“ถ้าไม่ปรับ เบอร์หนึ่งก็อยู่ยาก” Samsung ยกเครื่อง Brand Shop ทั่วไทยรับเทรนด์ผู้ซื้อเปลี่ยน

พฤติกรรมผู้บริโภคในปัจจุบันเปลี่ยนจาก 2-3 ปีไปอย่างมาก โดยเฉพาะเรื่อง Smartphone ที่เริ่มเข้าใจการใช้งานมากขึ้น ดังนั้นจุดจำหน่าย Smartphone ก็ต้องปรับเหมือนกัน เพื่อคงยอดขายเอาไว้ให้ได้ดังเดิม

ภายในร้าน Samsung Experience Shop
ภายในร้าน Samsung Experience Shop

Brand Shop คืออีกหน้าต่างในการตัดสินใจ

ตอนนี้การซื้อ Smartphone ของผู้บริโภคนั้นมีหลายช่องทาง ไล่ตั้งแต่ร้านตู้, ร้านเชนที่มีหลายสาขา, ร้านโอเปอเรเตอร์ จนถึงช่องทางออนไลน์ แต่วันนี้จะพูดถึงช่องทางที่สามารถจับสินค้าได้ก่อนซื้อ นั่นก็คือ 3 ช่องทางแรก ซึ่งช่องทางที่น่าจะเป็นหน้าของแบรนด์ได้ดีที่สุดก็คือ Brand Shop หรือร้านที่ปะชื่อแบรนด์นั่นเอง

โดยในตลาดไทยนั้น Smartphone เกือบทุกแบรนด์ที่ Active อยู่ในตลาดต่างก็มี Brand Shop ของตัวเองอยู่แล้ว เพื่อแสดงสินค้า และประสิทธิภาพออกมาให้ผู้ซื้อได้รู้ได้เห็นอย่างเต็มที่ ซึ่ง Samsung ก็คือหนึ่งในแบรนด์ที่มี Brand Shop และเปิดไปถึง 128 สาขาทั่วประเทศไทย ผ่านการร่วมกับ Jaymart, TG Fone, Com7 และอื่นๆ

ภาพหน้าร้านของ Samsung Experience Shop ที่มี Galaxy Note 8 เป็นตัวชูโรง
ภาพหน้าร้านของ Samsung Experience Shop

แต่ Brand Shop จะมีลักษณะเหมือนเดิมตลอดไปก็ใช่เรื่อง เช่นของ Samsung เองก็เปลี่ยนเกือบทุกๆ 4-5 ปี เพื่อรับกับพฤติกรรมใหม่ๆ ของผู้บริโภค และปีนี้ก็คงถึงเวลาที่ต้องเปลี่ยนแล้ว โดยมากับแนวคิด Experience Store หรือให้ประสบการณ์การใช้งานอย่างเต็มที่ โดยหวังเป็นอีกหน้าต่างที่ดีที่สุดในการตัดสินใจของลูกค้า

ลงทุนยกเครื่อง 128 สาขา ตามความเหมาะสม

“เราใช้เวลากว่า 2 เดือนในปิด และการสร้าง Brand Shop ใหม่ ซึ่งร้านมันจะดูโล่งๆ และไม่ค่อยเน้นขาย เน้นประสบการณ์ใช้งานมากกว่า ซึ่งพอทำแบบนี้ และ Soft Launch ไป 2 เดือน ยอดขายในร้านก็เพิ่มขึ้นถึง 40% ด้วย” วิชัย พรพระตั้ง รองประธานองค์กร ธุรกิจโทรคมนาคมและไอที บริษัท ไทยซัมซุง อิเลคโทรนิคส์ จำกัด กล่าว

วิชัย พรพระตั้ง รองประธานองค์กร ธุรกิจโทรคมนาคมและไอที บริษัท ไทยซัมซุง อิเลคโทรนิคส์ จำกัด
วิชัย พรพระตั้ง รองประธานองค์กร ธุรกิจโทรคมนาคมและไอที บริษัท ไทยซัมซุง อิเลคโทรนิคส์ จำกัด

ทั้งนี้ Samsung ประเทศไทยมีแผนที่จะยกเครื่อง Brand Shop ทั้งหมดในประเทศไทยไปภายใตแนวคิดนี้ และการลงทุนก็เหมือนกับก่อนหน้าคือ Head Quarter ที่เกาหลีใต้ หรือ Samsung ประเทศไทยจะเป็นผู้รับผิดชอบค่าใช้จ่ายในการออกแบบ และตกแต่งทั้งหมด ส่วนเรื่องพนักงานขายก็เป็นหน้าที่ของผู้ได้สิทธิบริหารหน้าร้านนั้นๆ

8,000-10,000 บาทคือราคา Smartphone ขายดี

อย่างไรก็ตามตัว Brand Shop ใหม่ของ Samsung น่าจะเสร็จในปีนี้ราว 10 แห่ง และส่วนใหญ่ในช้อปจะเน้นสินค้าระดับ Flagship ทั้ง Smartphone, Tablet รวมถึง Accessory ในทางกลับกันตลาด Smartphone ปีนี้ Jaymart คาดว่า รุ่นราคา 8,000-10,000 บาทน่าจะขายดี หลังผู้บริโภคส่วนใหญ่เริ่มเข้าสู่ช่วงเปลี่ยนเครื่องใหม่

สรุป

การปรับตัวของ Samsung เป็นสัญญาณเตือนให้กับแบรนด์จีนที่กำลังรุกหนักในตลาด Smartphone ว่า หน้าร้านก็ยังสำคัญอยู่ เพราะด้วยตัวสินค้าที่ราคาสูง 20,000-30,000 ผู้บริโภคชาวไทยยังชื่นชอบที่จะหยับจับของจริงก่อนซื้อ และจะพึ่งแค่ส่งเซลล์ไปประจำในร้านค้าปลีก หรือร้านโอเปอเรเตอร์ ก็คงไม่ดีเท่ามีร้าน และพนักงานของตัวเอง

ที่สำคัญการปรับตัวครั้งนี้ แสดงถึงการพยายามรักษาเบอร์หนึ่งของตลาด Smartphone เอาไว้ เพราะถ้ายังอยู่เฉยๆ แบรนด์จีนต่างก็รอเสียบอยู่

ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา