ถึงคราวปรับตัวครั้งใหญ่ของ SF Cinema โรงภาพยนตร์เบอร์ 2 ในไทย ได้ทำการยกเครื่อง ลงทุนด้านไอทีครั้งใหญ่ ด้วยงบ 30 ล้านบาท หวังดันยอดซื้อตั๋วหนังผ่านออนไลน์เพิ่มเป็น 30% รับพฤติกรรมผู้บริโภคยุคดิจิทัล
SF ยุค 4.0 มาช้า ดีกว่าไม่มา
ถึงแม้ว่าการมาของ Netflix ที่หลายคนจะมองว่าจะสร้างผลกระทบอย่างหนักให้กับธุรกิจโรงภาพยนตร์ แต่ในทางกลับกันก็ยังทำให้โรงภาพยนตร์มีการเติบโตอยู่ เพราะพฤติกรรมผู้บริโภคยังคงนิยมไปดูหนังที่โรงอยู่ แต่อย่างไรแล้วก็ทำให้ผู้เล่นในตลาดพากันปรับตัวยกใหญ่ เพื่อดึงดูดผู้บริโภค
ทาง Major Cineplex เบอร์หนึ่งในตลาดต่างอัดงบลงทุนอย่างหนักในช่วงหลายปีที่ผ่านมา ขนนวัตกรรมใหม่ๆ รวมถึงเร่งขยายสาขาให้เข้าถึงผู้บริโภคทุกกลุ่ม ซึ่งมีการเจาะตลาดระดับตำบลมากขึ้น และมีการปรับรูปแบบโรงภาพยนตร์ใหม่ๆ อย่างต่อเนื่อง
ส่วน SF Cinema ในฐานะเบอร์สอง แม้ว่าจะไม่มีการเคลื่อนไหวที่หวือหวามากนัก แต่ก็ได้เห็นการปรับตัวอยู่ไม่น้อย ได้ทำการรีแบรนด์เมื่อ 2 ปีที่ผ่านมา มีการปรับโลโก้ ปรับภาพลักษณ์ให้ดูทันสมัยขึ้น และได้เพิ่มโมเดลโรงภาพยนตร์ใหม่ๆ ที่รวมที่นั่ง 4 รูปแบบไว้ในโรงเดียว
ซึ่งในปี 2560 ที่ผ่านมาถือเป็นปีแห่งการลงทุนครั้งใหญ่ของ SF Cinema ในแง่ของระบบไอที เรียกว่าเป็นหัวใจสำคัญของการทำธุรกิจยุคนี้เลยก็ว่าได้ โดยได้ทุ่มงบ 30 ล้านบาทในการรื้อระบบไอทีทั้งหมด ปรับหน้าเว็บไซต์ และแอพพลิเคชั่นเพื่อรองรับพฤติกรรมลูกค้าในโลกออนไลน์
สุวิทย์ ทองร่มโพธิ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร สายงานปฏิบัติการ บริษัท เอส เอฟ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) ได้เล่าให้ฟังว่า
“ปีที่แล้วเป็นปีแห่ง Revolution ของ SF มีการปรับด้านไอทีแบบ Total Change เป็นการลงทุนครั้งใหญ่ด้วยงบ 30 ล้านบาท ก็คือรื้อระบบใหม่ แก้ Infrastructure ทั้งหมด ทั้งเว็บไซต์ใหม่ และแอพพลิเคชั่นด้วย เหตุผลที่เริ่มทำอย่างหนักปีที่แล้วเพราะว่าระบบทุกอย่างพร้อม ซึ่งมองว่าก่อนหน้านี้ระบบยังไม่พร้อมเท่าไหร่ ทั้ง Infrastructure และระบบเพย์เมนต์ ปีนี้จะต่อยอดให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น”
ดันช่องทางออนไลน์เพิ่มเป็น 30%
ทาง SF Cinema มองเห็นเทรนด์การเติบโตในการจองตั๋วผ่านช่องทางออนไลน์มากขึ้น โดยในปี 2016 สัดส่วนการซื้อตั๋วผ่านออนไลน์มีแค่ 3% แต่หลังจากที่ปรับระบบไอทีใหม่ สัดส่วนช่องทางออนไลน์ได้เพิ่มขึ้นเป็น 10% ในปีที่ผ่านมา ในปีนี้หวังยอดเพิ่มขึ้นเป็น 30% ให้ได้
“ในปีที่แล้วตอนไตรมาสที่ 3 เราได้ทำการรีล๊อนซ์ใหม่ทั้งเว็บไซต์ และแอพพลิเคชั่น เพื่อดูพฤติกรรมผู้บริโภคในการซื้อตั๋วผ่านออนไลน์ เช่น มีการเปลี่ยนรูปแบบการซื้อในเว็บไซต์ใหม่ จากเดิมที่กว่าจะซื้อตั๋วได้ต้องกด 7 หน้า ปรับให้เหลือแค่ 4 หน้าเท่านั้น”
ผนึก SCB หวังกระตุ้นยอดซื้อให้สูงขึ้น
หลังจากที่ได้ประกาศถึงการร่วมมือครั้งใหญ่กับ SCB สามารถซื้อตั๋วหนังผ่านแอพ SCB EASY ได้ สุวิทย์มองว่าเป็นปรากฎการณ์ใหม่ที่ธนาคารลงมา Digital Platform มากขึ้น ยิ่งช่วยกันสร้างการเติบโตทั้ง 2 ฝ่าย ที่สำคัญได้แลกเปลี่ยนดาต้าของผู้บริโภคกันด้วย
ปัจจุบัน SF Cinema มีทั้งหมด 57 สาขา 373 โรงภาพยนตร์ สำหรับแผนการลงทุนในปีนี้ได้วางงบลงทุน 15-20 ล้านบาท ขยายอีก 8 สาขา 40 โรง ยังเน้นโครงการใหญ่ ห้างสรรพสินค้า เช่น Tops พะเยา, เทอมินัล พัทยา, บิ๊กซีเพชรเกษม, บิ๊กซีสระแก้ว และบิ๊กซีสมุทรสงคราม
โดยในปีนี้ SF Cinema ตั้งเป้าเพิ่มยอดขายตั๋วหนังรวม 18 ล้านใบ เพิ่มขึ้นจากปีที่แล้วที่มียอดขายตั๋วหนัง 17 ล้านใบ
สรุป
- ถือเป็นการปรับตัวครั้งใหญ่ของ SF Cinema ที่ปรับใหญ่ด้านระบบไอที เพราะช่องทางออนไลน์กลายเป็นช่องทางสำคัญในยุคนี้ แต่ในแง่ของการตลาดดูเหมือนว่า SF Cinema ดูแผ่วเบาไปบ้าง ยังไม่มีการทำตลาดที่หวือหวามากนักเมื่อเทียบกับคู่แข่ง
ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา