เจ็ทสตาร์ กรุ๊ป กลุ่มสายการบินราคาประหยัดในเครือกลุ่มแควนตัส แถลงผลกำไรก่อนหักดอกเบี้ยและภาษี (EBIT) ที่ 452 ล้านเหรียญสหรัฐฯ สำหรับงวดการเงินปี 2559 เพิ่มขึ้น 97%
หลังจากมีการเปิดให้บริการเที่ยวบินระยะไกลของเจ็ทสตาร์ ด้วยเครื่องบินโบอิ้ง 787-8 ดรีมไลเนอร์ส แผนการลงทุนต่อไปจะมุ่งเน้นในเรื่องการพัฒนาประสบการณ์การใช้บริการของผู้โดยสาร และช่องทางการขายออนไลน์ต่างๆ
สายการบินเจ็ทสตาร์ในทวีปเอเชียสามารถทำกำไรเพิ่มขึ้น 85 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ในปีที่ผ่านมา รวมถึงผลกำไรงวดรวมทั้งปีเป็นครั้งแรกของเจ็ทสตาร์ เจแปน ซึ่งเพิ่งประกาศแผนเพิ่มจำนวนเครื่องบินจาก 20 เป็น 28 ลำให้ได้ภายใน 3 ปีข้างหน้าเป็นการต่อยอดความสำเร็จ นับตั้งแต่มีการเปิดตัวของสายการบินไปเมื่อปี 2555 และเป็นการรองรับการเติบโตทั้งตลาดในประเทศและต่างประเทศในอนาคตด้วย
สำหรับผลประกอบการดังกล่าว มาจากการทำธุรกิจการบินภายในประเทศที่ดีมีกำไรก่อนหักดอกเบี้ยและภาษี 242 ล้านเหรียญสหรัฐฯ โดยมาจากความได้เปรียบด้านแบรนด์และเครือข่ายสายการบิน ขณะที่ธุรกิจการบินระหว่างประเทศ เจ็ทสตาร์ ให้บริการด้วยเครื่อง โบอิ้ง 787-8 และมีอัตราเติบโตดีในตลาดเอเชียแปซิฟิก โดยเฉพาะในประเทศสิงคโปร์ที่มีการแข่งขันสูง ได้เปิดตัวเส้นทางการบินใหม่ 4 เส้นทาง รวมถึงเที่ยวบินเช่าเหมาลำไปประเทศจีน และสามารถลดต้นทุนต่อหน่วยรวมลงได้
ทั้งนี้ เจ็ทสตาร์ยังให้ความสำคัญไปที่กลยุทธ์การให้บริการที่ยึดลูกค้าเป็นหลัก สนับสนุนลูกค้า ให้มั่นใจและใช้บริการของสายการบิน (Customer Advocacy) รวมถึงเพิ่มรายได้เสริม (Ancillary Revenue Growth) พร้อมด้วยการลงทุนด้านการฝึกอบรมบริการใหม่ๆ และระบบการขายทางดิจิตัล การปรับปรุงเว็บไซต์ jetstar.com โฉมใหม่ ยังช่วยให้ผู้โดยสารได้รับประสบการณ์การใช้บริการได้ดีมากยิ่งขึ้น จากการใช้ข้อมูลมาพัฒนาผลิตภัณฑ์หรือบริการต่างๆ
ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา