CardX ยกเครื่องสู่ Cloud เต็มตัว ปลดล็อก AI สร้าง Hyper-personalization ตั้งเป้าสู่ Digital Payment Platform

การที่ CardX ได้รับรางวัล “The Best Cloud Based Technology Initiative in Thailand” จาก The Asian Banker คือบทพิสูจน์ความสำเร็จของภารกิจที่ท้าทายอีกครั้งหนึ่ง คือการ “ยกเครื่อง” ระบบ Core Banking ของธุรกิจบัตรเครดิตและสินเชื่อบุคคลที่มีลูกค้ากว่า 3 ล้านบัญชี ขึ้นไปอยู่บนสถาปัตยกรรมคลาวด์ (Cloud-based Architecture) ได้สำเร็จเป็นรายแรกๆ ในภูมิภาค

การเคลื่อนไหวครั้งนี้คือการ “สร้างบ้านใหม่” ที่ปลดล็อกข้อจำกัดทางเทคโนโลยีในอดีต และเป็นใบเบิกทางสำคัญให้ CardX สามารถนำ AI เข้ามาเป็นหัวใจในการขับเคลื่อนธุรกิจได้อย่างเต็มศักยภาพ

ทำไมการย้ายสู่ Cloud ถึงเป็น Game Changer?

สารัชต์ รัตนาภรณ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร CardX อธิบายว่า การย้ายระบบครั้งนี้ไม่ใช่แค่การปรับปรุงการดำเนินงาน แต่เป็นการวางรากฐานใหม่ทั้งหมด โดยสถาปัตยกรรมแบบคลาวด์ทำให้ CardX สามารถนำเทคโนโลยี AI มาขับเคลื่อนธุรกิจได้เต็มกำลัง

ในโลกเดิมที่ใช้ระบบ Legacy การจะดึงข้อมูลลูกค้ามาวิเคราะห์เพื่อออกโปรโมชันที่ใช่ หรือตรวจจับทุจริตแบบทันทีทันใดนั้นทำได้ยากและมีต้นทุนสูง แต่บนคลาวด์ CardX สามารถ:

  • วิเคราะห์ข้อมูลแบบเรียลไทม์ นำข้อมูลการใช้จ่ายของลูกค้ามาพัฒนาผลิตภัณฑ์และบริการได้ทันที
  • สร้างประสบการณ์เฉพาะบุคคล (Hyper-personalization) ส่งมอบโปรโมชัน ส่วนลด หรือจัดการวงเงินที่ “ใช่” สำหรับลูกค้าแต่ละคน ใน “เวลา” ที่เหมาะสม
  • เพิ่มความเร็ว ลดต้นทุน พัฒนาฟีเจอร์ใหม่ๆ ออกสู่ตลาดได้เร็วขึ้น โดยไม่ต้องลงทุนกับโครงสร้างพื้นฐานขนาดใหญ่เหมือนในอดีต

“AI with Soul” คือผลลัพธ์ที่ลูกค้าจะได้

CardX ไม่ได้มอง AI เป็นแค่เครื่องมือ แต่พัฒนาภายใต้แนวคิด “AI with Soul” ที่ผสานข้อมูลเชิงลึกของลูกค้า (Deep Customer Data Intelligence) เพื่อสร้างบริการที่ “เข้าใจ” และ “ใส่ใจ” ซึ่งแปลออกมาเป็นฟีเจอร์ที่ลูกค้าสัมผัสได้จริง ดังนี้

  1. ยกระดับความปลอดภัยสู่มาตรฐานใหม่
    • Double Fraud Detection ใช้ AI และ Machine Learning ตรวจจับพฤติกรรมผิดปกติแบบเรียลไทม์ หากมีรายการน่าสงสัย ระบบจะแจ้งเตือนลูกค้าทันทีเพื่อให้กดยืนยันหรือปฏิเสธได้ ช่วยตัดวงจรความเสียหายได้ก่อนจะลุกลาม
    • Card Control ลูกค้าสามารถควบคุมความปลอดภัยของบัตรได้เอง 100% ผ่านแอปพลิเคชัน เช่น การเปิด/ปิดการใช้จ่ายออนไลน์, การล็อก/ปลดล็อกบัตรชั่วคราว หรือการเปิดใช้งานบัตรเมื่อเดินทางไปต่างประเทศเท่านั้น
  1. บริการที่รู้ใจและรวดเร็วขึ้น
    • Personalized Offers ระบบ AI จะวิเคราะห์ไลฟ์สไตล์การใช้จ่ายและนำเสนอโปรโมชันที่ตรงใจลูกค้าแต่ละคนโดยอัตโนมัติ
    • บริการที่เร็วขึ้น ไม่ว่าจะเป็นช่องทางดิจิทัลหรือ Call Center การมีข้อมูลที่พร้อมใช้งานบนคลาวด์ทำให้การบริการลูกค้าทำได้รวดเร็วและแม่นยำกว่าเดิม

เดินทางสู่เป้าหมาย “Digital Payment Platform”

สารัชต์ บอกว่า การลงทุนทางเทคโนโลยีครั้งใหญ่นี้ คือการขับเคลื่อนองค์กรให้ไปไกลกว่าการเป็นแค่ผู้ให้บริการบัตรเครดิตและสินเชื่อ แต่มีเป้าหมายเพื่อก้าวสู่การเป็น “แพลตฟอร์มด้านการชำระเงินดิจิทัล” (Digital Payment Platform) ที่ครบวงจรและทันสมัย

สรุปแล้ว รางวัลที่ CardX ได้รับเป็นเพียงเครื่องยืนยันความสำเร็จ แต่หัวใจสำคัญคือการที่บริษัทได้สร้างขีดความสามารถในการแข่งขันใหม่ ที่จะทำให้สามารถรับมือกับการเปลี่ยนแปลงในโลกการเงินแห่งอนาคตได้อย่างยั่งยืน ซึ่งท้ายที่สุดแล้ว ผู้ที่ได้รับประโยชน์สูงสุดก็คือลูกค้าที่จะได้สัมผัสกับบริการทางการเงินที่ฉลาดขึ้น ปลอดภัยขึ้น และตอบโจทย์ชีวิตประจำวันได้ดีกว่าเดิม

ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา