แสนสิริ ตอกย้ำและยืนยันกระแส Sharing Economy ด้วยการประกาศจับมือ 6 พันธมิตรชั้นนำด้านการเดินทาง ครอบคลุมตั้งแต่จักรยาน มอเตอร์ไซค์ไฟฟ้า ไปจนถึงรถยนต์ ผู้บริหารของแสนสิริบอกเลยว่า “อยู่กับแสนสิริ ไม่ต้องมีรถก็ได้”
“อยู่กับแสนสิริ คุณไม่ต้องมีรถ” เพราะมีให้เช่าในโครงการ
ในงาน Smart Move ที่ แสนสิริ ประกาศเปิดตัวแพลตฟอร์มให้บริการยานพาหนะระบบเช่าในโครงการ โดยได้จับมือกับพันธมิตรถึง 6 ราย ได้แก่ Honda ผู้นำรถจักรยานยนต์จากญี่ปุ่นและเป็นเบอร์ 1 ของไทย, Uber ผู้ให้บริการรถร่วมเดินทางผ่
ดร. ทวิชา ตระกูลยิ่งยง ประธานผู้บริหารสายงานเทคโนโลยี บริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน) บอกว่า “การผนึกพันธมิตรครั้งนี้เป็นหนึ่งในแผนของ Smart Move ที่ต้องการทำแพลตฟอร์มให้บริการเช่ายานพาหนะในโครงการของแสนสิริ เป็นการตอกย้ำกระแส Sharing Economy ซึ่งเป็นเทรนด์ของโลกปี 2018 และที่สำคัญในท้ายที่สุด แสนสิริต้องการเป็น Living Lifestyle ให้แก่ลูกบ้าน โครงการนี้จะเป็นชิ้นส่วนสำคัญในการผลักดัน”
“อยู่กับแสนสิริ คุณไม่ต้องมีรถก็ได้ เพราะโครงการ Smart Move จะทำให้เกิดความสะดวกและสบาย สามารถเช่ารถได้ทุกประเภท ตั้งแต่จักรยาน มอเตอร์ไซค์ไฟฟ้า และรถยนต์ไฟฟ้า หรือถ้าคุณมีรถยนต์ไฟฟ้า สิทธิพิเศษของการเป็นลูกบ้านแสนสิริ คือมีที่ชาร์จแบตเตอรี่รถยนต์ไฟฟ้าตั้งอยู่ในโครงการด้วย”
อธิบายโครงการ Smart Move ของแสนสิริแบบเข้าใจง่ายคือ ภายในปี 2018 นี้ ลูกบ้านของแสนสิริในโครงการที่พักอาศัยทุกประเภท ไม่ว่าจะเป็นคอนโดมิเนียม บ้านเดี่ยว หรือทาวน์เฮาส์ หากต้องการเช่ายานพาหนะ ซึ่งมีตั้งแต่รถจักรยาน มอเตอร์ไซค์ไฟฟ้า และรถยนต์ไฟฟ้า
สิ่งที่ลูกค้าต้องทำ คือเข้าไปโหลดแอพพลิเคชั่นของแสนสิริ จากนั้นก็จะใช้บริการแพลตฟอร์มนี้ได้ โดยโครงการที่ครอบคลุมและใช้งานได้ทันทีคือ เดอะ ไลน์ ราชเทวี, เดอะ เบส การ์เดน พระราม9, เดอะ ไลน์ อโศก–รัชดา, ทากะ เฮาส์, ฮาบิโตะคอมมูนิตี้มอลล์ใน T77
6 พันธมิตร และการผลักดัน Sharing Economy กับแสนสิริ
เริ่มต้นที่ Honda โดยจะนำเอามอเตอร์ไซค์ไฟฟ้าเข้ามาให้ใช้บริการ สุชาติ อรุณแสงโรจน์ รองประธานกรรมการบริหาร บริษัท เอ.พี. ฮอนด้า จำกัด บอกว่า มอเตอร์ไซค์ไฟฟ้าของ Honda รุ่นที่จะนำมาใช้ในโครงการ Smart Move จะเป็นรุ่นใหม่ล่าสุดที่จะเปิดตัวในปีนี้ (ยังไม่เผยข้อมูล) สิ่งที่น่าสนใจคือ มอเตอร์ไซค์ไฟฟ้ารุ่นนี้จะเปิดตัวในไทยเป็นที่แรก และใช้ในโครงการของแสนสิริเป็นที่แรก นั่นหมายความว่า ลูกบ้านของแสนสิริจะได้สัมผัสเป็นที่แรกของโลก
ในด้านของ Ofo ช่วง 1 เดือนแรกนี้ จะให้ลูกบ้านของแสนสิริใช้จักรยานฟรี ไม่มีค่าบริการ แต่หลังจากนี้ ค่าบริการจะคิดเป็นอัตราเดียวกับที่อื่นคือ เช่า 5 บาท นำไปใช้งานได้ 30 นาที อย่างไรก็ตามแม้ว่า Ofo จะประสบความสำเร็จในจีนและในบางประเทศ แต่ในไทยยังถือว่าใหม่มาก คงต้องทำตลาดอีกสักพัก รวมถึงหาพาร์ทเนอร์รายอื่นๆ ในไทยเพื่อขยายธุรกิจด้วย
ส่วน Uber มองว่าเป็นโอกาสดีที่จะเข้ามาจับมือกับแสนสิริ ศิริภา จึงสวัสดิ์ ผู้จัดการประจำประเทศไทย อูเบอร์ กล่าวว่า สิ่งสำคัญคือวิสัยทัศน์ที่สอดคล้องกันของ Uber และแสนสิริ สิ่งนั้นคือไลฟ์สไตล์ที่ต้องมีเทคโนโลยีอยู่ในชีวิตประจำวัน โดยในช่วงแรกลูกบ้านของแสนสิริ จะได้รับส่วนลดและโปรโมชั่นพิเศษจาก Uber และหลังจากนั้นจะมีแคมเปญออกมากระตุ้นให้เกิดการใช้ Sharing Economy อย่างต่อเนื่อง
ด้าน Haupcar (ฮอปคาร์) ด้วยความเป็นแพลตฟอร์มที่ให้บริการ Car Sharing อยู่แล้ว ดร. สโรช บุญศิริพันธ์ รองประธานสายงานกลยุทธ์และผู้ร่วมก่อตั้ง บริษัท ฮอปคาร์ จำกัด ระบุว่า การจับมือครั้งนี้จะเป็นการสานต่อและขยายบริการเช่ารถยนต์ให้ครอบคลุมในทุกโครงการของแสนสิริ เพราะปัจจุบันแสนสิริทำบริการเช่ารถยนต์ไฟฟ้ารุ่น BMW i3 อยู่แล้ว แต่เพียงว่ายังให้บริการน้อย มีเพียง 2 คันเท่านั้น โดยแสนสิริ ตั้งเป้าไว้ว่า ในปีนี้จะเพิ่ม BMW i3 อีกจำนวน 6 คันมาใช้ในโครงการ
นอกจากนั้น ด้านการติดตั้งและให้บริการด้านสถานีชาร์จไฟฟ้า SHARGE (ชาร์จ) และ EA Anywhere โดย บริษัท พลังงานมหานคร จำกัด จะเข้ามาดูแลในส่วนนี้เป็นหลัก เพื่อขยายสถานีให้บริการอย่างครอบคลุม
สรุป
เป็นอีกก้าวของแสนสิริ ที่จับมือกับพันธมิตรชั้นนำทั้งในและนอกประเทศ เพื่อผลักดันเทรนด์ Sharing Economy ให้เกิดขึ้นจริง ผู้บริหารของแสนสิริ ยังย้ำไว้ว่า บางครั้งขนส่งมวลชนสาธารณะก็ไม่ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ที่รอบด้าน แต่เชื่อมั่นว่าบริการเช่ารถที่ครอบคลุมทุกประเภท ตั้งแต่จักรยาน มอเตอร์ไซค์ และรถยนต์ไฟฟ้า จะเข้ามาแก้ปัญหา และทำให้ชีวิตของลูกบ้านแสนสิริดีขึ้น
ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา