กำไร ‘โอ้กะจู๋’ หายไปไหน -70%? เคยได้ 60 ล้าน ไตรมาส 3/25 เหลือแค่ 17 ล้านบาท

คิดว่าเพราะอะไร กำไร ‘โอ้กะจู๋’ ถึงหายไป -70%?

โอ้กะจู๋

ล่าสุด บริษัท ปลูกผักเพราะรักแม่ จำกัด (มหาชน) เจ้าของแบรนด์ ‘โอ้กะจู๋’ ประกาศรายได้ออกมาที่ 714 ล้านบาท ในไตรมาส 3 ปี 2025 (+4% จากปีก่อน)

แต่จุดที่น่าสนใจก็คือ ‘กำไร’ ของบริษัทค่อนข้างน่าตกใจ เพราะ

  • Q3/24 มีกำไร 60 ล้านบาท
  • Q3/25 (ตอนนี้) มีกำไรเหลือแค่ 17.3 ล้านบาท

เท่ากับว่ากำไร ‘โอ้กะจู๋’ หดหายไปเกิน -70%

[ ถึงรายได้โต แต่ต้นทุนโตกว่า ]

ลองมาไล่ดูทีละสเต็ปว่า จาก ‘รายได้’ 714 ล้านบาท ไปจนถึง ‘กำไร’ 17.3 ล้านบาท ระหว่างทาง โอ้กะจู๋เจออะไรบ้าง

  • หักต้นทุนขาย (เช่น วัตถุดิบ ค่าแรง) 413 ล้านบาท (+19%)
  • หักค่าใช้จ่ายในการขาย (เช่น ค่าเช่า ค่าไฟ ค่าเสื่อม) 241 ล้านบาท (+39%)
  • หักค่าใช้จ่ายในการบริหาร (เช่น ค่าระบบหลังบ้าน) 37 ล้านบาท (+1%)
  • หักต้นทุนทางการเงิน (เช่น ดอกเบี้ยเงินกู้) 5 ล้านบาท (-10%)
  • หักค่าใช้จ่ายภาษีเงินได้ 2.7 ล้านบาท (-81%)

ดังนั้นแล้ว ‘รวมต้นทุน’ ทั้งหมดของบริษัท Q3/25 อยู่ที่ 697 ล้านบาท 

ถามว่าเยอะแค่ไหน? ก็ต้องบอกว่า Q3 ปีก่อน ‘ต้นทุนรวม’ อยู่ที่ 576 ล้านบาท

แปลว่าปีนี้ ต้นทุนเพิ่มมา 121 ล้านบาท (+21%)

ไม่น่าแปลกใจว่าแม้รายได้จะโตจากปีก่อน แต่ต้นทุนกลับ ‘โตกว่า’

ดังนั้น กำไรของ ‘โอ้กะจู๋’ จึงลดเหลือเพียง 17 ล้านบาท

[ ทำไมต้นทุนถึงเพิ่ม ? ]

พักคณิตศาสตร์ไว้แค่นั้น ต่อมาเราจะมาลงลึกกันเรื่องธุรกิจ

ถ้าดูจากข้อมูลข้างบน จะเห็นว่ามี 2 ส่วนที่ต้นทุนเพิ่มเยอะ ๆ คือ 

  • ต้นทุนขาย (วัตถุดิบ ค่าแรง) 
  • ค่าใช้จ่ายในการขาย (ค่าเช่า ค่าเสื่อม ค่าไฟ และอื่น ๆ)

สำหรับ ‘ต้นทุนขาย’ ที่เพิ่มขึ้น บริษัทบอกว่า เป็นเพราะต้นทุนค่าแรงที่ไม่ได้แปรผันกับยอดขายมากนัก ได้แก่ ค่าแรงหน่วยงานฟาร์ม ผลิต คลังสินค้า และค่าแรงพนักงานครัวขั้นต่ำตามจำนวนที่ต้องมีแต่ละสาขา พูดง่าย ๆ คือยอดขายขึ้นมาไม่สมดุลกับเป็นเรื่องของค่าจ้าง

ส่วน ‘ค่าใช้จ่ายในการขาย’ ที่เพิ่มขึ้น ‘โอ้กะจู๋’ บอกว่า สาเหตุหลักจาการการขยายสาขาเพิ่มขึ้นจากปีก่อน แบ่งเป็น

นอกจากนี้ ยอดของบริษัทยังน้อยกว่าคาด จากกำลังซื้อผู้บริโภคที่อ่อนตัวลง รวมถึงมีค่าใช้จ่ายการตลาดเพื่อกระตุ้นยอดขาย และยังมีการลงทุนบนแพลตฟอร์มเดลิเวอรีเพื่อส่งเสริมการขายในยุคตลาดเดือดอีกด้วย

อีกเรื่องคือ ที่รายได้ ‘โอ้กะจู๋’ เพิ่มขึ้นได้ สาเหตุหนึ่งมาจากการขยายสาขา เพราะถ้าดู อัตราการเติบโตของรายได้จากการขายของสาขาเดิม หรือ ‘SSSG’ โดยคำนวณจากแบรนด์โอ้กะจู๋ จำนวน 29 สาขา จะอยู่ที่ -23%

ทั้งนี้เป็นเพราะ สาขาที่อยู่ในเมืองและสาขาในโซนที่มีการแข่งขันสูงมียอดขายลดลง และยังมีฐานเปรียบเทียบที่สูงจากปีก่อน นอกจากนี้ ยังได้รับผลกระทบจากฤดูฝน รวมถึงภาวะเศรษฐกิจชะลอตัวส่งผลต่อกำลังซื้อผู้บริโภคที่อ่อนตัวลง

ที่มา: คำอธิบายและวิเคราะห์ของฝ่ายจัดการสำหรับผลการดำเนินงานบริษัท ปลูกผักเพราะรักแม่ จำกัด (มหาชน) สำหรับงวดสิ้นสุดวันที่ 30 กันยายน 2568

ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา

mm
บาส รชต สนิท - นักข่าว นักเขียน ที่ Brand Inside | สนใจด้าน Future of Work, สิทธิคนทำงาน, สิ่งแวดล้อม, การเมืองโลก, ปัญหาทุนนิยม และ สิทธิมนุษยชน