บริษัท เบอร์ลี่ ยุคเกอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ BJC ได้รายงานงบการเงินไตรมาส 2 ของปี 2561 โดยกำไรในไตรมาสนี้เพิ่มขึ้น 40% สาเหตุใหญ่มากจากกำไรขั้นต้นที่ดีขึ้นของบริษัท และยอดขายจาก Big C
ไตรมาส 2 ของ BJC กำไรสุทธิอยู่ที่ 1,396 ล้านบาท มากกว่าไตรมาส 2 ปีที่ผ่านมาถึง 40.2%
รายได้รวมของไตรมาสนี้อยู่ที่ 43,029 ล้านบาท เติบโต 5.6% เมื่อเทียบกับไตรมาส 2 ปีทีผ่านมา เติบโตจากรายได้ของร้านค้าปลีกสมัยใหม่ (บิ๊กซี) เพิ่มขึ้น 2.8% และรวมไปถึงกลุ่มเวชภัณฑ์และเทคนิคที่เติบโตถึง 21.5%
อัตรากำไรขั้นต้นของบริษัทไตรมาสนี้อยู่ที่ 18.8% ดีกว่าไตรมาส 2 ของปีที่แล้วที่ 18.5% เนื่องจากยอดขายในกลุ่มสินค้าอุปโภคบริโภคและค้าปลีกสมัยใหม่เพิ่มขึ้น
ค่าใช้จ่ายรวมของบริษัทไตรมาสนี้อยู่ที่ 40,907 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 5.1% เมื่อเทียบกับไตรมาส 2 ปีที่แล้ว สาเหตุมาจาก ยอดขายที่เพิ่มขึ้น และต้นทุนการจัดจำหน่ายและการขายในส่วนของกิจการค้าปลีก
โดยไตรมาส 2 ที่ผ่านมาบริษัทได้เปิดสาขามินิบิ๊กซีเพิ่ม 26 สาขา ไฮเปอร์มาร์เก็ต 1 สาขา ร้านขายยาเพรียว 1 สาขา ทำให้บริษัทมีสาขาไฮเปอร์มาร์เก็ต 143 สาขา บิ๊กซีมาร์เก็ต 60 สาขา มินิบิ๊กซี 691 สาขา (รวมสาขาแฟรนไชส์แล้ว) ร้านขายยาเพรียว 136 สาขา
ที่มา – ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย
ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา