“ซื้อสตั๊ดต้องคิดถึง Ari” คือความคิดสุดโต่งของร้านขายแต่อุปกรณ์กีฬาฟุตบอลรายเดียวของไทย

จากแค่ความชอบในกีฬาฟุตบอล และรองเท้าสตั๊ด สู่การเดินหน้าธุรกิจร้านอุปกรณ์กีฬาฟุตบอลเต็มรูปแบบ Brand Inside จึงอยากชวนมารู้จักร้าน Ari ผ่านมุมมองของ ธเนศ โฆษิตวุฒิโสภณ ผู้จัดการฝ่ายการตลาดของร้านนี้กัน

รวมทุกอย่างที่เป็นฟุตบอลไว้ในที่เดียว

ถึงตอนนี้ร้าน Ari ก็มีอายุ 9 ปีแล้ว จากที่เริ่มต้นตั้งร้านเล็กๆ ในสนามฟุตบอลย่านทองหล่อเพียงแค่อยากทำร้านที่ขายรองเท้าฟุตบอล หรือสตั๊ด ให้กับคนที่ชื่นชอบ และรักรองเท้าฟุตบอลจริงๆ ซึ่งในต่างประเทศนั้นมีแล้ว แต่ในประเทศไทยยังไม่เคยมีมาก่อน ประกอบกับช่วงนั้นกระแสเรื่องแฟชั่น กับฟุตบอลก็กำลังมาเช่นเดียวกัน

“ผม และผู้ก่อตั้งมองว่าแฟชั่น กับเรื่องฟุตบอลมันไปด้วยกันได้ เริ่มต้นจริงๆ ก็คงต้องยุค Beckham แต่ถ้าพีคสุดๆ ต้องตอน Cristiano Ronaldo ช่วงพีค เพราะเขาแสดงให้เห็นว่าฟุตบอล กับแฟชั่น มันไปด้วยกันได้จริงๆ แถมเกิดได้ทั้งใน และนอกสนามอีกด้วย” ธเนศ กล่าว

เมื่อเป็นเช่นนี้ Ari จึงพยายามหยิบความเป็นแฟชั่น กับฟุตบอลเข้ามารวมกันไว้ให้ได้มากที่สุด พร้อมนำแนวคิดนี้ขยายสาขาออกไป 10 สาขาทั่วประเทศ แถมเป็นรายเดียวในประเทศไทยที่จำหน่ายแต่อุปกรณ์กีฬาฟุตบอลอย่างเดียว และสามารถสร้าง Brand Loyalty ได้เป็นอย่างดี แม้จะยังไม่ถึงเป้าหมาย “ซื้อสตั๊ดต้องคิดถึง Ari” ก็ตาม

ยกระดับไปให้เทียบเท่ากับทุกสิ่งในวงการฟุตบอล

เมื่อฟุตบอล กับแฟชั่นเป็นของคู่กัน Ari จึงพยายามดึงทุกอย่างที่เป็นแฟชั่นเข้ามาในร้าน ไม่ว่าจะเป็นร้านตัดผมที่ปัจจุบันมี 3 สาขาตั้งอยู่ในร้าน Ari รวมถึงแบรนด์เสื้อผ้ากีฬา Ari Gear ที่เรามีโรงงานผลิตเอง เพื่อยกระดับแบรนด์อุปกรณ์กีฬาท้องถิ่นให้ดูแฟชั่น และตอบโจทย์การใช้งานในชีวิตประจำวัน รวมถึงใส่เล่นกีฬาได้จริงมากขึ้น

“ปฏิเสธไม่ได้ว่าแฟชั่น กับฟุตบอลเป็นเรื่องคู่กัน แต่นักฟุตบอลระหว่างที่ลงไปในสนามก็ทำอะไรไม่ได้มาก เพราะเสื้อก็ต้องใส่ของทีม รองเท้าก็ต้องใส่ของสปอนเซอร์ ตุ้มหูก็ใส่ไม่ได้ จึงเหลือแค่ทรงผม และรอยสักที่ทำกันได้เต็มที่ เราจึงเลือกร้านตัดผมมาทำเป็นอีกธุรกิจเกี่ยวกับฟุตบอลก่อน เพื่อสร้างการเติบโตในอนาคต”

นอกจากร้านขายอุปกรณ์กีฬา และร้านตัดผมแล้ว Ari ยังทำนิตยสารแจกฟรี Hattrick เพื่อสื่อสารเรื่องของฟุตบอลต่างๆ ด้วย ส่วนปีนี้มีแผนจะเปิดให้บริการ Paint Job หรือบริการรับวาดรูปบนรองเท้าสตั๊ด รวมถึงบริการรับทำความสะอาดรองเท้าสตั๊ดเช่นเดียวกัน

คนทำงานไม่ใช่ลูกค้าหลัก แต่กลายเป็นเด็กๆ วัยเรียนแทน

แม้ปัจจุบันรองเท้าสตั๊ดหลายคู่จะมีราคาค่อนข้างสูง บางรุ่นเหยียบหมื่นบาท แต่กลุ่มคนที่มาซื้อรองเท้าราคาขนาดนี้ในร้านกลับไม่ใช่คนที่ทำงานหารายได้เอง กลับเป็นเด็กวัยเรียนที่พาผู้ปกครองมาซื้อให้ หรือคิดเป็น 70% ของยอดขายภายในร้านก็ว่าได้

“เป็นเรื่องที่น่าประหลาดใจเหมือนกัน เพราะคนอื่นอาจมองว่ายอดขายเรามาจากผู้ใหญ่ แต่จริงๆ แล้วกลุ่มที่ซื้อรุ่นแพงๆ จนมาเป็นลูกค้าหลักของเรากลับเป็นวัยเด็กๆ เพราะผู้ใหญ่จะมองเรื่องความคุ้มค่าเป็นหลัก และยังกลัวที่จะเข้ามาในร้านเราอยู่ ดังนั้นเราต้องพยายามสื่อสารกับคนกลุ่มนี้ให้มากขึ้น เพื่อเพิ่มยอดขายหลักร้อยล้านบาทของเรา”

การสื่อสารไปยังกลุ่มผู้ใหญ่นั้น ทาง Ari ได้ใช้กลยุทธ์ทั้งสื่อออนไลน์ผ่าน Social Media ต่างๆ รวมถึงจ้างนักฟุตบอลมาเป็น Presenter ถึง 14 คน ที่สำคัญยังเข้าไปสนับสนุนชุดกีฬาให้กับสโมสรชั้นนำเช่น บางกอก ยูไนเต็ด, พัทยา ยูไนเต็ด และทีมฟุตซอลอย่างชลบุรี บลูเวฟ เพื่อให้ผู้บริโภคได้รู้จักแบรนด์นี้มากขึ้น

บรรยากาศเหมือน Eve and Boy แต่เป็นผู้หญิงที่นั่งรอ

ในทางกลับกัน กลุ่มลูกค้าที่ยึดติดกับแบรนด์ Ari แล้ว ก็จะมาซื้อสินค้าเกี่ยวกับฟุตบอลที่ Ari เป็นประจำ โดยเฉพาะในช่วงลดราคาก็จะมีบรรยากาศเหมือนร้าน Eve and Boy แต่เป็นฝ่ายผู้หญิงที่มานั่งรอแฟนซื้อสินค้ากีฬาแทน ซึ่งนั่นก็ถือเป็นอีกความสำเร็จของเราในการดำเนินธุรกิจอีกด้วย

“ถ้ามาตอนเซลล์จะเห็นชัดเลยว่าผู้หญิงนั่งรอหน้าร้านเยอะมาก เพราะไม่รู้จะเข้าไปเบียดๆ ทำไม แต่ก็ถือเป็นความสำเร็จ และทำให้ร้าน Ari เป็นที่รู้จักมากขึ้นเช่นกัน ดังนั้นเราจะพยายามรักษาจุดนี้ต่อไปด้วยการนำเข้าสินค้าเกี่ยวกับฟุตบอลมาจำหน่ายมากขึ้น และสร้างบริการที่เกี่ยวกับฟุตบอลใหม่ๆ ด้วย”

สำหรับสินค้ารองเท้าสตั๊ดนั้นปกติแล้วแต่ละแบรนด์จะออกรุ่นใหม่ทุกปี และมีสีใหม่ทุก 3 เดือน ทำให้นักสะสมก็เป็นอีกกลุ่มลูกค้าสำคัญของทางร้าน แต่คิดเป็นสัดส่วนที่น้อยมากเมื่อเทียบกับยอดขายทั้งหมด ใกล้เคียงกับกลุ่มนักฟุตบอลอาชีพที่มาซื้อรองเท้าสตั๊ดกับทางร้านเป็นประจำ

“สวรรค์ของคนรักฟุตบอล” คือแนวคิดหลักของเรา

ด้วย Ari เติบโตอย่างสูงสุดในช่วงกระแสฟุตบอลไทยกำลัง Fever หรือปี 2557-2558 แต่ปัจจุบันกระแสฟุตบอลไทยค่อนข้างตกลงอย่างเห็นได้ชัด ทำให้มันกระทบกับยอดขายบริษัทเล็กน้อย แต่ด้วยกระแสคนเตะฟุตบอลที่ยังมีอยู่ ทำให้ยอดขายรองเท้าสตั๊ดยังเติบโตได้ตลอดเวลา

“เราพยายามทำให้ร้านนี้เป็นสวรรค์ของคนรักฟุตบอล ตั้งแต่พนักงานที่จะรู้เรื่องฟุตบอล และรองเท้าเป็นอย่างดี และสร้างบรรยากาศให้เป็นฟุตบอลทุกอย่าง และเชื่อว่าในอนาคต Ari จะขยายไปได้มากกว่านี้ และเป็นเป้าหมายแรกของคนที่อยากซื้อรองเท้าสตั๊ดสักคู่หนึ่งได้”

อย่างไรก็ตาม Ari ไม่ได้มีแต่ธุรกิจที่เกี่ยวกับฟุตบอล เพราะล่าสุดเพิ่งขยายร้าน Ari Running Concept Store ขึ้น 4 สาขา เพื่อรับกระแสการออกกำลังกายด้วยการวิ่งที่กำลังบูม แต่ด้วยคู่แข่งที่มาก ทำให้การขยายตัวอาจไม่มากนัก เมื่อเทียบกับร้าน Ari ที่จำหน่ายอุปกรณ์กีฬาเกี่ยวกับฟุตบอล

ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา