L’OREAL ประเทศไทยประกาศแผนธุรกิจปี 2018 เน้นสินค้า และนวัตกรรมใหม่ๆ เข้าถึงผู้บริโภค พร้อมดำเนินตามวิสัยทัศน์ Beauty for All
ถือเป็นความท้าทายครั้งใหญ่ของ L’OREAL ที่มีวิสัยทัศน์ Beauty for All ต้องการให้แบรนด์อยู่ในบ้านคนไทยอย่างน้อย 1 ชิ้น ซึ่งในช่วงหลายปีที่ผ่านมาได้เห็น L’OREAL แตกแบรนด์สินค้าใหม่ๆ รวมถึงนำนวัตกรรมใหม่ๆ เข้ามา เพื่อให้เข้าถึงผู้บริโภคได้ทุกกลุ่ม
ในปีนี้ L’OREAL ได้วางกลยุทธ์ 4 ข้อ ในการดำเนินธุรกิจในไทย ซึ่งถือว่าเป็นตลาดสำคัญ เพราะเป็นตลาดใหญ่ที่สุดในอาเซียน
1. เน้นผู้บริโภคเป็นศูนย์กลาง หรือ Consumer Centricity
นั่นคือการพัฒนานวัตกรรมของสินค้าที่จะเป็นหัวใจสำคัญในการสร้างการเติบโต เพราะช่วยกระตุ้นให้ผู้บริโภคทดลองใช้ รวมถึงสร้างประสบการณ์ที่ดีให้แบรนด์ ซึ่งมีการศึกษาเทรนด์ผู้บริโภคว่าสินค้าไหนมาแรง โดยเทรนด์ที่สำคัญก็คือสังคมผู้สูงอายุ ส่งผลให้สินค้ากลุ่มสกินแคร์ลดริ้วรอย และผลิตภัณฑ์เปลี่ยนสีผมมีการเติบโต รวมถึงเทรนด์ของกลุ่มวัยรุ่นที่มีการแต่งหน้าเร็วขึ้น ช่วยให้สินค้าเครื่องสำอางโตเช่นกัน
นอกจากสินค้ายังมีเรื่องประสบการณ์ด้านความงามใหม่ๆ ทำให้ในปีที่แล้วได้เปิดตัว NYX Professional Makeup Flagship Store แห่งแรกในเอเชีย ที่สยามสแควร์วัน
และในปีนี้ได้เปิดตัว 2 แบรนด์ใหม่ในประเทศไทยเข้ามาเสริมทัพให้แกร่งขึ้น ได้แก่ Giorgio Armani Beauty วางจุดยืนเป็นเครื่องสำอางระดับพรีเมี่ยม และ CeraVe เป็นผลิตภัณฑ์เวชสำอางในราคากลางๆ เพื่อจับกลุ่มลูกค้าให้กว้างขึ้น
2. เข้าสู่ยุคดิจิทัลเต็มรูปแบบ
เป็นอีกหนึ่งในกลยุทธ์หลักเช่นกัน โดยในปี 2560 ลอรีอัล ได้ใช้ช่องทางในการสื่อสารที่หลากหลายและเข้าถึงตลาดอีคอมเมิร์ซค้าปลีกใหม่ๆ อีกหลายราย เช่น Konvy และ Orami รวมไปถึงช่องทางโซเชียลมีเดียใหม่ๆ คือ Line@ และ Craze รวมถึงการให้บริการหน้าร้านค้าออนไลน์ของแบรนด์เอง คือ Lancôme , YSL Beauty และ Biotherm
ช่องทางออนไลน์ของ L’OREAL ประเทศไทยมีการเติบโตถึง 97% แต่ถ้าในระดับโกลบอลมีการเติบโต 33.6% คิดเป็น 8% ของรายได้รวม
3. บริหารบุคลากร และทำองค์กรให้น่าอยู่
การบริหารบุคลากรถือเป็นทรัพย์สินสำคัญของบริษัท และทาง L’OREAL ก็ให้ความสำคัญมาตลอด ต้องการสร้างวัฒนธรรมองค์กรให้น่าทำงานมากที่สุด
โดยภายในปี 2561 นี้ ลอรีอัลตั้งเป้าที่จะฝึกอบรมพนักงานทุกคนในบริษัทฯ ผ่านโครงการการเรียนรู้และการพัฒนาที่หลากหลาย เพื่อให้พนักงานมีทักษะรอบด้านมากที่สุด ทั้งบนแพลตฟอร์มออนไลน์และออฟไลน์ นอกจากนั้น ลอรีอัล ยังมีโครงการ แชร์แอนด์แคร์ (Share & Care) ซึ่งมุ่งเน้นตอบโจทย์ความต้องการขั้นพื้นฐานของพนักงาน 4 ด้าน ได้แก่ สุขภาพ สวัสดิการ ชีวิตครอบครัว และคุณภาพชีวิตในการทำงาน
4. สร้างองค์กรให้ยั่งยืน
นอกจากเรื่องนวัตกรรม ยังมีเรื่องการทำให้ธุรกิจยั่งยืน โดยที่เป้าหมายของลอรีอัล กรุ๊ป ในปี 2563 ซึ่งประกอบด้วยการสร้างนวัตกรรม การผลิต การใช้ชีวิต และการพัฒนาอย่างยั่งยืนในด้านต่างๆ และในปีนี้ได้เพิ่มอีกหนึ่งเป้าหมาย คือ โครงการ ‘Working Sustainably” หรือ “การร่วมสร้างองค์กรอย่างยั่งยืน” ให้พนักงานในองค์กรทุกคนช่วยกันสร้างสถานที่ทำงานให้ยั่งยืนและสร้างสิ่งแวดล้อมในการทำงานให้เป็นมิตรมากยิ่งขึ้น
ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา