เคยสงสัยไหมว่า ‘TikTok’ รู้ได้ยังไงว่าเราอยากซื้อสินค้าประเภทไหน? แถมรู้อีกว่า ตอนนี้เรากำลังลังเล เลยยิงแอดเข้ามารัวๆ เสริมการตัดสินใจ? เข้ามาแอบอยู่ใต้เตียงหรือเปล่า?
Brand Inside มีโอกาสเข้าร่วมงาน ‘TikTok Apps Summit Southeast Asia’ ที่จัดขึ้นเป็นครั้งแรกเมื่อวันที่ 29 ตุลาคม 2025 ณ กรุงฮานอย ประเทศเวียดนาม ถึงได้รู้ว่า ทุกวันนี้ TikTok มีผู้ใช้งานในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้มากกว่า 460 ล้านคน และหากเจาะมาที่ไทยประเทศเดียว จะมีผู้ใช้งานราวๆ 50 ล้านคนเลย
ผู้ใช้งานเยอะขนาดนี้ แต่สิ่งที่ TikTok ยังทำได้ดีคือการใช้ ‘เครื่องมือ’ เพื่อช่วยเหลือธุรกิจและแบรนด์ต่างๆ ที่เข้ามายิงโฆษณาบนแพลตฟอร์ม
เครื่องมือที่ว่านี้คืออะไร? มาดูกัน
คนใช้แอปฯ หลากหลาย ลูกค้าใหม่หายาก แบรนด์ต้องการผลตอบแทนสูง
เอาจริงๆ หากคุณเป็นเป็นเจ้าของธุรกิจหรือทำงานด้านการตลาด อาจจะพอรู้อยู่บ้างว่า ปัจจุบัน มีเครื่องไม้เครื่องมือมากมายให้ผู้ประกอบการเลือกใช้เป็นตัวช่วยในการลงโฆษณาสินค้า
แต่ ‘Nikkhil Rolla’ Head of Strategic Accounts, Southeast Asia, TikTok มองว่า สาเหตุที่ทำให้ TikTok โดดเด่นกว่าแพลตฟอร์มอื่นๆ คือ มันสามารถเข้ามาตอบโจทย์ความท้าทายต่างๆ ที่ ‘การตลาด’ สำหรับแอปพลิเคชัน (App Marketing) กำลังเผชิญอยู่ ซึ่งประกอบด้วย
- ความสนใจกระจายตัว
Rolla เผยว่า ทุกวันนี้ ผู้ใช้งาน 1 คนมักใช้มากกว่า 10 แอปพลิเคชันต่อวัน ทำให้ความสนใจค่อนข้างกระจัดกระจายไปในวงกว้าง แต่เขาเชื่อว่า TikTok จะเอาอยู่ เพราะจากฐานข้อมูลแล้ว เกือบๆ 40% ของผู้ใช้งาน TikTok ไม่ใช้งานสื่ออื่นๆ เลย
นอกจากนั้น แม้ความสนใจจะกระจายตัวแค่ไหน TikTok ก็ยังเป็นแพลตฟอร์มที่ผู้ใช้งานใช้เวลาไปกับมันนานมากที่สุด โดยเฉลี่ยแล้วอยู่ที่ราวๆ 90-100 นาทีต่อวัน หรือเทียบเท่าการดูภาพยนตร์เรื่องหนึ่งเลย
- ขาดแคลนลูกค้าใหม่ๆ
68% ของนักการตลาดในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกบอกว่า ตอนนี้ พวกเขาขาดประสิทธิภาพในการเข้าหาลูกค้าใหม่ๆ แต่ Rolla ก็เล่าว่า TikTok สามารถเข้ามาช่วยได้ เพราะแพลตฟอร์มมีความโดดเด่นในการดึงดูดความสนใจเป็นทุนเดิม โดยแบ่งออกเป็น 3 แง่คือ
- สามารถคัดเลือกคอนเทนต์ให้ตรงกับความสนใจผู้ใช้งาน
- ครีเอเตอร์บนแพลตฟอร์มมีความหลากหลาย จริงใจ และเชื่อถือได้ เหมาะกับผู้ใช้งานที่มีความสนใจต่างกัน
- ฟีเจอร์การไลฟ์ของ TikTok เพิ่มโอกาสให้แบรนด์เข้าถึงลูกค้ามากขึ้น แถมการที่ร้านค้าสามารถปฏิสัมพันธ์กับผู้บริโภค ยังช่วยเพิ่มโอกาสในการสร้างยอดขายด้วย
- แบรนด์ต้องการผลตอบแทนจากการยิงโฆษณามากขึ้น
แน่นอนว่า เสียเงินค่าโฆษณาไปทั้งที ใครๆ ก็ต้องการผลตอบแทนและมูลค่าเยอะๆ อยู่แล้ว
Rolla มองว่า สำหรับความท้าทายนี้ เครื่องมือต่างๆ ของ TikTok สามารถเข้ามาตอบโจทย์ได้ และทำให้ธุรกิจมีเวลาไปโฟกัสกับงานอื่นๆ แทนที่จะเอาแต่ดูเรื่องโฆษณาอย่างเดียว
เช่น ‘Smart+’ เครื่องมือช่วยจัดการการลงโฆษณาบนแพลตฟอร์มแบบอัตโนมัติ ที่เข้ามาเพิ่มประสิทธิภาพในด้าน
- กำหนดกลุ่มเป้าหมายคนดู
- จัดสรรงบยิงแอด
- คัดเลือกคอนเทนต์ที่เหมาะสมกับจุดประสงค์ของโฆษณา
สรุปแล้ว ร้านค้าบน TikTok รู้ได้อย่างไรว่าเรากำลังสนใจสินค้าอยู่?
นอกจากจุดแข็งของ TikTok ด้านการโฆษณาที่กล่าวไปข้างต้น ยังมีอีกหนึ่งเครื่องมือที่เข้ามาช่วยให้ผู้ประกอบการรู้ทันลูกค้าได้มากขึ้น โดยเครื่องมือนั้นมีชื่อว่า ‘Market Scope’
‘ธัญวุฒิ วงษ์สุนทร’ General Manager ประจำ TikTok for Business ประเทศไทย เล่าว่า Market Scope เป็นเครื่องมือที่เปิดโอกาสให้แบรนด์ต่างๆ สามารถดูข้อมูลได้ว่า จากแอดที่ยิงบนแพลตฟอร์ม ผู้ใช้งานคนหนึ่งเห็นแล้วสนใจไหม? หากสนใจ เขาทำอย่างไรต่อ? จบที่การขายหรือไม่? หากลูกค้าตัดสินใจซื้อ งั้นไปซื้อที่ช่องทางไหน?
“เราจะใช้ tool ตัวนี้เป็นสารตั้งต้นบอกแบรนด์ว่า ก่อนที่แบรนด์จะเริ่มใช้เงินโฆษณา แบรนด์วิเคราะห์ User Journey (เส้นทางการตัดสินใจของผู้ใช้งาน) ก่อนว่าทุกวันนี้ user เรารู้จักแบรนด์เราหรือยัง? เริ่มหารีวิวหรือยัง? แล้วเวลาเขาซื้อของ เขาไปจบที่ channel ไหน?” ธัญวุฒิกล่าว
นอกจาก Market Scope จะช่วยให้แบรนด์เข้าใจผู้บริโภคแล้ว ยังทำให้สามารถจัดสรรงบโฆษณาได้ตรงจุดมากขึ้น เพราะรู้ว่าลูกค้ากำลังให้ความสนใจ พิจารณา หรือใกล้ตัดสินใจซื้อแล้วนั่นเอง
ที่สำคัญ Market Scope ยังสามารถนำไปใช้ได้ฟรีๆ ทำให้ธัญวุฒิมองว่า ในตอนนี้ ธุรกิจไหนจะโดดเด่นกว่าใคร คงต้องตัดกันที่ ‘คอนเทนต์’ เพราะทั้งแบรนด์เล็กและแบรนด์ใหญ่ล้วนเข้าถึงเครื่องมือเท่ากันหมด
สรุปง่ายๆ คือ หากคุณเป็นผู้ประกอบการรายย่อย แต่รู้จักใช้เครื่องมือของ TikTok for Business และทำคอนเทนต์ที่ครีเอทีฟหรือเรียลกว่า ก็อาจงัดจนชนะแบรนด์ระดับโลกได้เช่นกัน
ด้วยเหตุนี้เอง มันจึงไม่แปลกที่ปัจจุบันจะมีแบรนด์ร่วมงานกับ TikTok for Business ประเทศไทย มากกว่า 1 หมื่นราย
ยิงโฆษณาบน TikTok แต่เด้งไปแพลตฟอร์มอื่นได้ โตสุดคือเกม-ค้าปลีก-ท่องเที่ยว-การเงิน
นอกจากนี้ แบรนด์ที่เข้ามาร่วมงานกับ TikTok for Business ยังไม่จำกัดว่าต้องเป็นร้านค้าบน TikTok Shop เท่านั้น เพราะถ้าผู้ประกอบการอยากจะยิงโฆษณา แล้วให้มันเด้งไปที่แอปพลิเคชัน เว็บไซต์ หรือแม้กระทั่งกล่องข้อความนแพลตฟอร์มอื่นๆ ก็ทำได้เลย
ธัญวุฒิอธิบายว่า แต่ละธุรกิจก็จะมีจุดมุ่งหมายในการลงโฆษณาไม่เหมือนกัน เพราะอย่าง 4 อุตสาหกรรมที่เติบโตแนวดิ่งไปพร้อมกับ TikTok มากที่สุดก็มีความต้องการต่างกันไป โดย
- เกม: อยากได้ผู้ใช้งานที่เข้ามาเล่นเกมนานขึ้น และต้องการคนเข้ามามีส่วนร่วมในแอปฯ
- การค้าปลีกและอีคอมเมิร์ซ: อยากให้ TikTok ช่วยดึงผู้บริโภคไปซื้อสินค้าในช่องทางที่ขายดีที่สุด แม้จะไม่ใช่ TikTok Shop ก็ตาม
- การท่องเที่ยว: ให้ TikTok จับสัญญาณความสนใจของผู้ใช้งาน แล้วส่งต่อไปหาแบรนด์ต่างๆ ว่าควรทำคอนเทนต์แบบไหนมาตอบสนองความต้องการของผู้บริโภค
- การเงิน: อุตสาหกรรมนี้มุ่งเน้นในการให้ความรู้ด้านการเงินมากกว่า อาทิ เรื่องการลงทุน ซึ่งสามารถทำได้ทั้งในรูปแบบคอนเทนต์และไลฟ์
ท้ายสุด ไม่ว่าในอนาคต TikTok จะมีเครื่องมืออะไรเพิ่มเข้ามาอีกบ้าง แต่เราก็ขอให้ผู้ประกอบการทุกคนยังสามารถเรียนรู้และเข้าถึงเครื่องมือทันสมัยแบบนี้ต่อไป เพื่อต่อยอดธุรกิจ สร้างรายได้ พร้อมขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทยไปด้วยกัน
- วิเคราะห์สมรภูมิโฆษณาดิจิทัลปี 68 เม็ดเงินทะลุ 3.3 หมื่นล้าน, ‘Attention’ คือขุมทรัพย์ยุค AI และ TikTok คือดาวรุ่งที่น่าจับตา
- กว่าจะรู้ตัวก็สายไป Mark Zuckerberg ยอมรับไม่คิดว่า TikTok จะมาเป็นคู่แข่ง
ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา