หากใครอยู่ในวงการหรือนักเที่ยวงานเฟสติวัลในไทย คงทราบเรื่องราวดราม่าสุดๆ ของ EDC Thailand 2025 ซึ่งในปีที่ผ่านมาที่ผู้จัดคนเก่าประสบปัญหา จนไม่สามารถจัดงานได้ โชคดีที่ได้ผู้จัดใหม่ รับไม้ต่อ รวมตัวทีมเฉพาะกิจ สร้างปฏิหาริย์ เนรมิตงานจากบนพื้นที่ว่างเปล่า ณ Boat Avenue Lakefront ภูเก็ตกว่า 400 ไร่ เสกงานสเกลระดับโลกแล้วเสร็จภายใน 21 วัน ถึงแม้อาจจะไม่สมบูรณ์แบบ 100% ตามความคาดหวังจากนักท่องเที่ยวที่มาจากทั่วโลก แต่ผลรวมทั้งหมดเป็นผลงานของ Future Vibes Thailand จนทำให้ Insomniac เจ้าของลิขสิทธิ์ EDC ต่างทึ่งกับฝีมือของผู้จัดชาวไทยรายนี้ ที่สร้างสรรค์ผลงานจนเป็นที่ประจักษ์ จนวางใจต่อสัญญาไปอีก 5 ปี (2026-2071) เป็นที่เรียบร้อยแล้ว และปักหลักลงฐานบนพื้นที่แหล่งใหม่ ‘Rhythm Park ภูเก็ต’ ที่ลงทุนสร้างโครงสร้างเพื่อที่จะรองรับงานอีเวนท์ใหม่ๆ ในอนาคตต่อจากนี้
ในบทสัมภาษณ์นี้ เราได้ ณพมนัส สังขทรัพย์ ประธานกรรมการ และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ฟิวเจอร์ ไวบ์ส จำกัด เปิดใจถึงการเดิมพันครั้งใหม่ของการจัดงาน EDC Thailand ที่ได้รับช่วงต่อการจัดงานจากเจ้าของลิขสิทธิ์นานถึง 5 ปี และยืนยันถึงความพร้อมในการจัดงานต่อนักท่องเที่ยวทั่วโลก ที่คาดการณ์ว่าจะมีผู้เข้าเที่ยวมากกว่าเดิมอย่างแน่นอน
ผลตอบรับ EDC Thailand 2025 ดีกว่าที่คาด ถึงแม้ว่าจะใช้เวลาเตรียมงานเพียง 21 วัน
ณพมนัส เล่าให้ฟังถึงเบื้องหลังของตนเองว่า ตนและทีมเคยมีประสบการณ์การจัดงานอีเวนต์มาก่อน จากงานระดับประเทศอย่าง S2O ที่ไปช่วยซัพพอร์ตหลังบ้าน และเป็นเบื้องหลังงานเทศกาลต่างๆ นับไม่ถ้วน จนกระทั่งได้รับการติดต่อจากทีมที่ได้รับลิขสิทธิ์การจัดงานจากชุดแรกที่ประสบปัญหาในการจัดงาน จึงรับช่วงต่อในการจัดงาน ที่มีเวลาเตรียมงานเพียงแค่ 21 วันก่อนวันงานจะเริ่มขึ้น
“ด้วยสเกลงานใหญ่ระดับโลก ยอมรับว่าตอนนั้นกังวลว่าจะจัดงานได้ดีแค่ไหน ถึงขั้นรวมตัวหาทีมงานที่เคยร่วมงานกัน ปั้นโปรเจค EDC Thailand เฉพาะกิจ ต้องเนรมิตพื้นที่ และการจัดงานให้ทัน เพราะหากงานนี้ล่มไป แน่นอนชื่อเสียงของประเทศไทย เสียหายหนักอย่างแน่นอน ด้วยจำนวนบัตรที่ถูกจำหน่ายไปล่วงหน้าแล้วหลายหมื่นใบ นักท่องเที่ยวต่างชาติจำนวนมาก ได้จองตั๋วเครื่องบิน และที่พักเรียบร้อยแล้ว โชคดีที่งานที่จัดออกมา เทียบกับระยะเวลาเราเตรียมงานเพียง 21 วัน ถือว่าน่าพึ่งพอใจเป็นอย่างมาก อาจจะไม่สมบูรณ์ 100% ก็ตาม แต่หากใครได้รู้เบื้องหลังการจัดงานครั้งนี้ ก็ยกนิ้วชื่นชม เรียกกันเล่นๆ ในหมู่นักท่องเที่ยวว่า ทีมกู้ชาติ กู้ชื่อเสียงให้กับประเทศไทยจริงๆ”
Insomniac ที่ถือลิขสิทธิ์ EDC รับทราบเรื่องราวที่เกิดขึ้นตั้งแต่ต้น และประทับใจในความสามารถของผู้จัดงานอย่าง Future Vibes Thailand ที่แก้ปัญหาและรับมือการจัดงานได้อย่างเกินความคาดหมาย จนได้รับความไว้วางใจในการรับช่วงต่อสัญญาการจัดงาน EDC Thailand ต่ออีก 5 ปี (2026-2071) และเป็นงานที่ยิ่งใหญ่อันดับ #3 ของโลก รองเพียงแค่งาน EDC สหรัฐฯ และเม็กซิโก และเป็นอันดับ #1 ในเอเชีย ด้านจำนวนผู้เข้าร่วมงานของงาน EDC ทั้งหมดทุกประเทศ
ณพมนัส เพิ่มเติมว่า หลังจากที่งาน EDC Thailand 2025 จบลง เราก็เฟ้นหาที่จัดงานใหม่ ที่ใหญ่ขึ้นจากที่เก่า เพื่อที่จะรองรับนักท่องเที่ยวที่มางานได้มากขึ้น จนได้ที่ใหม่อย่าง Rhythm Park ภูเก็ต ที่ห่างจากที่จัดงานเดิมเล็กน้อย ด้วยพื้นที่ใหญ่ขึ้นกว่าเดิม 2 เท่า หรือกว่า 800 ไร่ เคาะเอาที่นี่ และเริ่มเตรียมงานตอนนั้นเป็นต้นมา
ปักหมุด ภูเก็ต เป็น Global EDM Festivals
ถึงแม้ใช้เวลาเตรียมงานไม่มาก แต่มีนักท่องเที่ยวมาร่วมงาน EDC Thailand 2025 ตลอดระยะเวลา 3 วันกว่า 120,000 คน ช่วยส่งเสริมและผลักดันกิจกรรมทางเศรษฐกิจรวมในจังหวัดภูเก็ต รวมไปกับในช่วงเดือนมกราคม – กันยายน 2568 มีมูลค่าการใช้จ่ายรวมสูงกว่า 58,000 ล้านบาท นักท่องเที่ยวมาเพิ่มขึ้น 21% สนับสนุนการจ้างงานในท้องถิ่นกว่า 2,000 ตำแหน่งทั้งในภาค บริการ การขนส่ง และอีเวนท์ และแน่นอน ความสำเร็จของการจัดงานในครั้งนั้น ทำให้ผู้ประกอบการท่องเที่ยว หน่วยงานราชการ และรัฐบาล ให้ความสำคัญ จนเป็นความร่วมมือที่จะส่งเสริม ปักหมุดภูเก็ตให้เป็นแลนด์มาร์กด้านดนตรีของโลกต่อไป
ผู้จัดงานอย่าง ณพมนัส คาดการณ์ว่า EDC Thailand 2026 จะมีนักท่องเที่ยวมาร่วมงานตลอดระยะเวลา 3 วันกว่า 200,000 คน แบ่งเป็นนักท่องเที่ยวต่างชาติประมาณ 80,000 คน และตลอดระยะเวลา 5 ปี ของสัญญา จะดึงนักท่องเที่ยวต่างชาติมาร่วมงานกว่า 460,000 คน เพิ่มนักท่องเที่ยวขาเข้าเพิ่มขึ้นในช่วงระยะเวลาจัดงานกว่า 25% สร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจได้กว่า 12,500 ล้านบาท สร้างการจ้างงานมากกว่า 4,000 ตำแหน่ง
“EDC Thailand ถูกออกแบบให้เป็นงานเทศกาลระยะยาว ไม่ใช่เพียงแค่การจัดอีเวนต์ครั้งเดียวจบ โดยในปีแรกมีนักท่องเที่ยว ต่างชาติเข้าร่วมงานกว่า 50,000 คน และมีค่าใช้จ่ายเฉลี่ยต่อคนอยู่ที่ประมาณ 50,000 บาท แบ่งเป็นชาวต่างชาติที่มาจากทั่วโลก 70% ใน 70% ของนักท่องเที่ยวต่างชาติ มีนักท่องเที่ยวชาวอเมริกัน 30% ชาวออสเตรเลีย 10% และที่เหลือชาติอื่นๆ และ 30% สัญชาติไทย สะท้อนให้เห็นถึงวัฒนธรรมของขาวอเมริกา ที่ต้องมาเที่ยวงาน EDC ที่จัดขึ้นทั่วโลก สร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจ ที่จับต้องได้ให้กับทั้งจังหวัดภูเก็ต และประเทศไทย ช่วงแรกเราลงทุนโครงสร้างพื้นฐาน และการจัดงานกว่า 700 ล้านบาท และลงทุนต่อเนื่องในปีถัดๆ ไป เรามองว่าจะเริ่มถึงจุดคุ้มทุนประมาณ 3-5 ปี เหตุผลเหล่านี้ สามารถสร้างความมั่นใจให้กับนักท่องเที่ยวได้ว่าเราลงทุนการทำ EDC Thailand ในระยะยาวอย่างแน่นอน และจะต่อยอดให้พื้นที่ Rhythm Park เป็นสถานที่จัดงานอื่นๆ ระดับโลกต่อไป”
ภูเก็ต รองรับศักยภาพจัดงานระดับโลกได้อย่างสบาย
ศึกษิต สุวรรณดิษฐกุล นายกสมาคมโรงแรมไทยภาคใต้ ให้ข้อมูลว่าถึงความพร้อมของภูเก็ตในการรองรับการจัดงาน EDC Thailand 2026 ว่า ด้วยโครงสร้างพื้นฐานคมนาคม โดยเฉพาะภูเก็ตมีสนามบินระดับนานาชาติ รองรับไฟล์ทเดินทางจาก 60 สนามบินทั่วโลก และมีที่พักที่จดทะเบียนอย่างถูกต้องในภูเก็ตกว่า 1,000 แห่ง กว่า 70,000 ห้อง หรือหากนับรวมนอกระบบด้วย จะมีรวมกันกว่า 200,000 ห้อง สัดส่วนนักท่องเที่ยวที่มาภูเก็ตมีมากถึง 70% โดยเฉลี่ยกว่าครึ่งหนึ่งอยู่อย่างต่ำ 14 วัน อีกครึ่งหนึ่งอยู่แบบ Short stay และไม่ใช่เพียงท่องเที่ยวอยู่เฉพาะภูเก็ต แต่ยังกระจายไปเที่ยวจังหวัดรอบข้างอีกด้วย
ศึกษิต เพิ่มเติมอีกว่า อยากให้หน่วยงานรัฐบาล ส่งเสริมการจัดงานรูปแบบอื่นๆ นอกเหนือจากเทศกาลดนตรี จะทำให้ภูเก็ตมีงานอีเวนท์ได้ตลอดทั้งปี โดยสนับสนุนการท่องเที่ยวช่วงกรีนซีซั่น ซึ่งเป็นช่วงที่นักท่องเที่ยวไม่หนาแน่น และค่าใช้จ่ายทั้งที่พักและอาหารถูกลงกว่ามาก
เช่นเดียวกับ ณพมนัส เล็งวันจัดงาน EDC Thailand ในปีถัดไป เป็นช่วงพฤศจิกายน – กุมภาพันธ์ ซึ่งเป็นช่วงที่แถบทวีปยุโรป และสหรัฐอเมริกา มีอากาศหนาวมาก การขยับวันจัดงานไม่ทับช่วง ไฮซีซัน ที่สุดในเดือนมกราคม ของภูเก็ต จะเป็นการกระจายรายได้ให้ผู้ประกอบการชาวภูเก็ตไปยังช่วงเวลาที่นักท่องเที่ยวต่างชาติไม่หนาแน่น และทำให้นักท่องเที่ยวชาวไทย ได้มีโอกาสได้ร่วมงานเทศกาลดนตรี EDM ระดับโลกได้ในราคาย่อมเยาอีกด้วย
นอกจากนี้ การปักหมุด Rhythm Park ซึ่งเป็นพื้นที่การจัดงานที่ใหญ่ที่สุดในภูเก็ตในขณะนี้ ใกล้สนามบิน ทำให้มูลค่าพื้นที่ระแวกบางเทาและใกล้เคียงสูงขึ้น 25-30% เป็นการส่งเสริมธุรกิจอสังหาริมทรัพย์กลับมามีมูลค่าเพิ่มขึ้นในพื้นที่ไม่ติดชายฝั่งทะเล และยังเป็นการส่งเสริมธุรกิจ และอาชีพให้คนในพื้นที่มากขึ้น
EDC Thailand 2026: Bigger, Brighter, and More Immersive Than Ever
ความพิเศษใน EDC Thailand 2026 จัดภายใต้คอนเซปต์หลัก “Bigger, Brighter, and More Immersive Than Ever” โดยในปีนี้งานจะขยายสเกล อย่างมีนัยสำคัญ ทั้งด้านพื้นที่ โปรดักชัน และประสบการณ์ ซึ่งถือเป็นครั้งแรก ที่จะมีการนำมาตรฐานการผลิต เต็มรูปแบบระดับเดียวกับ EDC Las Vegas มาสู่ประเทศไทย
ภายในงาน (Main Event) จะประกอบด้วยเวที kineticFIELD ที่เป็นหัวใจสำคัญ และสัญลักษณ์ของ EDC ที่มาพร้อมวิวัฒนาการของแสง และเสียง, circuitGROUNDS โดดเด่นด้วยกำแพง LED ขนาดมหึมา และเอฟเฟกต์ไฟสุดตระการตา, stereoBLOOM เวทีที่รวบรวมแนวดนตรีอิเล็กทรอนิกส์ที่หลากหลาย, bionicJUNGLE เวทีเฮาส์มิวสิกท่ามกลางบรรยากาศธรรมชาติอันเขียวชอุ่ม และ boombox Art Car ที่มอบประสบการณ์ทางดนตรีเพื่อสนับสนุนศิลปินท้องถิ่นและศิลปินในภูมิภาค
มีหัวใจสำคัญ คือการเปิดตัว Downtown EDC ศูนย์กลางทางวัฒนธรรมที่นำเสนอประสบการณ์ พิเศษเฉพาะประเทศไทย (Thailand-exclusive experiences) ผสมผสานวัฒนธรรม EDM ระดับโลกเข้ากับจิตวิญญาณอันเป็น เอกลักษณ์ของภูเก็ตผ่านไฮไลต์สำคัญ อาทิ Center Tower, Wedding Chapel, Kandi Casino, Diva Show และ Karaoke Battle ซึ่งจะเติมเต็มความสนุก การมีส่วนร่วม และสีสันทางวัฒนธรรม ที่แตกต่างให้กับเทศกาล
นอกจากนี้ ยังมีโซน Binary Beach พื้นที่สำหรับเติมเต็มจิตวิญญาณ (Space for the soul) ซึ่งได้รับแรงบันดาลใจจากดอกไม้ทะเล (Sea Anemone) เพื่อเฉลิมฉลองความเป็นตัวของตัวเอง ความสนุกสนาน และอิ่มเอมใจผ่านดนตรี และงานดีไซน์ โดยมีไฮไลต์สำคัญคือ Mini Tropical Stage, Ya-Dong Bar, Workshop Zone และ Wellness Area รวมถึงงานศิลปะจัดวาง (Art Installations) ที่กระจายอยู่ทั่วโซนต่างๆ เช่น Daisy Fields, Bamboo Village, และ Pixel Forest
ให้ความสำคัญต่อ sustainability
EDC Thailand 2026 ให้ความสำคัญกับความยั่งยืน และความร่วมมือเป็นหัวใจหลักของวิสัยทัศน์ระยะยาว โดยจะทำงานอย่างใกล้ชิดกับหน่วยงานภาครัฐ พันธมิตรภาคเอกชน และชุมชนท้องถิ่น เพื่อให้มั่นใจว่า การบริหารจัดการงาน เป็นไปอย่างมีความรับผิดชอบ มีระบบโลจิสติกส์ที่มีประสิทธิภาพ และลดผลกระทบต่อ สิ่งแวดล้อมให้น้อยที่สุด ผ่านโครงการลดขยะโดยชุมชนมีส่วนร่วมและการสร้างงานในท้องถิ่นครอบคลุม ทั้งภาคการบริการ การขนส่ง การผลิต และงานบริการด้านอีเวนต์
EDC ผสมผสานดนตรี ศิลปะ แสงสี และเทคโนโลยี เพื่อนิยามความบันเทิงสดใหม่ในรูปแบบการเฉลิมฉลอง ที่สัมผัสได้หลายมิติ เน้นย้ำความเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกัน ความคิดสร้างสรรค์ และการแสดงออกถึงตัวตน ภายใต้ปรัชญาหลัก “All Are Welcome Here”
ซื้อบัตรเข้าร่วมงาน EDC Thailand 2026 ได้แล้ววันนี้ที่ https://www.eventpop.me/e/89319-edc-thailand-2026
ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา







