ไผท ผดุงถิ่น หรือ คุณโบ๊ท ผู้ก่อตั้งและกรรมการผู้จัดการของ Builk.com และอดีตนายกสมาคม Thailand Tech Startup และยังเป็น Startup ไทยที่ชนะโครงการ Echelon ได้เข้าร่วม 500 startups Accelerator Batch7 ไปโลดแล่นอยู่ที่ Silicon Valley ผ่านประสบการณ์มาโชคโชนจนถึงวันนี้ คุณโบ๊ท บอกว่า Builk.com ได้เดินทางผ่านคำว่า Startup มาไกล แต่ก็ยังมีเรื่องอยากเตือนสติ Startup รุ่นใหม่ กับ 7 ข้อห้าม ที่ถ้าทำแล้วอาจจะได้ Exit ก่อนเวลาอันควร
1 อย่าทำตามๆ กันไปแล้วไม่แตกต่าง – คำว่า Startup กำลังหอมหวานในประเทศไทย ใครๆ ก็พูดถึง และทำให้หลายคนอยากทำ Startup บ้าง เพราะคิดว่าทำแล้วน่าจะหาเงินใช้ได้ไม่ยาก เกิดเป็นวัฒนธรรม Me too ขึ้น ถ้าใครกำลังคิดแบบนี้อยู่ ขอให้เลิกคิด แล้วกลับไปทำงานอย่างเดิมของตัวเองจะดีกว่า ถ้าไม่เข้าใจธุรกิจ Startup ไม่มีทางเกิดแน่นอน
2 อย่าทำโดยไม่มีไอเดีย – ไอเดีย คือสิ่งสำคัญอันดับแรกของ Startup ถ้าไม่มีไอเดีย ธุรกิจไม่เกิด และไอเดียนั้น ต้องมาจากความรู้จริงในธุรกิจนั้นๆ มองเห็นทางแก้ หรือทางที่จะพัฒนาให้ดีขึ้น และสามารถตีโจทย์ออกมาเป็นธุรกิจได้ จากนั้นจึงเริ่มมองหา Founding Team แต่ก่อนอื่นต้องมีไอเดีย
3 อย่าคิดจะจ้าง Outsource – Founder หลายคน ไม่มี CTO เป็นของตัวเอง ทั้งที่ Startup หัวใจคือการใช้เทคโนโลยีเพื่อ Disrupt ธุรกิจเดิม แต่ถ้า Startup ไม่มีคนรู้เรื่องเทคโนโลยี ไม่มี CTO และหวังจะใช้ Outsource เพื่อทำงานด้านไอทีให้ รับรองว่า เจ๊ง ไปไม่รอด
4 อย่าออกงาน Event มากเกินไป – เมื่อตั้งเป็น Startup ได้แล้ว Founder หลายคนก็จ้องจะออกงาน Event เพราะรู้ว่า งานแบบนี้ คือโอกาสในการเปิดตัวเอง โอกาสในการเจอ VC ทั้งหลายและนั่นคือ โอกาสในการได้เงินทุน แต่ช้าก่อน ถ้าออกงาน Event มากเกินไปจนไม่มีเวลาพัฒนาธุรกิจของตัวเอง ก็จบเหมือนกัน คงไม่มี VC มาลงทุนด้วย ดังนั้นบาลานซ์ให้ดี
5 อย่ามองหาแต่ VC นั่นไม่ใช่สิ่งพิสูจน์ความสำเร็จ – Startup หลายคนมองหาแต่ VC มองว่าถ้าได้ VC คือได้เงินทุน นั่นคือหนึ่งในความสำเร็จ แต่ความเป็นจริงแล้ว การทำ Startup สิ่งสำคัญคือ โมเดลธุรกิจ และการทำ Fit to Market ทั้งบริการที่ดี มีลูกค้าใช้งาน และรวมถึงมีรายได้ ถ้ามีครบ รับรองว่า VC จะวิ่งมาหาเอง และตอนนั้นจะสามารถเลือกสิ่งที่ดี ไม่ใช่ต้องเลือกแบบไม่มีทางเลือก
6 อย่าฟังผู้รู้ อย่าเชื่อ Hero – เครื่องมือหนึ่งของ Startup คือ การเข้าโครงการ Accelerate และการมี Mentor ให้คำปรึกษา แต่สิ่งที่ Startup ต้องมีคือ ภูมิคุ้มกัน ที่จะรับฟัง แต่ไม่ต้องเชื่อตามผู้รู้ทั้งหลายไปทุกอย่าง หรือแม้แต่ Startup Hero ที่อาจจะสำเร็จไปแล้ว เขาก็เก่งในธุรกิจของเขา สุดท้าย “เรา” ต้องเป็นคนที่รู้ดีที่สุดในธุรกิจของเราเอง ฟังเป็นข้อเสนอแนะ และเลือกมาปฏิบัติ
7 อย่าคิดว่าจะเป็น Startup ไปตลอด – คำว่า Startup ของแต่ละคนอาจจะมีนิยามและเป้าหมายที่แตกต่างกัน แต่สำหรับ คุณโบ๊ท บอกว่า Startup คือช่วงเวลาของการค้นหา โมเดลธุรกิจ ดังนั้นจึงเห็นการทดลองและปรับปรุงซ้ำไปซ้ำมาหลายครั้ง จนกว่าจะเจอโมเดลธุรกิจที่ใช่ และ Scale Up หรือขยายธุรกิจออกไป แต่อยากให้ Startup มองด้วยว่า ไม่มีใครเป็น Startup ไปตลอด ควรมองโอกาสในการทำ Establish Business หรือสร้างขึ้นเป็นบริษัทจริงๆ ด้วย เพราะแต้มต่อ และเครดิตในการทำงาน มีมากกว่ากันเยอะ
Credit Image: Pixabay, Wikimedia
ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา