเข้าจากต่างประเทศทั้งสิ้นทั้งจากอเมริกา และยุโรป ที่สำคัญคือรสชาติไม่ค่อยถูกปากคนไทย
ในตลาดนี้ยังไม่มีตัวเลขมูลค่าตลาดที่ชัดเจนมากนัก เพราะถือว่าเป็นตลาดที่ใหม่ แต่เมื่อเทียบกับตลาดประเทศอเมริกามีมูลค่าสูงถึง 8,000 ล้านเหรียญ ปัจจุบันในไทยมีผู้เล่นในตลาดรวม 10 แบรนด์ 7 แบรนด์เป็นการนำเข้าจากต่างประเทศ อีก 3 แบรนด์เป็นแบรนด์ไทย
ทำให้ “เถ้าแก่น้อย” มองเห็นโอกาสครั้งใหญ่ในการบุกตลาดนี้ เพราะเป็นตลาดเกิดใหม่ ยังไม่มีผู้นำตลาดชัดเจน ผสมกับเทรนด์ของผู้บริโภคที่นิยมดื่มเวย์โปรตีนมากขึ้น จึงได้ปั้นแบรนด์ “My Whey” ขึ้นมา โดยพัฒนาสูตรขึ้นมาเอง แต่นำเข้าวัตถุดิบจากต่างประเทศ
ต็อบ-อิทธิพัทธ์ พีระเดชาพันธ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เถ้าแก่น้อย ฟู้ดแอนด์มาร์เก็ตติ้ง จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า
“แบรนด์นี้ถือเป็นแบรนด์หลักที่ 2 ต่อจากเถ้าแก่น้อยที่ทำตลาดมา 14 ปี ได้มองเห็นเทรนด์ออกกำลังกายมาสักพัก ซึ่งเห็นว่าโอกาสในตลาดนี้มีสูง ยังไม่มีผู้นำตลาดจริงๆ เพราะส่วนใหญ่เป็นแบรนด์นำเข้า และเวย์โปรตีนยังมีจุดอ่อนเรื่องรสชาติ เลยคิดว่าจะต้องทำรสชาติที่ดื่มง่าย และราคาไม่แพง”
ต็อบได้เคลมว่า My Whey มีราคาสูงกว่าคู่แข่งราว 20% เมื่อเทียบกับปริมาณ แต่มีการอัดสารอาหารให้แน่น นอกจากโปรตีนยังมีวิตามิน และสูตรใหม่ยังมีคอลลาเจนด้วย
เริ่มเปิดจากขายออนไลน์
My Whey ได้เริ่มจำหน่ายเมื่อเดือนเมษายน 2560 ได้วางจำหน่ายที่ช่องทางออนไลน์ก่อน มีช่องทาง Movefast แพลทฟอร์มขายสินค้าออนไลน์ที่ต็อบได้เข้าไปถือหุ้น และจำหน่ายผ่านโซเชียลมีเดียต่างๆ ซึ่ง My Whey เป็นสินค้าตัวแรกที่เริ่มจากออนไลน์ 100%
และเมื่อต้นปีได้เริ่มขยายเข้าสู่ช่องทางออฟไลน์เริ่มจากร้านกลุ่มสุขภาพความงามอย่างวัตสัน เพราะตรงกลุ่มเป้าหมาย และเริ่มขยายเข้าสู่โมเดิร์นเทรดอื่นๆ
“ที่เริ่มจากออนไลน์ก่อนเพราะคิดว่าเป็นช่องทางที่เหมาะมากกว่า เพราะเป็นสินค้าที่มีมูลค่า ต้องใช้ช่องทาง Direct Sale ในการพูดคุยกับลูกค้า ทำความเข้าใจกับลูกค้าโดยตรง ถ้าสินค้าไปวางบนเชล์ฟไม่มีใครสนใจแน่นอน แต่เมื่อแบรนด์เป็นที่รู้จัก ก็จะเริ่มบุกช่องทางออฟไลน์มากขึ้น”
เปิดสูตรใหม่ ดึง “เบลล่า” พรีเซ็นเตอร์
ปัจจุบัน My Whey มีทั้งหมด 5 รสชาติ ได้แก่ ช็อกโกแล็ต ชาเขียว กาแฟ ชาไทย และล่าสุดคือรสชาติสตรอเบอร์รี่ โยเกิร์ต สูตรนี้ได้ออกมาจับกลุ่มสาวๆ โดยเฉพาะ ครั้งนี้ได้ดึงแม่หญิงการะเกด “เบลล่า ราณ แคมเปน” มาเป็นพรีเซ็นเตอร์ จากเดิมใช้ “วู้ดดี้” และ “กาละแมร์” เป็นพรีเซ็นเตอร์คู่
ในปีปีที่แล้ว My Whey สร้างยอดขาย 50 ล้านบาท ในปีนี้ได้ตั้งเป้า 100 ล้านบาทให้ได้
สรุป
ตลาดเวย์โปรตีนยังมีโอกาสอีกมาก เพราะคนไทยยังชื่นชอบการออกกำลังกายอยู่ โดยที่ My Whey มีการหาจุดขายใหม่ๆ จุดยืนใหม่ๆ ที่แตกต่างจากในตลาด ทำให้มีการขยายกลุ่มผู้ดื่มให้กว้างมากขึ้นด้วย
ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา