ไม่แคร์กระแส! ค่ายรถญี่ปุ่น Mitsuoka ยังเน้นรูปลักษณ์ แม้ทั้งตลาดจะไปเรื่องรักสิ่งแวดล้อม

ถือเป็นอีกแบรนด์รถยนต์ที่ค่อนข้างอินดี้พอสมควรสำหรับ Mitsuoka เพราะไม่ว่ากระแสโลกจะไปทางไหน ตัวแบรนด์ก็ยังเน้นแต่การออกแบบภายใต้แนวคิด “คลาสสิค แต่วิ่งได้จริง” มาตั้งแต่ 50 ปีที่แล้วถึงปัจจุบัน

Mitsuoka Himiko

ขายได้เรื่อยๆ เพราะดีไซน์ไม่เหมือนใคร

Mitsuoka Motor ก่อตั้งเมื่อปี 2511 ถือเป็นผู้ผลิตรถยนต์รายเล็กในญี่ปุ่น โดยช่วงแรกเน้นผลิตรถยนต์ขนาดเล็ก ก่อนที่จะมาโด่งดังจริงๆ กับการนำโครงรถยนต์ของค่ายใหญ่ๆ มาดัดแปลงให้กลายเป็นรถยนต์แบบคลาสสิก โดยเริ่มต้นที่หยิบโครงของ Nissan รุ่น Silvia S13 มาแต่งใหม่ให้เป็นรถยนต์คลาสสิครุ่น Le-Seyde ในปี 2533

แถมยังจำกัดจำนวนจำหน่ายเพียง 500 คัน ซึ่งก็ขายหมดภายใน 72 ชม. แรกอีกด้วย ดังนั้นเมื่อตัวธุรกิจเริ่มจับทางได้ จึงเดินเดินกลยุทธ์นี้มาตลอด ประกอบกับการเจรจากับแบรนด์รถยนต์หรู ทั้ง Audi และ Lamborghini เพื่อเสริมรายได้อีกทางหนึ่ง เพราะรถยนต์ประเทศที่บริษัททำตลาดใช่ว่าจะมีคนซื้อจำนวนมากๆ ในแต่ละปี

ส่วนปัจจุบัน Mitsuoka ทำตลาดรถยนต์นั่งส่วนบุคคลทั้งหมด 5 รุ่นประกอบด้วย GaLue ที่นำโครงของ Nissan รุ่น Tiena มาดัดแปลง, Ryugi ที่นำโครงของ Toyota รุ่น Corolla Axio มาดัดแปลง, Viewt ที่นำโครงของ Nissan รุ่น March มาดัดแปลง และ Himiko ที่นำโครงของ Mazda รุ่น MX-5 มาดัดแปลง

รุ่นต่างๆ ของ Mitsuoka

แตกต่างอย่างมั่นใจ ด้วยยอดขายที่เติบโต

ซึ่ง Himiko นั้นเพิ่งปรับโฉมใหม่ หลังจากวางจำหน่ายรุ่นแรกในปี 2551 และขายไปได้กว่า 271 คันทั่วโลก (ในประเทศ 60% ส่งออก 40%) ผ่านคงเรื่องการออกแบบนี้เน้นความคลาสสิคไว้เช่นเดิม แต่ปรับแต่งเรื่องเครื่องยนต์ให้ใช้ขนา 1,500 ซีซี และเปิดราคาขายเริ่มต้น 5 ล้านเยน (ราว 1.46 ล้านบาท)

Akio Mitsuoka ประธานของ Mitsuoka ตอกย้ำนโยบายการทำตลาดของบริษัทว่า แม้กระแสรถยนต์รักษาสิ่งแวดล้อมจะเป็นเรื่องที่ผู้ผลิตรถยนต์หลายค่ายกำลังเร่งพัฒนา แต่ของบริษัทเองจะเน้นเรื่องการแบบ และแตกต่างด้วยความย้อนยุค ไม่ได้ตามกระแสหลัก พร้อมชูเรื่องการประกอบแบบ Hand-Made

สำหรับ Mitsuoka นั้นนอกจากจำหน่ายในประเทศเป็นหลัก ยังส่งออกไปที่เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ (ยนตรกิจเคยนำเข้ามาขายในไทยเมื่อ 10 ปีก่อน แต่ปัจจุบันเลิกไปแล้ว), ตะวันออกกลาง และอังกฤษ รวมถึงมีเป้าหมายขยายไปตลาดอื่นๆ ที่มีความชื่นชอบรถยนต์สไตล์คลาสสิคเช่นเดียวกัน

สรุป

กลยุทธ์ของ Mitsuoka ก็ค่อนข้างน่าแปลกใจว่ายังเดินมาได้นานขนาดนี้ เพราะด้วยดีไซน์ที่มันคลาสสิคมากๆ และคงมีผู้บริโภคที่ชื่นชอบสินค้าแบบนี้เพียงน้อยนิด แต่หากรักษากลุ่มนี้เอาไว้ได้ ก็ไม่แปลกที่จะขายได้เรื่อยๆ ผ่านการทำตลาดในสินค้าที่ไม่เคยมีคนทำมาก่อน

อ้างอิง // Japan Today, ภาพและเนื้อหาจาก Mitsuoka

ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา