ยกสาม! ทรัมป์เตรียมตั้งกำแพงภาษีสินค้าจีนมูลค่า 1 แสนล้านเหรียญ

หลังจากทาง Brand Inside ได้วิเคราะห์เรื่องของสงครามการค้าไปคร่าวๆ แต่สำหรับข่าวล่าสุด สงครามการค้าระหว่างสหรัฐกับจีนน่าจะมีความยืดเยื้อไปอีกสักพักใหญ่แน่นอน และนั่นหมายถึงความไม่แน่นอนที่จะส่งผลกระทบไปอีกหลายประเทศ รวมถึงไทยด้วย

ภาพจาก Shutterstock

ล่าสุดทาง ปธน. ทรัมป์ เตรียมลงนามข้อกฏหมายใหม่อีกฉบับ เตรียมขึ้นภาษีสินค้าจีนมูลค่ากว่า 100,000 ล้านเหรียญสหรัฐ เป็นจำนวนเม็ดเงินที่มากที่สุดในสงครามการค้ารอบนี้ และให้ทางผู้แทนการค้าของทางสหรัฐเริ่มพิจารณาว่ามูลค่านี้เหมาะสมหรือไม่ ภายใต้กฏหมายสหรัฐ ถ้าหากเหมาะสมก็จะให้ทางผู้แทนการค้าเลือกสินค้าจีนว่าสินค้าจีนอันไหนควรขึ้นภาษี

หลังจากที่ทรัมป์ประกาศเรื่องกำแพงภาษีรอบใหม่ ดัชนี Dow Jones ล่วงหน้าได้ตกลงทันที และรวมไปถึงตลาดหลักทรัพย์ทั่วโลกด้วย

ทรัมป์หงุดหงิด

เรื่องที่ทำให้ทรัมป์หงุดหงิดจนต้องเตรียมขึ้นภาษีรอบใหม่ คือเรื่องของการที่จีนขึ้นกำแพงภาษีถั่วเหลืองและเครื่องบิน ซึ่งมูลค่าครั้งหลังสุดที่ทางการจีนตอบโต้คือมีมูลค่าประมาณ 50,000 ล้านเหรียญสหรัฐ

ทาง Brand Inside ได้วิเคราะห์ไปคร่าวๆ แล้วว่าประเด็นของถั่วเหลืองนี่จีนได้จี้ตรงจุดเพราะว่าเกษตรกรส่งออกถั่วเหลืองนั้นส่วนใหญ่เลือกทรัมป์ตอนสมัยเลือกตั้งประธานาธิบดี โดยจีนหวังว่าการขึ้นภาษีถั่วเหลืองจะทำให้ทรัมป์หยุดในเรื่องนี้และกลับมาคุยกันในโต๊ะเจรจามากกว่า

แน่นอนว่าทรัมป์ได้กล่าวว่าทางจีนเลือกที่จะทำร้ายเกษตรกรสหรัฐ (คือผู้ปลูกถั่วเหลือง) และรวมไปถึงผู้ผลิตสินค้าต่างๆ

จีนบอกว่าเตรียมสู้ตาย

ทางกระทรวงพาณิชย์จีนได้กล่าวหลังจากทางทรัมป์ได้กล่าวถึงเรื่องเตรียมตั้งกำแพงภาษีสินค้าจีนว่า จีนเตรียมสู้ในเรื่องนี้ไม่ว่าจะจ่ายเท่าไหร่เราก็ยอมแลก เพื่อปกป้องผลประโยชน์ของประชาชนและประเทศจีน

มีการคาดเดาว่าถ้าหากทางการจีนสวนกลับสหรัฐในเกมนี้อาจเป็นยาแรงเลยทีเดียว โดยขั้นแย่ที่สุดที่มีการคาดการณ์คืออาจถึงขั้นให้บริษัทสหรัฐที่ดำเนินการในจีนปิดบริษัท หรือไม่ก็ลดจำนวนไม่ให้นักท่องเที่ยวหรือนักเรียนที่จะไปเรียนต่อที่สหรัฐ ซึ่งสถาบันการศึกษาในสหรัฐมีนักเรียนจากจีนเยอะมากในช่วงที่ผ่านมา

นักวิเคราะห์มองต่างกัน

สำหรับเรื่องนี้ย่อมทำให้เกิดความตึงเครียดกับสองประเทศนี้เข้าไปเรื่อยๆ Kerry Craig นักวิเคราะห์จาก JPMorgan Asset Management มองว่ายังไงเรื่องนี้ไม่มีผู้ชนะแน่นอน และยังสร้างความตึงเครียดอีกด้วย ส่วนเรื่องของการเจรจา เขามองว่าการตอบโต้ระหว่างกันยิ่งทำให้การเจรจาในเรื่องนี้ยากเข้าไปกว่าเดิม

Patrick Bennett นักวิเคราะห์จาก Canadian Imperial Bank of Commerce มองว่า เรื่องนี้จะทำให้เศรษฐกิจสหรัฐแย่เข้าไปอีก โดยเขารู้สึกว่านี่เป็นแค่จุดเริ่มต้นของสงครามการค้าด้วยซ้ำ

แต่สำหรับ Rajiv Biswas นักวิเคราะห์ของ IHS Markit  กลับมองต่างว่า สหรัฐตั้งใจเล่นเกมนี้เพื่อบีบให้จีนไปเจรจาในเวทีองค์การการค้าโลก หรือ WTO โดยเฉพาะเรื่องของสินค้าไอทีที่ละเมิดลิขสิทธิ์ ซึ่งทรัมป์ตั้งใจบี้จีนในเรื่องนี้มาก

ที่มาBloomberg, Caixin Global

ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา

mm
Content Writer ที่สนใจในเรื่องของตลาดทุนทั้งในและต่างประเทศ กลุ่ม TMT (Technology, Media, Telecom) การควบรวมกิจการ (M&A) นโยบายทางเศรษฐกิจของไทยและต่างประเทศ รวมถึงสิ่งละอันพันละน้อยทางธุรกิจที่น่าสนใจ