“Bad Shawty ดูเธอเต้นหน้ารถแห่ เธอเต้นโชว์คนแก่ เธอเต้นโชว์เพื่อนหน้าเวที”
เพลงที่หลายคนร้องตามได้ในปีนี้ คือเพลงไวรัลแห่งปีที่ไม่มีใครหนีพ้น TikTok ได้
‘Bad Shawty’ ของบอยกรุ๊ป ‘PROXIE’ กลายเป็นเพลงฮิตที่ทั้งร้อง เล่น เต้นครบทุกจังหวะ พร้อมคว้ารางวัล ‘Viral Song of the Year’ จากเวที ‘TikTok Awards Thailand 2025’ อย่างสมศักดิ์ศรี
แต่กว่าจะกลายเป็นเพลงที่ทุกคนร้อง “มายาฮี้ มายาฮู้” พร้อมกันได้แบบนี้ เบื้องหลังของเพลงนี้ไม่ได้เกิดจากความบังเอิญ แต่มันคือการวางแผน เข้าใจฤดูกาลของตลาดเพลง และรู้จักใช้แพลตฟอร์มอย่างมืออาชีพ
Brand Inside มีโอกาสสัมภาษณ์พิเศษกับ 6 หนุ่ม PROXIE ถึงเบื้องหลังการสร้างเพลง Bad Shawty และมุมมองต่อวงการ T-POP ในยุคที่ TikTok กลายเป็นหนึ่งในอาวุธสำคัญของศิลปิน
จุดเริ่มต้นของ PROXIE
ก่อนจะมาถึงยุค ‘Bad Shawty’ ลองย้อนกลับไปดูจุดเริ่มต้นของ ‘PROXIE’ กันสักนิด
วง PROXIE เกิดจากรายการ ‘The Brothers Thailand’ รายการเรียลลิตี้ที่ ‘ติ๊ก-เจษฎาภรณ์ ผลดี’ ลงมาดูแลด้วยตัวเองในปี 2563 เพื่อเฟ้นหาหนุ่มรุ่นใหม่ที่ครบเครื่องทั้งร้อง เต้น และแสดง จนได้สมาชิกทั้ง 6 คน มารวมตัวภายใต้ค่าย ‘bROTHERS MUSIC’ ได้แก่
- กัน-รัชชานนท์ เรือนเพ็ชร์
- คิม-ปัณณธร จิรศาสตร์
- โชกุน-ปวริศร์ ศรีชัยชนะ
- กร วรรณไพโรจน์
- อองรี-ออสการ์ เอ็ดเวิร์ด วัตราเศรษฐ์
- วิคเตอร์-วรเมธ กอนุประพันธ์
ทั้ง 6 คนเปิดตัวอย่างเป็นทางการในปี 2565 ด้วยซิงเกิลเดบิวต์ ‘Crazy Love รักบ้าบอ’ ที่ผสมพลังของป็อปแดนซ์กับความสดใหม่ของวัยรุ่นได้ลงตัว จนถูกพูดถึงว่าเป็น “วงลูกชายพี่ติ๊ก” ที่เข้ามาเติมสีสันให้วงการ T-POP ที่กำลังเติบโต
หลังจากนั้น วงก็ปล่อยซิงเกิลที่สองอย่าง ‘คนไม่คุย Silent Mode’ ซึ่งแจ้งเกิดหลังไวรัลบน TikTok ขึ้นอันดับหนึ่งในประเทศไทย ปัจจุบันเพลงนี้มียอดรับชมบน YouTube กว่า 35 ล้านวิว และยอดสตรีมบน Spotify เกือบ 36 ล้านครั้ง (ข้อมูล ณ วันที่ 14 พ.ย. 2568)
จนถึงตอนนี้ PROXIE มีผลงานแล้ว 2 อัลบั้มเต็ม ได้แก่ ‘Data Storage’ และ ‘Level Up’ รวมถึงซิงเกิ้ลจำนวนมาก อย่างล่าสุด ‘ดีอยู่แล้ว ที่ต้องลา’ ที่สมาชิก 6 หนุ่มทั้งร้อง และเล่นเครื่องดนตรีเองกับมือ ในฐานะ ‘PROXIE BAND’ แสดงให้เห็นพัฒนาการจากภาพของบอยกรุ๊ปหน้าใหม่ สู่วง T-POP ที่เข้าใจการสร้างแบรนด์ และบริหารกระแสไวรัลอย่างมืออาชีพ
เบื้องหลังเพลงไวรัล ‘Bad Shawty’
‘กัน’ เล่าให้ฟังว่า จุดเริ่มต้นของ ‘Bad Shawty’ มาจากความตั้งใจของวงที่อยากมีเพลงสนุกๆ สำหรับช่วงเทศกาล โดยเฉพาะ ‘สงกรานต์’ เพราะแม้จะมีเพลงเร็วอยู่บ้าง แต่ยังไม่มีเพลงที่เปิดแล้วกลายเป็นเพลงประจำงานได้
“เราเลยอยากมีเพลงสงกรานต์ของตัวเองสักเพลง ที่ทุกคนเปิดแล้วรู้สึกอยากเต้นไปด้วยกัน”
ด้วยความตั้งใจนั้น PROXIE จึงปรึกษา ‘กอล์ฟ-ณัฐวุฒิ ศรีหมอก’ หรือ ‘กอล์ฟ ฟักกลิ้งฮีโร่’ อย่างจริงจังเป็นครั้งแรก ถึงแม้ก่อนหน้านี้จะเคยเจอกันผ่านๆ มาบ้างแล้ว
‘กอล์ฟ’ เสนอว่า ถ้าไม่เริ่มจากศูนย์ ลองใช้วิธี ‘แซมเปิลเพลงเก่า’ ที่หลายคนคุ้นเคย เอามาซื้อลิขสิทธิ์แล้วปรับใหม่ให้เข้ากับสไตล์ของ PROXIE หลังจากช่วยกันเลือกอยู่พักใหญ่ สุดท้ายก็มาลงตัวที่เพลงระดับตำนานอย่าง “มายาฮี้ มายาฮู้”
เมื่อได้เมโลดี้แล้ว วงก็เริ่มคิดคอนเซปต์ โดยยึดแนวทางที่ ‘ติ๊ก’ เคยสอนไว้ว่า เพลงที่ดีควรเป็นเพลงที่ทุกคนฟังได้ ไม่ว่าจะเด็ก ผู้ใหญ่ หรือคนทุกวัย เนื้อหาต้องไม่มีคำหยาบ หรืออะไรที่ไม่เหมาะสม
เป้าหมายคือทำให้ ‘Bad Shawty’ เป็นเพลงที่ทุกคนร้องตามได้ สนุก ม่วน และเป็นตัวของตัวเองในบรรยากาศเทศกาลเท่านั้น
‘โชกุน’ เสริมว่า ในแง่ของกระบวนการทำงาน PROXIE ไม่ได้ปล่อยให้งานเป็นของคนใดคนหนึ่ง พวกเขามีส่วนร่วมในการออกไอเดียต่างๆ ในทุกเพลง ไม่ว่าจะเป็นมิวสิควิดีโอ หรือเนื้อเพลง เช่นเดียวกับ ‘Bad Shawty’ ที่สมาชิกช่วยกันสร้างจนลงตัว
ควงเอวหน้ารถแห่จนไวรัล
เมื่อ ‘Bad Shawty’ ปล่อยออกมา ฟีดแบ็กที่ได้ดีเกินคาด แม้ PROXIE จะเคยมีเพลงแนวเต้นสนุกมาก่อน แต่ ‘คิม’ ยอมรับว่า ดีใจสุดๆ ที่เพลงนี้กลายเป็นของตัวเอง และขอบคุณแฟนๆ ที่ชื่นชอบและสนุกไปด้วยกัน
โดยเฉพาะท่าเต้น ‘ควงเอว’ สุดพลังของหนุ่ม ‘คิม’ ที่กลายเป็นไวรัลทั่วบ้านทั่วเมือง เจ้าตัวเล่าให้ Brand Inside ฟังแบบติดตลกว่า ตอนนี้ไม่ปวดเอวแล้ว เพราะเต้นทุกวันจนกล้ามเนื้อตรงเอว “แข็งแกร่งมาก”
แต่ ‘กัน’ ก็เสริมเบื้องหลังความสนุกนี้ว่า ตั้งแต่คลิปไวรัลเกิดขึ้น ‘คิม’ ไม่สามารถเต้นเบาได้อีกเลย เพราะแฟนๆ มักตั้งใจมาดูท่อนของเขาโดยเฉพาะ
“เขาเองก็กดดันนะ เพราะทุกครั้งที่ขึ้นโชว์ เขาเต้นเบาไม่ได้แล้ว คนรอดูท่อนเขาอยู่ (หัวเราะ)”
ส่วนอนาคตจะมีเพลงสไตล์คล้ายๆ กับ ‘Bad Shawty’ หรือไม่ ‘วิคเตอร์’ ตอบชัดว่า “ไม่มีอะไรแน่นอน” เพราะวงอยากทดลองฟังก์ชันเพลงแปลกๆ มานำเสนออยู่เสมอ โดยย้ำว่า แม้แต่เพลงเศร้า ก็ยังมีความสนุกอยู่ในตัวได้
“ต้องรอติดตาม แม้ว่าจะเป็นเพลงเศร้า เราก็โจ๊ะได้อยู่ดี”
ด้าน ‘กร’ อธิบายว่า PROXIE จะมอนิเตอร์การแสดงของตัวเองตลอด เพื่อจัดลำดับเพลงให้แฟนคลับที่มาดูโชว์สนุกและเอนจอยที่สุด หากรู้สึกว่าช่วงไหนมีเพลงช้าเยอะเกินไป ก็ถึงเวลาที่ต้องปล่อยเพลงเร็วออกมาบ้างแล้ว
T-POP วันนี้ ไม่เหมือนเมื่อวาน
แน่นอนว่า Brand Inside ไม่พลาดที่จะถาม 6 หนุ่ม PROXIE ว่า ตั้งแต่เดบิวต์มา 3 ปีกว่าๆ จนถึงวันนี้ วงได้เห็นการเปลี่ยนแปลงของอุตสาหกรรม T-POP มากแค่ไหน
‘อองรี’ ตอบว่า ถ้ามองย้อนกลับไปตั้งแต่เดบิวต์กับซิงเกิ้ลแรกจนถึงวันนี้ เขารู้สึกว่า วงการ T-POP เปลี่ยนแปลงไปเยอะ และหลากหลายขึ้นมาก ที่สำคัญคือดีใจมากที่ฐานคนฟังค่อนข้างเปิดกว้างกว่าเดิมมาก
ส่วน ‘กัน’ เสริมว่า ผู้ฟังยุคนี้เปิดใจกว้างมากขึ้น ทำให้ศิลปินแต่ละวงสามารถสร้างเอกลักษณ์ของตัวเองได้อย่างเต็มที่ ถือเป็นทั้ง ‘กำไร’ และ ‘ความสุข’ ของผู้ฟังโดยตรง
ในฐานะพี่ใหญ่ที่เคยอยู่ในวง ‘Evo Nine’ เขาย้อนเล่าว่า วงการ T-POP สมัยก่อน “เงียบเหงามาก” บอยแบนด์เกิร์ลกรุ๊ปรวมกันยังไม่ถึง 10 วง และคนยังไม่เปิดรับเท่าปัจจุบัน
แต่ T-POP ยุคปัจจุบัน กลับเติบโตขึ้นอย่างมาก และสิ่งที่เปลี่ยนไปคือ ‘ความเป็นพี่น้อง’ ที่ร่วมมือกันทำคอนเทนต์ และโปรโมทผลงานของกันและกัน เพื่อให้เป็นที่รู้จักมากขึ้น
“เราไม่ได้แบ่งอาณาเขต แบ่งแดนกันว่า เราต้องห้ามยุ่งกับค่ายนี้ เราต้องห้ามทําคอนเทนต์ด้วยกัน”
เมื่อมองในมุมของธุรกิจ ‘คิม’ มองว่า การที่มีวงใหม่เกิดขึ้นเรื่อยๆ และบางวงที่ปิดตัวไปบ้าง ถือเป็นเรื่องธรรมชาติ และเป็นวัฏจักรของตลาด การที่มีน้องใหม่เข้ามาเรื่อยๆ แสดงให้เห็นว่า ตลาด T-POP ยังมีฐานรองรับอยู่ ทั้งในไทย และต่างประเทศ
แม้วงการ T-POP กำลังรุ่งเรืองมาก แต่ ‘วิคเตอร์’ เน้นว่า สิ่งสำคัญมากหลังจากนี้คือ การรักษาความสำเร็จ และการขยายฐานแฟน เพื่อหาช่องทางที่ทำให้ตลาดอยู่รอดได้ในระยะยาว
TikTok จุดเปลี่ยนชีวิต PROXIE
‘กร’ บอกว่า จุดขับเคลื่อนสำคัญที่สุดของ PROXIE คือ ‘TikTok’ เพราะแพลตฟอร์มทำให้เพลงของพวกเขาเข้าถึงคนฟังได้ง่ายและไวมาก พร้อมทั้งขอบคุณ TikTok สำหรับรางวัลที่ได้รับ และย้ำว่าจะตั้งใจทำผลงานต่อไปให้ดีที่สุด
โดย ‘คิม’ อธิบายให้ Brand Inside ฟังว่า จุดแจ้งเกิดจริงๆ ของวงมาจากตอนที่มีคนเอาเพลง ‘คนไม่คุย’ ไปทำเทมเพลตบน TikTok สมาชิกในวงเลยลองเล่นตาม ก่อนคลิปจะถูกแชร์ต่อจนกันกลายเป็นไวรัลที่ดังไปทั่วบ้านทั่วเมือง
“ตอนนั้นดีใจสุดๆ ที่เห็นเพลงตัวเองแมสจริงๆ”
เช่นเดียวกับ ‘อองรี’ ที่ตอบสั้นๆ แต่ชัดเจนว่า “ดีใจมากๆ” สะท้อนความรู้สึกตรงไปตรงมาของสมาชิกที่ได้เห็นผลงานของตัวเองเป็นที่ยอมรับ บนโซเชียล
การรักษาแชมป์ที่ยากกว่าการเป็นที่หนึ่ง
PROXIE ไม่ได้หยุดอยู่แค่ความสำเร็จจากเพลงไวรัล แต่ตั้งใจพัฒนาตัวเองไปเสมอ ‘กัน’ ย้ำคำสอนจาก ‘ติ๊ก’ ที่กลายเป็นหลักการทำงานของทั้ง 6 หนุ่ม
“การเป็นที่หนึ่งว่ายากแล้ว แต่การรักษาแชมป์นั้นยากกว่า”
PROXIE จึงพยายามที่จะรักษามาตรฐานนี้ไปเรื่อยๆ และหวังว่าจะเป็นหนึ่งในบอยกรุ๊ปที่ทุกคนมีความสุขที่ได้ฟัง
วันนี้ PROXIE เดินหน้าอย่างไม่หยุดพัก ‘โชกุน’ บอกว่า พวกเขามีโปรเจกต์มากมายที่เตรียมปล่อย ไม่ว่าจะเป็นเพลงวง รวมถึงแผนงานยูนิตต่างๆ อย่าง ‘VOC’ (วิคเตอร์-อองรี-โชกุน) ซึ่งกำลังจะปล่อยซิงเกิลที่สองอย่าง ‘Where I Wanna Be ที่ที่มีเธอ’ เร็วๆ นี้
พร้อมคอนเสิร์ตใหญ่ครั้งที่ 3 ‘PROXIE The 3rd Concert PROXIMA-B‘ ซึ่งจะจัดขึ้นที่ ‘อิมแพ็ค อารีน่า เมืองทองธานี’ ในวันที่ 24 มกราคม 2569 นี้ ‘อองรี’ ยืนยันว่า พวกเขากำลังเตรียมพร้อมสำหรับคอนเสิร์ตใหญ่ครั้งนี้ โดยขอเชิญชวนแฟนๆ มาสนุกกัน
ซึ่ง ‘อองรี’ ได้ย้ำติดตลกว่า คอนเสิร์ตนี้ไม่ฟรี ที่ชวนคือเสียตังค์ ส่วน ‘โชกุน’ รับประกันว่า คอนเสิร์ตนี้ “มีอะไรที่อลังการแน่นอน”
PROXIE ไม่ได้เป็นแค่บอยกรุ๊ปที่มีเพลงไวรัล แต่เป็นศิลปินที่เข้าใจตลาด เข้าใจแฟน และเข้าใจแพลตฟอร์ม นี่จึงเป็นเหตุผลว่า ทำไมพวกเขาถึงไม่ใช่แค่กระแสชั่วคราว แต่คือหนึ่งในพลังขับเคลื่อน T-POP ไทยให้เติบโตอย่างยั่งยืน
และแน่นอนว่า พี่ใหญ่ของวงอย่าง ‘กัน’ ก็ไม่พลาดที่จะทิ้งท้ายไว้ด้วยอารมณ์ขันว่า
“ตารางงาน PROXIE ยังว่างเสมอ จ้างงานได้เรื่อยๆ”
ที่มา: สัมภาษณ์พิเศษ PROXIE ที่งาน TikTok Awards Thailand 2025
ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา