เรียกว่าเดือดกันตั้งแต่ต้นปีก็ว่าได้สำหรับสมรภูมิการค้าย่านราชประสงค์ หลังกลุ่ม “สยามพิวรรธน์” ที่ครอง 3 ห้างฯ ตั้งแต่ Siam Discovery, Siam Center และ Siam Paragon เตรียมควัก 1,200 ล้านบาท ดึงผู้ซื้อไทย-เทศ
เปิดด้วยตรุษจีน ปิดด้วยส่งท้ายปีเก่า
“ราชประสงค์” คือหนึ่งในย่านที่คนไทย และนักท่องเที่ยวเข้ามาจับจ่ายใช้สอยกันอย่างหนาแน่น จึงไม่แปลกที่จะเห็นการแข่งขันในแง่การทำตลาดเพื่อดึงดูดกำลังซื้อของห้างสรรพสินค้าในระแวกนี้ ซึ่งเพียงแค่เดือน 2 ก็มีกลุ่มที่เผยไต๋ออกมาแล้วว่าจะเดินเกมอย่างไร และคงเดาได้ไม่ยากเพราะคือกลุ่มสยามพิวรรธน์ที่ครอง 3 ห้างใหญ่ในย่านนี้
มยุรี ชัยพรหมประสิทธิ์ รองกรมการผู้จัดการใหญ่อาวุโส สายงานส่งเสริมการตลาด บริษัท สยามพิวรรธน์ จำกัด เล่าให้ฟังว่า ปกติแล้วการแข่งขันของธุรกิจศูนย์การค้าในย่านนี้ค่อนข้างดุเดือด และเห็นการทุ่มงบการตลาดเพื่อดึงดูดผู้บริโภคทั้งไทย และนักท่องเที่ยวต่างชาติให้เข้ามาจับจ่ายภายในห้างให้ได้มากที่สุด ทำให้บริษัทต้องเพิ่มงบมาตลอด
“ปีนี้กลุ่มสยามพิวรรธน์น่าจะใช้เงินราว 1,200 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีก่อนที่ใช้ราว 1,000 ล้านบาท เพื่อจัดแคมเปญใหญ่ 6 ครั้งตลอดทั้งปี ภายใต้แนวคิด One Siam โดยเริ่มที่เทศกาลตรุษจีน และปิดด้วยเทศกาลส่งท้ายปีเก่า ที่สำคัญยังถือเป็นครั้งแรกที่เราจัดกิจกรรมภายใต้แนวคิดเดียวกันทั้ง 3 ห้าง จากที่แยกกันจัดมาแทบทุกครั้ง”
สัญญาณดีปีนี้ หลังยอดคน-จับจ่ายโต
สำหรับเทศกาลตรุษจีนนั้นทางกลุ่มใช้เงินราว 50 ล้านบาทเพื่อจัดงานเฉลิมฉลองในวันที่ 5 ก.พ.-12 มี.ค. พร้อมคืนกำไรด้วยการแจกดิจิทัลอั่งเปาแก่ผู้ใช้บริการ โดยคาดว่าจะมีชาวต่างชาติเข้ามาจับจ่ายในเวลานั้น 60% เป็นชาวจีนครึ่งหนึ่ง ที่เหลือเป็นฮ่องกง, เกาหลีใต้, มาเลเซีย และสิงคโปร์ ส่วนคนไทยจะเป็นคนที่ซื้อของลดราคาเป็นหลัก
“ปีนี้ค่อนข้างโชคดีที่ตรุษจีนอยู่ในเดือนก.พ. เพราะถ้าอยู่ในเดือนม.ค. เราจะเห็นได้ชัดเลยว่าคนไทยไม่ค่อยได้เข้ามาสร้างความคึกคักในห้างเท่าไรนัก เหตุผลหลักๆ คือโบนัสยังไม่ออก หรือยังอยู่ในช่วงเทศกาลปีใหม่ ดังนั้นเมื่อตรุษจีนปีนี้ใกล้กับวันวาเลนไทน์ ก็เป็นโอกาสที่กลุ่มสยามพิวรรธน์จะทุ่มทำตลาดเพื่อดึงคนให้เข้าห้างได้อย่างเต็มที่”
อย่างไรก็ตามเมื่อเปิดตัวเลขผู้ใช้บริการ และการจับจ่ายของสยามพิวรรธน์ในเดือนม.ค. พบว่าเติบโตทั้งคู่เมื่อเทียบกับเดือนม.ค. ปี 2560 โดยเติบโต 10% กับ 15% ตามลำดับ ถือเป็นสัญญาณที่ดีในเรื่องกำลังซื้อของชาวไทย และต่างประเทศที่น่าจะดีขึ้นในปีนี้เช่นกัน
เพิ่ม Luxury Brand สร้างวาไรตี้
โดยปกติแล้วกลุ่มสยามพิวรรธน์จะมีผู้เข้ามาใช้บริการเฉลี่ย 3 แสนคน/วัน มาจาก Siam Paragon ราว 1.8-2 แสนคน กับ Siam Discovery และ Siam Center ราว 1 แสนคน ดังนั้นจำนวนคนที่เพิ่ม 10% ในเดือนม.ค. จึงค่อนข้างเยอะ เพราะฐานที่มีอยู่นั้นใหญ่มาก ที่สำคัญจำนวนที่เพิ่มขึ้นยังเป็นผู้ใช้บริการที่มีกำลังซื้ออีกด้วย
เช่นฝั่งคนไทยจะแบ่งเป็น 3 กลุ่มคือ ผู้ที่มีกำลังจับจ่ายสูง, ผู้ที่ซื้อสินค้าตาม Lifestyle และผู้ที่ซื้อสินค้าลดราคาตลอดเวลา ซึ่งบริษัทได้ทำตลาดกับทั้ง 3 กลุ่มนี้แตกต่างกัน เช่นในฝั่งผู้มีกำลังจับจ่ายสูง ก็จะมีบริการพิเศษ กับสินค้า Limited Edition เพื่อตอบโจทย์พวกเขา โดยที่ Siam Paragon ก็เตรียมเพิ่มแบรนด์ Luxury จากเดิม
ส่วนฝั่งชาวต่างชาตินั้น ทางห้างจะเน้นกลุ่มประเทศที่เข้ามาใช้บริการจำนวนมาก ซึ่งบางประเทศอาจแตกต่างกับจำนวนนักท่องเที่ยวที่เข้ามาในประเทศไทย นั่นก็เพราะต้องการตอบโจทย์กลุ่มผู้ใช้บริการในห้างให้ได้ดีที่สุด เช่นเสริมพนักงานชาวจีน รวมถึงสร้างบริการล่ามส่วนตัวเพื่ออำนวยความสะดวกในการซื้อสินค้า
สรุป
เชื่อว่าการแข่งขันในย่านราชประสงค์ยังดุเดือดเหมือนเดิมแน่นอน และคงต้องรอดูฝั่งเซ็นทรัลว่าจะงัดไม้ไหนออกมาแย่งผู้บริโภคให้ไปใช้บริการกันบ้าง และส่วนตัวคิดว่าเทศกาลตรุษจีนน่าจะเป็นเวลาที่ทุกห้างต่างตักตวงผลกำไรจากลูกค้าแดนมังกรเป็นแน่แท้ และคงเป็นเกมแรกที่จะวัดผลว่าใครจะประสบความสำเร็จมากกว่ากัน
ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา