ทางออกของร้านของเล่นรายใหญ่ Toys “R” Us หลังการยื่นขอล้มละลายในปีก่อน มาปีนี้สั่งปิดอีก 200 สาขา พนักงานเตรียมตกงานอีกกว่า 5,000 คน และจะปลดพนักงานคนสำคัญออกด้วย
ลดขนาดบริษัท ลดสาขา ปลดพนักงาน คือทางออก
สืบเนื่องจากช่วงเดือนกันยายนของปีที่แล้ว ร้านของเล่น Toys “R” Us ยื่นขอล้มละลาย เนื่องจากปัญหาหนี้สะสม และปัญหาในการแข่งขันกับค้าปลีกรายใหญ่อย่าง Walmart และ Target รวมถึงยักษ์ใหญ่แห่งอีคอมเมิร์ซอย่าง Amazon ที่ต่างลงมาแย่งชิงตลาดของเล่น จนทำให้ Toys “R” Us ได้รับผลกระทบหนัก
ล่าสุด Toys “R” Us ประกาศปิดสาขาทั้งหมด 200 แห่งในสหรัฐอเมริกา ภายในสิ้นเดือนเมษายนปีนี้ คาดว่าจะกระทบพนักงานไม่ต่ำกว่า 5,000 คน
ที่น่าตกใจคือ แหล่งข่าวที่ให้ข้อมูลกับ The Wall Street Journal ระบุว่า รอบนี้ Toys “R” Us จะปลดพนักงานคนสำคัญของบริษัทออกด้วย แต่ต้องติดตามดูว่าคือใคร และทำงานในตำแหน่งไหน
ก่อนหน้านี้ มีกระแสข่าวว่า Toys “R” Us จะสั่งปิดสาขาประมาณ 170 – 180 สาขา คำนวณแล้วจะมีพนักงานตกงานประมาณ 4,500 คน แต่ล่าสุด แหล่งข่าวยืนยันอีกครั้งว่า ตัวเลขที่จะทำการปิดสาขาจริงๆ คือ 200 แห่ง เพราะฉะนั้น ตัวเลขพนักงานที่ตกงานจะพุ่งสูงขึ้นไปอีก น่าจะไม่ต่ำกว่า 5,000 คน
ส่วนสาขาของ Toys “R” Us ที่เคยมีอยู่ 800 สาขาในสหรัฐอเมริกา ก็จะเหลือเพียง 400 สาขาเท่านั้น
แต่ทั้งนี้ การปิดสาขาของ Toys “R” Us ไม่ใช่เรื่องน่าแปลกใจ เพราะการยื่นขอล้มละลายในปีก่อนหน้า เข้าใจได้อยู่แล้วว่า ถ้าบริษัท Toys “R” Us ต้องการอยู่รอดในสมรภูมิค้าปลีกอันดุเดือด จำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องปรับขนาดของบริษัทให้เล็กลง ซึ่งหมายความว่า ต้องลดทั้งปริมาณสาขา และจำนวนพนักงานให้น้อยลงตามไปด้วยนั่นเอง
ที่มา – Thisisinsider
ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา