ดีแทค เปิดตัว “ดีอินฟินิท” (dInfinite) เป็น Digital Service Flagship Store รูปแบบใหม่ เปลี่ยนประสบการณ์ดิจิทัลไลฟ์สไตล์ ภายใต้คอนเซ็ปต์ dInfinite The endless digital experiences ต้อนรับลูกค้าดิจิทัลทุกกลุ่มครบวงจร ด้วย 5 เอ็กซ์คลูซีฟโซน เริ่มแห่งแรกที่ ศูนย์การค้าสยามพารากอน ชั้น 4 ตั้งเป้าปรับปรุง 19 สาขาทั่วประเทศ ภายในปี 2560 ด้วยงบประมาณ 240 ล้านบาท เพื่อมุ่งสู่การเป็นแบรนด์ดิจิทัลอันดับ 1 ในประเทศไทย
ลาร์ส นอร์ลิ่ง CEO ของ ดีแทค บอกว่า ดีแทค วางเป้าหมายมุ่งสู่การเป็นแบรนด์ดิจิทัลอันดับ 1 ในประเทศไทย ทั้งการให้บริการเครือข่ายการบริการ สิทธิประโยชน์พิเศษต่างๆ เพื่อมอบความพิเศษให้กับลูกค้าดีแทคอย่างต่อเนื่อง ครั้งนีได้สร้างประสบการณ์บริการด้วย ดีอินฟินิท ดิจิทัลเซอร์วิซแฟลกชิพสโตร์รูปแบบใหม่
ดีอินฟินิท นำเสนอภายใต้คอนเซ็ปต์ dInfinite The endless digital experiences ประสบการณ์ดิจิทัลไลฟ์สไตล์แบบไม่สิ้นสุด ตกแต่งร้านในรูปแบบพิเศษ โดยมัณฑนากรมืออาชีพเจ้าของผลงานการออกแบบศูนย์บริการ “iStudio” ทั่วโลกอย่าง เดวิด เจ. เมเยอร์ ดีไซเนอร์ระดับโลก ชาวอเมริกันจาก บริษัท ไวท์สเปซ (WHITESPACE) จำกัด
แต่ยังคงความเป็นเอกลักษณ์ของแบรนด์ดีแทคด้วยการเลือกใช้โทนสีฟ้า ผสานเข้ากับการใช้วัสดุ ที่เลือกใช้ไม้สีอ่อน เติมเต็มความรู้สึกอบอุ่นและสบายใจทุกครั้งที่เข้ามาใช้บริการ พร้อมแทรกความทันสมัยด้วยการใช้วอลเปเปอร์ที่ทำจากวัสดุแบบไฮกลอสให้ความเรียบและมันวาว ตอกย้ำความเป็นดิจิทัลในทุกรายละเอียด ทำให้ลูกค้าดีแทคที่เข้ามาใช้บริการรู้สึกเหมือนอยู่บ้านที่เต็มไปด้วยบรรยากาศของดิจิทัลไลฟ์สไตล์
นอกจากนี้ ดีแทค ยังได้ยกระดับการบริการรูปแบบใหม่ ผ่าน 5 โซนสุดเอ็กซ์คลูซีฟ ได้แก่ Speedy Queue, Knowledge Table, Smart Table, e-Brochure Wall และ Experience Corner ซึ่งการปรับโฉมครั้งนี้เป็นอีกหนึ่งองค์ประกอบสำคัญเพื่อก้าวสู่ การเป็นแบรนด์ดิจิทัลอันดับ 1 ในประเทศไทยอย่างแท้จริง
สำหรับ 5 โซนเอ็กซ์คลูซีฟ ประกอบด้วย
1. Speedy Queue ลูกค้าดีแทคสามารถทำธุรกรรมได้สะดวกสบายมากขึ้น ให้ลูกค้าสามารถจองคิวออนไลน์ได้ล่วงหน้าก่อนมาถึงดีอินฟินิทผ่านดีแทคแอพลิเคชั่น โดยเลือกบริการ Queue service สามารถดาวน์โหลดแอพฯได้ฟรีที่ App Store หรือ Google Play
2. Knowledge Table ด้วยบริการ Digital Live Streaming ด้วยแอพพลิเคชั่น dtac Music Infinite และ Primetime ผ่านจอ Big Screen Tablet ทั้งไอแพดและซัมซุง นอกจากนี้ลูกค้าดีแทคสามารถช้อปปิ้งผ่านดีแทคออนไลน์ทันใจพร้อมบริการจัดส่งสินค้าถึงบ้าน หรือสอบถามข้อมูลต่างๆ ผ่านบริการ dtac community
3. Smart Table ลูกค้าดีแทคสามารถทดลองสินค้าใหม่ได้ก่อนใคร เช็คสเป็คสินค้าที่ต้องการด้วยข้อมูลที่อัพเดต ผ่านจอมัลติมีเดียบน Smart Table
4. e-Brochure Wall ทางเลือกในการเลือกโปรโมชั่น และข้อมูลที่อัพเดทล่าสุดผ่านระบบหน้าจอสัมผัส สามารถสแกน QR code เพื่อรับข้อมูลที่ต้องการผ่านทางอีเมล์ หรือ SMS
5. Experience Corner อัพเดทเทรนด์ใหม่ล่าสุด เช่น Drone, Star Wars หรือ Gadget เพื่อสุขภาพ พร้อมเปิดให้ทดลองใช้จริงเพื่อสร้างประสบการณ์ใหม่
สรุป
การปรับโฉม Flagship Store ใหม่ของดีแทค เป้าหมายคือการสร้างประสบการณ์ดิจิทัลใหม่ให้กับลูกค้าดีแทค เป็นสิ่งที่ดีในยุคที่การแข่งขันให้บริการโทรศัพท์มือถือ นอกจากเรื่องโครงข่ายให้บริการแล้ว บริการหลังการขายและดูแลลูกค้า คือสิ่งที่จะรักษาให้อยู่ในระบบต่อไป แต่ดีแทค ก็ต้องมองคู่แข่งด้วยเช่นกัน ซึ่งทั้ง AIS และ True มีการเปิดตัวศูนย์บริการในลักษณะ Exclusive Club ถือเป็นโจทย์ต่อไปของดีแทคในการยกระดับการให้บริการเพื่อสร้างความรู้สึกพิเศษให้กับลูกค้า
ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา