เปิดศึกใหม่ในชื่อ ‘สงครามส่งด่วน’ ในวงการอีคอมเมิร์ซด้วยฟีเจอร์ส่งไวใน 4 ชั่วโมงไปยังไม่พอ Shopee ลั่นระฆังยกถัดไป เตรียมเปิดบริการส่งไวใน 1 ชั่วโมง ตามด้วยขยายบริการ SPayLater ออกไปหน้าร้านสาขา ไม่จำกัดอยู่แค่การซื้อขายภายในแอป

เตรียมให้ส่งไวใน 1 ชั่วโมง ดึงลูกค้าต้องการของทันที มาสั่งบน Shopee
ในงาน Shopee Summit Together We Grow ที่ผ่านมา Shopee ได้ประกาศเปิดตัวฟีเจอร์ใหม่ ‘ส่งไวใน 1 ชั่วโมง’ ออกมาสะเทือนวงการ
‘ธัญญธร เหล่าวัชระ’ ผู้อำนวยการฝ่ายพัฒนาธุรกิจ ช้อปปี้ (ประเทศไทย) อธิบายว่า พัฒนาการการส่งเร็วของ Shopee เริ่มจาก Standard Delivery ส่งใน 2 วัน ก่อนขยับมาเพิ่ม Express Delivery ส่งไวภายในวันเดียวกัน ซึ่งทำให้เห็นว่า มีผู้บริโภคพร้อมจ่ายมากขึ้น ถ้าสามารถเพิ่มความสะดวกสบายมากขึ้นได้
และไม่นานมานี้ Shopee ได้เปิดตัว Instant Delivery ส่งไวใน 4 ชั่วโมงออกมา และพบว่าฟีเจอร์นี้ ช่วยเพิ่มโอกาสการซื้อสินค้าบน Shopee มากขึ้นอีก จึงนำมาสู่การเปิดตัวฟีเจอร์ใหม่อย่าง 1-Hour Delivery หรือส่งไวใน 1 ชั่วโมง เพื่อตอบรับกับความต้องการของลูกค้า

Shopee ถือว่ามี ‘คอมมูนิตี้ผู้ขาย’ ที่กว้างขวางมาก มี Assortment ที่ดีและกว้างกว่าคนอื่นๆ ดังนั้น การนำเสนอบริการส่งไวใน 1 ชั่วโมงจึงเป็นอีกทางเลือกที่ดีที่มีผู้บริโภคพร้อมจ่าย โดยฟีเจอร์นี้ยังสามารถเปิดโอกาสให้ร้านค้าขยายการขายจาก ‘ออนไลน์’ ไปยัง ‘ออฟไลน์’ ได้ด้วย
ผู้บริหารของ Shopee อธิบายว่า ปกติแล้วหลายๆ แบรนด์ก็จะมี ‘หน้าร้านสาขา’ อยู่แล้ว ซึ่งก็จะมีแอเรียที่สามารถจับกลุ่มลูกค้าได้ตามระยะทางที่สะดวกต่อการเดินทาง แต่การส่งไวใน 1 ชั่วโมงจะทำให้แบรนด์มีโอกาสเพิ่มรายได้จากพื้นที่อื่นๆ ผ่านการสั่งจากออนไลน์ แต่ไปเพิ่มยอดขายให้กับหน้าร้านสาขาด้วย

ขยาย SPayLater ไปหน้าร้าน เปิดตัวฟีเจอร์ AI รัวๆ
อีกหนึ่งสิ่งใหม่ที่น่าสนใจคือ Shopee เตรียมจะขยายการใช้งาน SPayLater หรือบริการซื้อก่อน จ่ายทีหลังของแพลตฟอร์ม ออกไปยังออฟไลน์หรือหน้าร้านสาขามากขึ้น เพราะปัจจุบันลูกค้าที่เป็น Active User กว่า 20% ของ Shopee ล้วนใช้บริการ SPayLater แล้ว
โดยเฉพาะผู้ใช้ในภาคกลางของประเทศไทยที่มีอัตราส่วนการใช้ SPayLater มากถึง 50% ของทั้งหมด ตามด้วยภาคอีสาน 25% และภาคใต้ 10% ซึ่งสิทธิประโยชน์ของ SPayLater คือความยืดหยุ่นและปลอดภัยในการซื้อก่อนจ่ายทีหลัง เพราะให้สิทธิผ่อน 0% สูงสุดถึง 24 เดือนเลย

ด้านปัญญาประดิษฐ์หรือ AI ทาง Shopee ก็ลุยต่อด้วยการเปิดตัวฟีเจอร์ AI รวดเดียว 6 ฟีเจอร์ ได้แก่
- Try it on ให้ AI ช่วยลูกค้าทดลองสินค้าแฟชันด้วยการอัปโหลดภาพของลูกค้าเอง
- AI Livestreamer การไลฟ์ขายของด้วย AI
- Seller Chatbot บริการตอบแชทบอทด้วย AI
- AIGC Listing Optimizer อัปโหลดสินค้าใส่ในนายแบบนางแบบ AI
- Custom ROAS AI Ads ยิงแอดตามพฤติกรรมผู้ซื้อจากการวิเคราะห์ของ AI
- Brand Maxs ใช้ AI แนะนำคอนเทนต์ที่ลูกค้าต้องการเห็น
โปรแกรมใหม่ พาแบรนด์ไทยไปโตไกลในอาเซียน
อีกฟีเจอร์ที่ไม่พูดถึงไม่ได้ เพราะเกี่ยวกับการพาแบรนด์ไทยออกไปโกอินเตอร์คือ ‘Shopee Global Sale’ โปรแกรมที่ Shopee จะพาแบรนด์ไทยไปบุกอาเซียน โดย Shopee พบว่า สินค้าในไทยในหลายๆ อุตสาหกรรม โดยเฉพาะแฟชัน ความงาม และอาหารได้รับความนิยมจากต่างชาติอยู่แล้ว
โดย Shopee เปิดเผยสถิติการค้นหาแบรนด์ไทยในหลายแบรนด์ในฟิลิปปินส์ มาเลเซีย และสิงคโปร์ อาทิ เช่น Sabina, Riley.apparels, FABRIQUE, Chuu Chop, Warrix, Yuedpao, BSC Cosmetology เป็นต้น

ความแตกต่างของ ‘Shopee Global Sale’ กับโปรแกรมเก่าอย่าง Shopee international Platform คือโปรแกรมใหม่จะช่วยร้านค้า สร้างร้านใหม่ ให้สามารถเปิดร้าน ทำการตลาด สร้างแบรนด์ ไลฟ์ขายสินค้า ยิงโฆษณาได้เหมือนในไทยทุกอย่าง
โปรแกรมนี้จะเริ่มเปิดให้ผู้ค้าไทยไปขายในฟิลิปปินส์ก่อนในช่วงไตรมาสนี้ ก่อนตามด้วยมาเลเซียและสิงคโปร์ในช่วงปลายปี และตามด้วยอย่างน้อย 3 ประเทศในปีหน้า

มีอินฟลูช่วยขาย 1 ล้านคนแล้ว Shopee Live โตต่อเนื่อง
ฝั่งของ ‘อินฟลูเอนเซอร์’ ตอนนี้ Shopee ก็มีอินฟลูเข้าร่วมโปรแกรม Affiliate มากถึง 1 ล้านคนแล้ว โดยพบว่า มีครีเอเตอร์จาก YouTube แท็กสินค้าบน Shopee มากถึง 45% ของครีเอเตอร์ทั้งหมด ขณะที่ฝั่ง Facebook มีครีเอเตอร์แท็กในสัดส่วน 40% และ Instagram มีสัดส่วน 20%

‘คงกฤช ล้อเลิศรัตนะ’ หัวหน้าฝ่ายธุรกิจการตลาด ช้อปปี้ (ประเทศไทย) บอกว่า Shopee ทุ่มงบประมาณมากกว่า 1,000 ล้านบาทในโปรแกรม Affiliate ทำให้เกิดคอนเทนต์มากถึง 10 ล้านคอนเทนต์ในแต่ละเดือน สร้างการเติบโตมากกว่า 70% ให้กับทราฟิกและยอดขายเมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า
ด้าน Shopee Live สร้างยอดขายเพิ่มขึ้น 65% เมื่อเทียบกับปีก่อน และครีเอเตอร์ที่เป็นซูเปอร์สตาร์สามารถสร้างยอดขายมากกว่า 76 ล้านบาทภายในวันเดียว ส่วน Shopee Videos เองก็มียอดขายเติบโตมากกว่า 400% เทียบกับปีก่อนหน้า

สำหรับปีหน้า Shopee จะมีสิ่งที่เรียกว่า Golden Tick Creators หรือเรียกง่ายๆ คือ “ติ๊กทอง” สำหรับเหล่านักขายมือทอง เป็นโปรแกรมที่จะช่วยเพิ่มครีเอเตอร์คุณภาพและช่วยเพิ่มรายได้ให้ครีเอเตอร์เหล่านั้นด้วย
ปัจจุบัน ‘อีคอมเมิร์ซ’ มีส่วนสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจดิจิทัล โดยคาดว่าจะมีสัดส่วนมากถึง 53% จากมูลค่าเศรษฐกิจดิจิทัลไทย 6.5 หมื่นล้านเหรียญในปี 2026 และคิดเป็น 21.5% ของอุตสาหกรรมค้าปลีกไทยทั้งหมด
นอกจากนั้น ยังคาดว่าอุตสาหกรรม ‘อีคอมเมิร์ซ’ จะมีมูลค่าราว 3.4 หมื่นล้านเหรียญในปีหน้า และจะยังคงโตต่อเนื่องในอัตรา 15-20% ใน 4-5 ปีข้างหน้า

- ประเทศอาเซียนใช้ ‘อีคอมเมิร์ซ’ เจ้าไหน Shopee ครองตำแหน่งผู้นำทุกตลาด
- คนไทยใช้เน็ตวันละ 9 ชั่วโมง 20 นาที ซื้อของออนไลน์สัปดาห์ละครั้ง ชอบซื้อผ่าน Shopee-Lazada มากที่สุด
ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา