ปี 2018 ผ่านมาแล้ว 3 เดือน อาการของค้าปลีกระดับโลกยังไม่ดีนัก นับเป็นการล่มสลายที่ลากยาวมาตั้งแต่ปี 2017 เราลองมาอัพเดทตัวเลขของปีนี้กันหน่อย
วงการค้าปลีกส่อแววล่มสลายมาตั้งแต่ปี 2017 ที่ผ่านมา เพราะทยอยปิดตัวร้านค้าไปมากกว่า 3,500 สาขาทั่วประเทศสหรัฐอเมริกา
มาในปี 2018 กระแสการล่มสลายของวงการค้าปลีกยังดำเนินไปอย่างต่อเนื่อง เพราะจะมีค้าปลีกประมาณ 3,000 สาขาที่ปิดตัวลงในปีนี้ นอกจากนั้น รายงานจากสมาคมสื่อมวลชนของอังกฤษ ยังระบุไว้ว่า การปิดสาขาของค้าปลีกในตลาดช่วง 3 เดือนแรกของปี 2018 ทำให้มีคนตกงานไปแล้วประมาณ 21,413 คน
อัพเดทตัวเลขวงการค้าปลีก 2018
เริ่มต้นด้วยข่าวใหญ่ที่สุด คงหนีไม่พ้นการปิดตัวของร้านขายของเล่นรายใหญ่อย่าง Toys “R” Us ที่สรุปตัวเลขแล้วจะปิดไปทั้งหมด 800 แห่งในปีนี้
ส่วนตัวเลขของค้าปลีกรายอื่นๆ ที่ทยอยปิดตัวกันอย่างต่อเนื่องในปีนี้ ได้แก่
- Walgreens 600 แห่ง
- Ascena Retail Group 400 แห่ง
- The Children’s Place 300 แห่ง
- Best Buy 250 แห่ง
- Gap 200 แห่ง
- Signet Jewelers 200 แห่ง
- Mattress Firm แห่ง
- Foot Locker 200 แห่ง
- Sears Holdings 130 แห่ง
- Michaels’ Aaron Brothers 94 แห่ง
- Claire’s 92 แห่ง
- รวมไปถึงเชนร้าน Sam’s Club ของ Walmart ที่สั่งปิดสาขา 63 แห่งทั่วสหรัฐอเมริกาอย่างกะทันหัน ทำให้พนักงานตกงานหลักหมื่นอย่างไม่รู้ตัว
- Abercrombie & Fitch 60 แห่ง
- J.Crew 50 แห่ง
- Vera Bradley 50 แห่ง
- Bon-Ton 42 แห่ง
- Macy’s 11 แห่ง
- JC Penney 8 แห่ง
- Nordstrom 1 แห่ง
อย่างไรก็ตาม หนึ่งในตัวเลขที่น่าสนใจมาจาก CoStar Group บริษัทเอเจนซี่สายอสังหาริมทรัพย์ ที่ได้เปิดเผยตัวเลขไว้ว่า ถ้าคิดเป็นขนาดพื้นที่ ร้านค้าปลีกในปี 2018 ที่ปิดตัวไปคิดเป็น 76 ล้านตารางฟุต ยังน้อยกว่าปีก่อนหน้าเล็กน้อย เพราะปี 2017 มีร้านค้าปลีกที่ปิดตัวไปกว่า 105 ล้านตารางฟุต
ก้าวต่อไปของวงการค้าปลีก คือการหาจุดสมดุลระหว่าง การมีหน้าร้านแบบออฟไลน์ และการขายของแบบออนไลน์ แต่ก่อนที่จะไปถึงจุดนั้น เราน่าจะได้เห็นการทยอยปิดตัวสาขาของค้าปลีกอีกหลายรายอย่างแน่นอน
ข้อมูล – CNBC, Theguardian
ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา