“การที่เราเป็นคนมีชื่อเสียง เราเสียเปรียบ เพราะคนจะไม่เชื่อเรา ทุกๆ อย่างที่เราถือ คนจะคิดว่าถูกจ้างมา”
ท่ามกลางหมู่มวลดารานักแสดงและเซเล้บต่างๆ ที่ออกมาทำ ‘แบรนด์’ เป็นของตนเอง คุณอาจคิดว่า การที่พวกเขามีผู้ติดตามเยอะอยู่แล้ว คงทำธุรกิจง่ายกว่าคนทั่วไป เพราะอย่างน้อยๆ ก็ได้ยอดขายจากแฟนคลับ
แต่ ‘พิม-พิมประภา ตั้งประภาพร’ นักแสดงสาวไม่คิดเช่นนั้น เพราะในฐานะที่เป็น Co-CEO ของแบรนด์ ‘RAD Cosmetics’ เธอมองว่า ผู้บริโภคเลือกซื้อสินค้าจากเรื่องราวที่เป็นความจริง ไม่ใช่เพราะ ‘ดารา’ ส่งผลให้ทุกคนได้เปรียบเธอหมดในจุดนี้ เพียงแค่ต้องทำคอนเทนต์ให้มีคุณภาพ
“Followers ของเราไม่ได้ซื้อตามเราทุกอย่าง เขาเชื่อในสิ่งที่เราเชื่อ เขาเชื่อในสิ่งที่เราใช้ เพราะฉะนั้น อย่าคิดว่าทำอะไรขาย คนก็ซื้อตาม คนปัจจุบันฉลาดมาก ลูกค้าสมัยนี้เขารู้ว่าเราโกหกไม่โกหก” พิมกล่าวในงาน Thailand E-Commerce Expo 2025
ทั้งนี้ แม้พิมจะเป็นดารามากผลงาน แต่เธอก็สามารถปั้นแบรนด์ RAD Cosmetics ให้ขายดิบขายดี แถมยังสร้างความเชื่อมั่นในหมู่ผู้บริโภคได้
พิมทำได้อย่างไร? มาดูกัน
แพรว-พิม เริ่มจากคนสองคนที่มีความคิดตรงกัน

จริงๆ แล้ว หากจะท้าวความไปถึงจุดเริ่มต้นของ RAD Cosmetics ก็อาจต้องเริ่มตั้งแต่ทำความรู้จัก ‘แพรว-เพชรัตน์ ชุณหะ’ เสียก่อน เพราะเธอเป็นหนึ่งผู้เล่นคนสำคัญในการก่อตั้งแบรนด์นี้ โดยแพรวเล่าว่า จริงๆ แบรนด์ RAD Cosmetics นั้นมีมา 9 ปีแล้ว
หากอิงจากข้อมูลของ ‘กรมพัฒนาธุรกิจการค้า’ เดิมที RAD Cosmetics ใช้ชื่อบริษัทว่า ‘บริษัท แร้ดคอสเมติกส์ จำกัด’ โดยมีรายชื่อกรรมการ 1 คนคือ ‘ณัฐชา ชุณหะ’ ผู้เป็นน้องสาว และจดทะเบียนในปี 2016 ก่อนจะขึ้นสถานะ ‘ร้าง’ ไปเมื่อปลายปี 2024
หลังจากนั้น ‘แพรว’ ก็เข้ามาทำการเปลี่ยนแปลง โดยก่อตั้งธุรกิจในชื่อว่า ‘บริษัท แร้ด คอสเมติก กรุ๊ป จำกัด’ เมื่อวันที่ 11 เมษายน 2025 ซึ่งมีแค่เธออยู่ในรายชื่อกรรมการ พร้อมรายชื่อผู้ถือหุ้นที่มีแพรวครองสัดส่วน 80% กับ ‘อุทัยวรรณ ชุณหะ’ ถืออยู่อีก 20%
ขณะนั้นเอง พิมบอกว่า ตนก็กำลังคิดอยากจะทำธุรกิจเครื่องสำอาง เนื่องจากค้นพบว่าจริงๆ แล้ว สิ่งที่ชอบคือสายงาน ‘บิวตี้’
ด้วยเหตุนี้ พิมจึงไปปรึกษากับผู้จัดการว่า อยากทำธุรกิจ พอจะมีใครแนะนำบ้างไหม ซึ่งผู้จัดการก็ได้พาเธอมารู้จักกับแพรวซีอีโอ RAD Cosmetics นั่นเอง
พิมเผยว่า ตอนเจอกันครั้งแรก เธอเล่าให้แพรวฟังถึงภาพที่มีในหัวและแบรนด์ดิ้งที่ต้องการ โดยสิ่งที่น่าทึ่งคือ หลังจากพูดจบ แพรวก็เปิดพรีเซนเทชันแบรนด์ออกมา แล้วมันตรงกับสิ่งที่พิมเพิ่งพูดออกไปทั้งหมด
แพรวกล่าวว่า “RAD นี่จริงๆ มีมาประมาณ 9 ปีแล้ว แต่ว่าปีนี้เป็นปีที่เราจะกลับมาเพื่อครองบัลลังก์ลิป และเราก็มีการ rebranding ทั้ง CI ทั้งโลโก้แบรนด์ รวมถึงคาแรกเตอร์แบรนด์ ให้เป็นความลักชูรีที่สามารถจับต้องได้ ก็จะเป็น RAD Cosmetics ในปัจจุบันนี้ ก็เลยเลือกน้องพิมมา ซึ่งเหมาะสมกับ RAD มากๆ” และนี่คือจุดเริ่มต้นของแบรนด์ RAD Cosmetics ฉบับปี 2025
เปิดตัววันแรก พิมถึงกับร้องไห้ เพราะ ‘ลิปหิวแสง’

สินค้าตัวแรกที่ RAD Cosmetics ของพิมและแพรววางขายคือ ‘ลิปสติก’ แต่ไม่ใช่ลิปธรรมดาๆ เพราะมันคือ ‘ลิปหิวแสง’ หรือที่มีชื่อว่า ‘Boldify Lip Glass’
พิมเล่าผ่าน TikTok ว่า ต้องการให้สินค้าตัวนี้แตกต่างจากลิปสติกแบรนด์อื่นๆ ทำให้ต้องไปศึกษาเทรนด์กับนวัตกรรมใหม่ๆ เยอะมาก พร้อมให้โจทย์กับโรงงานไปว่า “ทาแล้วปากต้องอิ่มสวยเล่นแสงและบำรุงได้จริง”
ในส่วนของชื่อลิปหิวแสง พิมบอกว่า เนื่องจากมันเป็นลิปที่มีนวัตกรรมใหม่ ทำให้ปากกระเจิงแสงมาก โดยเมื่อโดนแสง ปากจะมีความวาววับ ซึ่งตอนประชุม ทีมงานก็มานั่งคิดคำให้ติดหูคนมากที่สุด ก่อนเกิดเป็นไอเดียลิปหิวแสงขึ้นมา
หลังจากแก้ไปไม่รู้กี่รอบ ในที่สุด ผลิตภัณฑ์ตัวแรกของ RAD Cosmetics ก็ออกมาเป็นดั่งที่หวัง จนพิมถึงขั้นร้องไห้ เมื่อได้ลองแล้วรู้ว่า นี่คือลิปที่ตรงกับที่เธอเคยฝัน และไม่ต้องแก้อะไรเพิ่มอีก
รีแอคชันในตอนนั้น พิมก็ได้เอามาโพสต์เล่าบน TikTok เพราะเธออยากให้ RAD Cosmetics เป็นแบรนด์ที่เข้าถึงง่าย ดูมีชีวิต และเป็นธรรมชาติ จึงลงให้คนเห็นถึงความรู้สึกของเธอจริงๆ เลย โดยไม่ต้องประดิษฐ์ประดอย หรือเอาไปถ่ายในสตูดิโอให้เวอร์วังอะไร
“พิมรู้สึกว่า เราจะสร้างความ loyalty ของลูกค้าได้จากความที่เขารู้สึกว่า เขาเป็นส่วนหนึ่งของแบรนด์ตั้งแต่ต้น”
และมันเป็นอย่างนั้นจริงๆ เพราะพิมเผยว่า หลังจากปล่อยคลิปแรกไป คนก็เริ่มอยากรู้ว่า ลิปอะไรกันที่ทำให้พิมร้องไห้ จนเกิดเป็นปรากฏการณ์ขายสินค้าหมดตั้งแต่ครึ่งชั่วโมงแรกของการไลฟ์เปิดตัว
แต่สิ่งที่ยืนยันความสำเร็จของแบรนด์อาจเป็นหลังจากนั้นมากกว่า โดยพิมอธิบายว่า เมื่อคนที่ซื้อสินค้าล็อตแรกทัน เริ่มออกมารีวิวแล้วเห็นผลทันที กลายเป็นแรร์ไอเท็มสำหรับสาวๆ ขณะที่ RAD Cosmetics ก็ได้เอนเกจเมนต์แบบออแกนิคจากผู้ใช้งานจริงไปโดยปริยาย
“คือเราดีใจมาก ในขณะเดียวกันพี่แพรวก็เครียดมากๆ เพราะเราไม่มีของขาย แต่เขาเรียกว่ามันเป็นปัญหาที่มีความสุข ตอนนั้นเราก็พยายามที่จะจัดการเรื่องสต็อก คลังสินค้า แล้วพอของวางปุ๊ป ก็หมดเลยทันที” พิมกล่าว
เคล็ดลับความสำเร็จของ RAD Cosmetics กับการทำงานในฐานะคู่หู

จากปรากฏการณ์ครั้งนั้น RAD Cosmetics สามารถทำยอดขายได้ถึง 15 ล้านบาท ภายใน 20 วัน และยังออกสินค้าใหม่ๆ อยู่เรื่อยมา
แม้พิมจะบอกว่า การที่เธอเป็นดาราอาจทำให้เสียเปรียบ เนื่องจากคนไม่เชื่อ แต่เธอก็รู้ว่า การทำคอนเทนต์ในฐานะอินฟลูเอนเซอร์กับเจ้าของแบรนด์นั้นต่างกัน
พิมอธิบายว่า ตอนเป็นอินฟลูฯ เธอก็จะรับรีวิวสินค้าต่างๆ มากมาย โดยเป็น ‘คนนอก’ ที่พูดได้แค่ในขอบเขตของการใช้งานจริง ประกอบกับบรีฟที่แบรนด์ให้มา
กลับกัน พอเป็นเจ้าของธุรกิจ พิมคือ ‘คนใน’ แล้ว ฉะนั้น เรื่องราวที่ถ่ายทอดไปจะมีความลึกซึ้งมากกว่า ทำให้คนเห็นถึงการเติบโตของแบรนด์ด้วย
แพรวเองก็คอยซัพพอร์ตในเรื่องการปั้นแบรนด์ดิ้งอยู่ตลอด โดยเธอเชื่อว่า การที่จะสร้างความเชื่อใจในหมู่ผู้บริโภคได้ สิ่งที่ต้องทำคือ
- Emotional Lead ซึ่งหมายถึงพิม เพราะเธอคือผู้ถ่ายทอดแบรนด์ให้ตรงตามกลุ่มลูกค้าที่วางไว้
- Product Lead เพราะ RAD Cosmetics ต้องการให้ผลิตภัณฑ์สะท้อนความเป็นนวัตกรรม และเห็นผลลัพธ์ได้ตั้งแต่ที่ลองใช้
- Corporate Brand Lead โดยต้องการให้ RAD Cosmetics เป็นแบรนด์ที่หรูหรา แต่เข้าถึงได้ แถมมีการออกแบบที่ผู้หญิงใช้แล้วจะภูมิใจ
“แบรนด์ของเรามีความต้องการในเรื่องของความจริงใจ พิมทะเลาะกับทีมเยอะมากๆ เพราะพิมรู้สึกว่า พิมไม่อยากที่จะเอาเปรียบลูกค้าเลย” พิมกล่าว
แม้พิมและแพรวจะเพิ่งร่วมงานกันครั้งแรก แต่ทั้งคู่มองว่า ‘คู่หู’ ที่ดีคือต้องรู้จักแบ่งหน้าที่กันชัดเจน ใครเก่งด้านไหน ก็ให้คนนั้นจัดการ ซึ่งสำหรับ RAD Cosmetics เอง พิมเป็นคนดูแล ‘หน้าบ้าน’ เช่น การสื่อสาร ขณะที่แพรวดู ‘หลังบ้าน’ เช่น การพัฒนาผลิตภัณฑ์ หรือการตลาด
ท้ายสุด RAD Cosmetics ก็แสดงให้เห็นแล้วว่า ความสำเร็จไม่ได้เกิดขึ้นเพียงเพราะพิมเป็นดารา แต่มาจากความร่วมมือของซีอีโอสาวทั้งสอง ที่อยากส่งต่อสินค้าให้ผู้บริโภคด้วยความจริงใจ และพร้อมเติบโตไปกับลูกค้า
ที่มา: กรมพัฒนาธุรกิจการค้า, TikTok, Corpus X
ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา