ไทยยังขาดแคลนสัตวแพทย์สูง ‘โรงพยาบาลสัตว์ทองหล่อ’ ระบุว่า นี่คืออาชีพที่ไม่มีวันตกงาน

ในช่วงที่หลายอาชีพถูกพูดถึงว่า ‘เสี่ยงตกงาน’ โดยเฉพาะเมื่อเศรษฐกิจชะลอตัว และ AI เริ่มเข้ามาแทนแรงงานมนุษย์ในหลายสายงาน

แต่อาชีพ ‘สัตวแพทย์’ กลับสวนทาง ตามข้อมูลจาก ‘โรงพยาบาลสัตว์ทองหล่อ’ ที่ระบุชัดว่า นี่คือหนึ่งในอาชีพที่ “ไม่มีวันตกงาน” และยังเป็นที่ต้องการอย่างมากในตลาด

‘สัตวแพทย์หญิงกฤติกา ชัยสุพัฒนากุล’ ประธานกรรมการบริหาร โรงพยาบาลสัตว์ทองหล่อ เล่าให้ฟังว่า อุตสาหกรรมสัตวแพทย์ไทยกำลังโตต่อเนื่อง และถูกยกให้มีมาตรฐานสูงที่สุดในอาเซียน จุดแข็งสำคัญมาจากพื้นฐานด้านการแพทย์ที่แข็งแรงอยู่แล้ว จนประเทศไทยถูกมองว่าเป็นหนึ่งใน ‘Medical Hub’ ของโลก

แนวโน้มนี้ยังส่งต่อมาสู่วงการสัตวแพทย์ด้วย มหาวิทยาลัยไหนที่มีคณะแพทยศาสตร์อยู่ก่อน มักจะตั้งคณะสัตวแพทยศาสตร์ได้เร็วกว่า เพราะมีโครงสร้างพื้นฐานรองรับอยู่แล้ว เช่น จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ มหาวิทยาลัยขอนแก่น มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ มหาวิทยาลัยมหาสารคาม และมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีมหานคร

โดยหลักเกณฑ์สำคัญคือ ทุกแห่งต้องมีโรงพยาบาลสัตว์ในมหาวิทยาลัย เพื่อให้นักศึกษาได้เรียนรู้จากเคสจริง

‘กฤติกา’ อธิบายว่า ถึงแม้อาชีพสัตวแพทย์จะไม่มีวันตกงาน แต่กลับเป็นหนึ่งในสายงานที่ขาดแคลนอย่างหนัก เหตุผลคือ จำนวนสัตว์เลี้ยงในครัวเรือนเพิ่มขึ้นต่อเนื่องตามเทรนด์ ‘Pet Parent’ หรือการเลี้ยงสัตว์เหมือนลูกๆ เจ้าของเองก็มีความคาดหวังสูงขึ้น วงการสัตวแพทย์จึงต้องเร่งปรับตัว ทั้งด้านมาตรฐาน และเทคโนโลยี

ปัจจุบันแม้จะมีคณะสัตวแพทยศาสตร์ราว 12 แห่งทั่วประเทศ แต่จำนวนบัณฑิตที่จบออกมายังไม่พอรองรับความต้องการ ตลาดต้องการสัตวแพทย์มากกว่าที่ผลิตได้ ทำให้โรงพยาบาล และคลินิกต่างๆ ต้องรีบ ‘ชิงตัว’ ตั้งแต่ก่อนเด็กจะเรียนจบ

หลายมหาวิทยาลัยจัดงาน Open House ให้โรงพยาบาลเข้าไปคุยกับนักศึกษาโดยตรง บอกกันไปเลยว่า จุดแข็งของแต่ละที่คืออะไร เพื่อสร้างแรงดึงดูด และความสัมพันธ์ตั้งแต่เนิ่นๆ

ส่วนเส้นทางการเรียนของนักศึกษาสัตวแพทย์จะครอบคลุมทุกด้าน ไม่ว่าจะเป็นสัตว์เล็ก สัตว์ใหญ่ สัตว์น้ำ หรือสัตว์ป่า แล้วค่อยตัดสินใจเลือกสายงานจริงหลังเรียนจบ ‘กฤติกา’ บอกว่า แม้เมื่อก่อนคนเรียนสายสัตว์ใหญ่มากกว่า แต่ตอนนี้กระแสเปลี่ยนชัดเจน เกือบทั้งหมดหันมาสายสัตว์เลี้ยง เพราะตรงกับความต้องการของตลาดปัจจุบัน

นอกจากนี้ สัตวแพทย์ก็ทำงานหนักไม่แพ้แพทย์ทั่วไป หมอสัตว์จำนวนมากต้องเข้าเวรทั้งกลางวันกลางคืน บางครั้งเฝ้าคนไข้สัตว์จนไม่ได้กลับบ้าน ‘กฤติกา’ เสริมว่า ยิ่งถ้าเป็นสัตวแพทย์ผู้หญิงที่มีลูก ยิ่งเหนื่อยเป็นพิเศษ หลายโรงพยาบาลเลยต้องจัดระบบช่วยเหลือ เช่น มีห้องสำหรับพาลูกเล็กมาด้วย เพื่อให้ทำงานควบคู่กับการดูแลครอบครัวได้

‘กฤติกา’ มองว่า อีกทางออกสำคัญในการลดภาระของสัตวแพทย์ คือการนำเทคโนโลยีเข้ามาช่วย ลดงานซ้ำซ้อน และทำให้ทีมแพทย์ทำงานร่วมกันได้มีประสิทธิภาพมากขึ้น

ทั่วโลกเองก็เจอสถานการณ์ไม่ต่างกัน สัตวแพทย์ยังคงอยู่ในภาวะ ‘ขาดแคลน’ อย่างต่อเนื่อง ทำให้การเปิดคณะสัตวแพทยศาสตร์เพิ่มเติมในมหาวิทยาลัยที่มีมาตรฐาน เป็นทางออกที่สำคัญ ไม่เพียงสร้างบุคลากรให้พอใช้ แต่ยังสอดรับกับภาพสังคมที่เปลี่ยนไป

เพราะวันนี้ สัตว์เลี้ยงไม่ได้ถูกมองว่าเป็นแค่สัตว์อีกต่อไป แต่คือ ‘สมาชิกในครอบครัว’ ที่สมควรได้รับการดูแลอย่างดีที่สุด

ที่มา: โรงพยาบาลสัตว์ทองหล่อ

ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา