การท่องเที่ยว คืออุตสาหกรรมสำคัญของไทยที่มีบทบาทอย่างมากในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจ สามารถดึงดูดนักท่องเที่ยวจากทั่วทุกมุมโลก และสร้างรายได้ให้กับประเทศไม่ต่ำกว่า 1.67 ล้านล้านบาท ในปีที่ผ่านมา
ซึ่ง การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย หรือ ททท. คือส่วนสำคัญในการขับเคลื่อนภาคการท่องเที่ยวของไทยตลอดมา ด้วยการรันแคมเปญ Amazing Thailand อย่างต่อเนื่องเพื่อนำเสนอสถานที่ท่องเที่ยว อาหาร วัฒนธรรม และวิถีชีวิตไทย ให้ไปสู่สายตาชาวโลก สื่อสารไปถึงนักเดินทางทั้งในและต่างประเทศ ผ่านภาษาที่หลากหลาย และช่องทางสื่อต่างๆ
แต่รู้หรือไม่ว่าแคมเปญนี้ได้ดำเนินการต่อเนื่องมายาวนานมากกว่า 25 ปีแล้ว เริ่มต้นตั้งแต่ปี 2541 ข้ามการเปลี่ยนผ่านมาหลากยุค หลายสมัย ปรับตัวทุกการเปลี่ยนแปลง รับมือกับวิกฤตการณ์ จนมาถึงปัจจุบันนี้
พร้อมปรับตัวให้ทันโลก
การจะทำให้แคมเปญหนึ่งอยู่มาได้อย่างยาวนานเกิน 25 ปี ไม่ใช่เรื่องง่าย และการตามเทรนด์ให้ทัน พร้อมปรับตัวอยู่เสมอ ตอบรับทุกการเปลี่ยนแปลงของผู้คนและกระแสโลก โดยที่ยังรักษามาตรฐานภาพลักษณ์ที่ดีของแบรนด์ ก็เป็นเรื่องที่ยากยิ่งกว่า แล้วที่ผ่านมา แคมเปญ Amazing Thailand ผ่านการเปลี่ยนแปลง และปรับตัวเพื่ออยู่รอดอย่างไรบ้าง
- ปี 2541 จุดเริ่มต้นอย่างเป็นทางการของปีท่องเที่ยวไทย หรือแคมเปญ Amazing Thailand ที่นำเสนอการท่องเที่ยวไทยอย่างแปลกใหม่และมีสีสันยิ่งกว่าเดิม ดึงดูดคนไทยท่องเที่ยวภายในประเทศ นำเสนอประสบการณ์ดีๆ สอดแทรกความเป็นไทยในมุมมองที่เป็นสากล เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจให้กลับมาคึกคักหลังเกิดวิกฤตเศรษฐกิจต้มยำกุ้งในปี 2540 จนกลายมาเป็นแบรนด์การท่องเที่ยวของไทยหลังจากนั้น
- ปี 2547 ในช่วงเวลาดังกล่าว ปัญหาสงครามในพื้นที่ตะวันออกกลาง (สงครามอิรัก) และปัญหาจากโรคซาร์ส ส่งผลกระทบต่อการเดินทางท่องเที่ยวข้ามประเทศ กลยุทธ์ในช่วงนี้จึงเน้นไปที่การนำเสนอสถานที่ท่องเที่ยวที่มีความแตกต่าง มีเอกลักษณ์ และอาจจะยังไม่ถูกค้นพบมากนัก เพื่อยกระดับเป็น Quality Destination จนกลายมาเป็นธีม Amazing Thailand, Unseen Treasures
- ปี 2550 หลังจากที่ Amazing Thailand ได้สื่อสารเชิญชวนนักท่องเที่ยวต่างชาติมาระยะเวลาหนึ่ง และกลายมาเป็นภาพจำของการท่องเที่ยวไทยได้อย่างดีเยี่ยม ททท. ยังคงสื่อสารตอกย้ำภาพลักษณ์ประเทศไทย โดยการนำเสนอการท่องเที่ยวไทยที่เน้นคุณภาพและความยั่งยืน ในมุมมองที่เป็นสากลยิ่งขึ้น เพื่อดันให้ไทยเป็นเมืองหลวงแห่งการท่องเที่ยวของเอเชีย ด้วยแนวคิด “The enhancement of Thailand now amazed the world”
- ในปี 2551-2553 การท่องเที่ยวของไทยต้องเจอกับอุปสรรคหลายด้านที่ส่งผลถึงจำนวนนักท่องเที่ยว ไม่ว่าจะเป็นปัญหาความขัดแย้งทางการเมืองภายในประเทศ ภาวะเศรษฐกิจตกต่ำทั่วโลก และการระบาดของไข้หวัดใหญ่ 2009 ทำให้ ททท. ต้องงัดกลยุทธ์เพื่อดึงดูดนักท่องเที่ยวในช่วงที่อ่อนไหว จนกลายมาเป็น Amazing Thailand, Amazing Value ที่เน้นการชู ‘ความคุ้มค่า’ ทั้งด้านราคาและจิตใจมาเป็นคีย์หลักของแคมเปญ ให้เห็นว่ามูลค่าที่จ่ายไปนั้น จะได้รับบริการและสินค้าที่มีคุณภาพ ที่คุ้มค่า
- ในช่วงเวลาเดียวกันนั้น จากปัญหาทั้งหมดที่เกิดขึ้นทำให้จำนวนนักท่องเที่ยวจากเอเชียตะวันออก อาทิ จีน เกาหลี ญี่ปุ่น ในประเทศไทยมีจำนวนลดลง จากการขาดความเชื่อมั่นและลดความต้องการท่องเที่ยวไทย เป็นที่มาของแคมเปญ Come to Thailand Let’s Take a Break ที่ได้ดึงตัว ‘นิชคุณ หรเวชกุล’ ซุปเปอร์สตาร์ระดับเอเชีย มาเป็นผู้สื่อสารในแคมเปญนี้ หวังดึงนักท่องเที่ยวกลุ่มเอเชียตะวันออกให้กลับมา โดยเฉพาะกลุ่มวัยรุ่นและวัยทำงาน
- ปี 2558 อีกหนึ่งปีที่เกิดการเปลี่ยนแปลงสำคัญของ Amazing Thailand เพราะได้มีการเปลี่ยนโลโก้ใหม่ในรอบ 8 ปี เพื่อความทันสมัย สนุกสนาน และสื่อถึงภาพจำของสยามเมืองยิ้ม มาเป็นคีย์สำคัญในโลโก้ โดยการเปลี่ยนแปลงโลโก้ในครั้งนี้ ยังคงถูกใช้งานอยู่จนมาถึงปัจจุบัน
- หรือในปี 2563 ในช่วงที่ทั่วโลกต้องพบเจอวิกฤตโควิด-19 ทำให้การท่องเที่ยวทั่วโลกต้องหยุดชะงัก แต่ ททท. ยังคงสื่อสารเพื่อรักษาให้ประเทศไทยเป็น Top of Mind อย่างต่อเนื่อง โดยการนำเสนอความรู้สึกดีๆ ของการได้ท่องเที่ยวไทย และส่งความห่วงใยไปยังนักท่องเที่ยวทั่วทุกมุมโลก พร้อมแสดงให้เห็นว่าประเทศไทยยังคงรอต้อนรับนักท่องเที่ยวอยู่เสมอเมื่อสถานการณ์คลี่คลายลง
- ปี 2565 Amazing Thailand, Amazing New Chapters ททท. นำการท่องเที่ยวไทย เปลี่ยนฉากพลิกโฉมใหม่ ภายหลังวิกฤต Covid-19 ที่บริบทของการใช้ชีวิตไม่เหมือนเดิม แต่ประเทศไทยยังพร้อมตอบสนองทุกความต้องการของนักท่องเที่ยว ด้วยเรื่องราวอันน่ามหัศจรรย์ยิ่งกว่าเดิม และมากกว่าที่เคยสัมผัส
- ปี 2567-2568 Amazing Thailand: Your Stories Never End สื่อสารเชิญชวนให้นักท่องเที่ยวมาค้นพบเรื่องราวประทับใจระหว่างการเดินทาง สร้างความทรงจำที่มีคุณค่าและไม่อาจลืมเลือนได้ นำเสนอประสบการณ์ท่องเที่ยวไทยที่ทำให้นักท่องเที่ยวรู้สึกเหมือนเป็นครั้งแรกที่ได้เดินทางท่องเที่ยวเสมอ ซึ่งจะสามารถสร้างเรื่องราวความประทับใจใหม่ ๆ ที่ทำให้นักท่องเที่ยวอยากที่จะบอกเล่าต่อไปอย่างไม่รู้จบ
ครองใจนักท่องเที่ยวต่อเนื่อง
จากความพยายามในการปล่อยแคมเปญอย่างต่อเนื่อง และปรับตัวตามกระแสโลกเหล่านี้เอง ทำให้ในปี 2567 ประเทศไทยยังคงติดอันดับต้นๆ ของประเทศที่เป็นแหล่งท่องเที่ยวยอดนิยมระดับโลกในอันดับที่ 5 รองมาจาก ญี่ปุ่น สหรัฐอเมริกา ออสเตรเลีย และอิตาลี ซึ่งประเทศไทย ติดอันดับ Top 10 ในเกือบทุกภูมิภาคทั่วโลก
ขณะที่รายงาน Loyalty Index หรือดัชนีชี้วัดความภักดีของนักท่องเที่ยว ในปี 2567 ซึ่งแสดงให้เห็นถึงประเทศที่นักท่องเที่ยวอยากแนะนำผู้อื่น หรืออยากกลับไปเยือนอีกครั้งมากที่สุด ได้รายงานเช่นกันว่า ประเทศไทยมีดัชนีความภักดีอยู่ในระดับใกล้เคียงเดิมเมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า แต่อันดับของประเทศไทยปรับตัวขึ้นมาอยู่ในอันดับ 2 เนื่องจากระดับดัชนีของประเทศออสเตรเลียปรับตัวลงค่อนข้างแรงจากปีที่ผ่านมา แสดงให้เห็นถึงความประทับใจ และประสบการณ์ดีๆ ที่นักท่องเที่ยวได้รับ จนครองใจผู้คนมาอย่างยาวนาน
โดยประเทศที่นักท่องเที่ยวมาเยือนแล้วอยากแนะนำผู้อื่น หรืออยากกลับไปอีกทั้ง 4 อันดับแรก ได้แก่
- ญี่ปุ่น
- ไทย และ ออสเตรเลีย
- เกาหลีใต้
- สิงคโปร์
ในยุคนี้ต้อง Sustainable
อย่างไรก็ตาม ปัจจุบันนี้เทรนด์การท่องเที่ยวเริ่มเปลี่ยนแปลงไป กระแสของการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืนกำลังมาแรง ตามเทรนด์ของการหันมาใส่ใจสิ่งแวดล้อมที่เกิดขึ้นทั่วโลก
ในหมู่นักท่องเที่ยวเอง การตระหนักรู้แนวคิดเรื่องความยั่งยืนและความเข้าใจในความหมายมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นอย่างชัดเจน ซึ่งนับเป็น 1 ใน 3 ของนักท่องเที่ยว นอกจากนี้ แนวคิดเรื่องความยั่งยืน การปฏิบัติตามนโยบายด้านสิ่งแวดล้อมอย่างจริงจัง รวมถึงการใช้แนวคิดการท่องเที่ยวแบบรักษ์โลก ในทุกมิติการท่องเที่ยว ไม่ว่าจะเป็น สถานที่ยอดฮิต โรงแรม ไปจนถึงชุมชน ก็มีส่วนอย่างมากในการตัดสินใจเลือกจุดหมายปลายทางของเหล่านักเดินทาง ซึ่งสูงถึง 64% เลยทีเดียว
จากเทรนด์เหล่านี้เอง ที่ทำให้ Amazing Thailand โดย ททท. เกิดการปรับตัวครั้งสำคัญ เพื่อมาตอบรับกับกระแสความยั่งยืน ด้วยการจัดทำตราสัญลักษณ์ Amazing Thailand สีเขียวขึ้น ให้เป็นตัวแทนของภาพลักษณ์การส่งเสริมการท่องเที่ยวยั่งยืนอย่างเป็นรูปธรรม สื่อสารตรงไปถึงนักท่องเที่ยว โดยจะใช้ในโอกาสที่ต้องการนำเสนอ สินค้า บริการ แหล่งท่องเที่ยว ตลอดจนโครงการที่มีวัตถุประสงค์เพื่อพัฒนาและสร้างให้เกิดภาพของการท่องเที่ยวยั่งยืนที่ชัดเจน
ไม่ว่าจะกี่ยุคกี่สมัย การปรับตัวคือปัจจัยสำคัญในการอยู่รอด การที่ Amazing Thailand ยังอยู่ได้อย่างยาวนาน และนั่งอยู่ในใจของนักท่องเที่ยว คือหนึ่งสิ่งที่พิสูจน์ศักยภาพและความเชื่อมั่นของนักท่องเที่ยวที่มีต่อประเทศไทย และ ททท. ได้เป็นอย่างดี
(ที่มา: โครงการประเมินผลและวิจัยอัตราการรับรู้ภาพลักษณ์ประเทศไทย ประจำปี 2567 ของ ททท. จากกลุ่มตัวอย่างจำนวน 6,800 คน)
ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา