เปิด 10 เรื่องน่ารู้ที่ HR ยุคใหม่จะต้องใช้ในการบริหารคนในองค์กร ในยุคที่มีความท้าทายรอบด้าน แต่ที่สำคัญที่สุดคือต้องทำความเข้าใจคนทั้ง 4 เจนเนเรชั่นในองค์กรให้ถ่องแท้
การต่อสู้ในการแข่งขันในธุรกิจภายนอกองค์กรว่ายากแล้ว การบริหารคนในองค์กรก็ยากพอๆ กัน ซึ่งทั้งองค์กร ผู้บริหาร และ HR หรือฝ่ายบริหารทรัพยากรบุคคล ต้องปรับตัวเพื่อรับกับการเปลี่ยนแปลงทั้งเรื่องคน และเทคโนโลยี
ความยากของ HR ยุคนี้คือต้องบริหารคนในองค์กรที่มีความแตกต่างใน 4 เจนเนอเรชั่น ได้แก่ Baby Boomers, Gen X, Gen Y และ Gen Z แตกต่างจากเมื่อ 10 ปีก่อนที่มีแค่ Baby Boomers และ Gen X ซึ่งการเข้ามาของกลุ่ม Gen Y และ Gen Z ยิ่งสร้างความท้าทายอย่างมาก เพราะเป็นคนรุ่นใหม่ ที่เติบโตมาพร้อมกับเทคโนโลยี
ทาง ธิดารัตน์ กาญจนวัฒน์ ผู้อำนวยการส่วนภูมิภาค – ไทยและเวียดนาม กลุ่มบริษัทอเด็คโก้ประเทศไทย ได้เสนอมุมมองความท้าทายของ HR ยุคใหม่ ได้สรุปใจความสำคัญทั้งหมด 10 ข้อด้วยกัน ได้แก่
- ในองค์กรยุคปัจจุบันจะประกอบด้วยคน 4 เจนเนอเรชั่นแล้ว กลุ่มคน Gen X และ Gen Y จะเป็นกลุ่มใหญ่ที่สุด ในขณะที่กลุ่ม Baby Boomers ค่อยๆ ลดลงเพราะถึงวัยเกษียณ องค์กรต้องเรียนรู้ความแตกต่างของคน 4 เจนให้ดี เรียนรู้คาแรกเตอร์ เพราะมีความต้องการในชีวิต และการทำงานไม่เหมือนกัน
- คน Gen X จะขึ้นเป็นฝ่ายบริหาร หรือระดับหัวหน้ามากขึ้น โดยจะต้องมีกลุ่มคน Gen Y เป็นลูกน้อง จะบริหารแบบเดิมเหมือนตอนกลุ่ม Baby Boomers ไม่ได้ ที่สั่งงานแล้วต่างคนต่างทำ คน Gen Y ต้องการให้สั่งงานไป สอนงานไปด้วย ให้คำปรึกษางานได้ตลอด ถ้างานไม่ตื่นเต้นเมื่อไหร่ คน Gen Y ก็พร้อมเปลี่ยนงานได้ทันที
- องค์กรต้องปรับตัว ตื่นตัวอย่างมาก ผู้บริหารต้องมีวิสัยทัศน์ในการบริหารคน ใช้แนวคิดแบบเดิมๆ ไม่ได้ ต้องเข้าใจความต้องการของพนักงาน เพราะคนยุคนี้ไม่ได้สนใจว่าจะต้องเข้าทำงานแต่องค์กรใหญ่ๆ แต่สนใจว่าข้างในองค์กรจะมีอะไรให้เขาทำได้มากกว่า อาจจะมองบริษัทเล็กๆ แต่ทำให้เขารู้สึกว่ามีคุณค่ามากกว่า จึงได้เห็นคนยุคนี้ทำงานสตาร์ทอัพมากขึ้น เพราะมีความยืดหยุ่นในการทำงานสูง
- ยุคนี้ HR ไม่ได้มีแค่ตำแหน่งสรรหาบุคลากร หรือจัดการฝึกอบรม แต่ต้องเป็น Business Partner คนร่วมกำหนดกลยุทธ์ของแบรนด์ หรือองค์กร ต้องทำงานร่วมกับผู้บริหาร และฝ่ายการตลาด เพราะการบริหารคนกลายเป็นหนึ่งในการสร้างแบรนด์ ช่วยในการดึงดูดคนเก่งๆ เข้ามา และรักษาให้อยู่ในองค์กรได้ ต้องช่วยกันหารือว่าจะปรับเพิ่มสวัสดิการตรงไหน เพื่อเหมาะกับคนรุ่นใหม่ และเหมากับคนทั้ง 4 เจนในองค์กร
- สวัสดิการยังเป็นคำตอบสำคัญที่คนยุคนี้เลือกในการทำงาน จะเป็นสวัสดิการแบบ One Size Fit All ไม่ได้แล้ว ต้องยืดหยุ่นแต่ละบุคคล ต้องเหมาะกับคน 4 เจน คน Gen Y อาจจะไม่สนใจเรื่องกองทุน หรือสวัสดิการหลังเกษียณ เพราเขาคิดว่าไม่ได้อยุ่นานขนาดนั้น แต่จะดูเรื่องการยืดหยุ่นในการทำงาน ไม่ต้องทำงานวันเสาร์ สามารถทำงานข้างนอกได้ เวลา 9 to 5 เป็นคำตอบที่ต้องการหรือไม่ หรือจะยืดหยุ่นตามบุคคล เช่น ให้เงินก้อนหนึ่งมา แล้วไปจัดสรรเองว่าอยากได้สวัสดิการอะไรบ้าง องค์กรต้องปรับตัวเพิ่มมากขึ้นในจุดนี้
- Gig Economy ไม่ใช่เรื่องไกลตัว แต่เริ่มเห็นชัดมากขึ้นในไทย เพราะการทำงานประจำไม่ใช่คำตอบของคนรุ่นใหม่อีกต่อไป เขามักจะหางานอดิเรก อาชีพเสริม ซึ่งองค์กรไม่สามารถห้ามได้ในการทำงานเสริม หลายองค์กรเริ่มมีการจ้างพนักงานในเงื่อนไขแบบไม่ประจำมากขึ้น เพราะพนักงานบางคนยังอยากทำงานกับองค์กร แต่ไม่ต้องการทำงานเต็มเวลา จึงเป็นข้อเสนอร่วมกันในการทำงานตามเวลาเท่านั้น ซึ่งลูกจ้างก็ได้ทำงานอื่นร่วมด้วย ส่วนใหญ่จะเห็นในสายงานที่ต้องใช้ความสามารถเฉพาะด้านจริงๆ องค์กรก็ไม่อยากหาพนักงานคนใหม่เพราต้องเสียเวลาในการฝึกอบรมใหม่ด้วย
- การทำงานในยุคนี้ไม่ใช่ Work Life Balance แต่มองว่าต้องเป็น Work Life Blend องค์กร และ HR ต้องสร้างบรรยากาศการทำงานใหม่ๆ ทั้งการตกแต่งออฟฟิศต้องมีสีสัน มีความแปลกใหม่ๆ ไม่ใช่แค่ห้องทำงานสี่เหลี่ยม คนยุคนี้ต้องการที่จะทำงาน และใช้ชีวิตไปพร้อมๆ กัน ไม่ได้มองว่าจัดต้องจัดสมดุลเป็น Work Life Balance เหมือนคน Gen X
- ใช้โซเชียลมีเดียเป็นสื่อในการทำงานให้เป็นประโยชน์ ยุคนี้ไม่สามารถไปห้าม หรือบล็อกไม่ให้เล่นโซเชียลมีเดียในการทำงานได้แล้ว เพราะสามารถเล่นผ่านสมาร์ทโฟนได้ แต่องค์กรต้องรู้จักใช้โซเชียลมีเดียให้เป็นประโยชน์ ใช้สอนให้พนักงานใช้อย่างพอเหมาะ หรือใช้ในการแชร์ไอเดียในการทำงาน เพื่อสร้างบรรยากาศการทำงานที่ดีก็ได้
- AI กับ HR เริ่มเห็นมากขึ้นในการเข้ามาช่วยวิเคราะห์ดาต้าต่างๆ ที่มีจำนวนมาก เช่น การช่วยสแกนจดหมายสมัครงาน คัดกรองคุรสมบัติที่ต้องการได้ ช่วยทำเวลาให้สั้นลง แต่ HR ยังเป็น Personalize Service ที่ต้องอาศัยการคิดวิเคราะห์ของคน การสื่อสารของคน บางอย่างที่ AI ก็ยังทำไม่ได้ อาชีพนี้ยังไม่ถูกทดแทนโดย AI แน่ๆ แต่จะมาใช้งานร่วมกันให้มีประสิทธิภาพ
- การบริหารคน Gen Y และ Gen Z ที่มีความคิดไม่ค่อยอยากเป็นลูกจ้าง หัวหน้าต้อง Engage กับเขาให้มากๆ พยายามให้มีส่วนร่วมในงานตั้งแต่เริ่ม งานต้องเห็นคุณค่าชัดเจน มีกิจกรรมให้สนุกสนาน มีธีม ที่สำคัญผู้บริหารต้องเห็นผลงาน ทำให้เขารู้สึกภูมิใจในตัวเอง และภูมิใจในงาน คนกลุ่มนี้ชอบคุยงานผ่าน LINE วันเสาร์-อาทิตย์สามารถสั่งงานได้ และยินดีทำ แต่อย่าโทรตาม โทรจิก
ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา