นักวิจัยเตือน ปี 2045 งานส่วนใหญ่ของมนุษย์อาจถูก ‘หุ่นยนต์-AI’ แทนที่ โลกต้องเตรียมตัวอย่างเร่งด่วน

เชื่อหรือไม่ หุ่นยนต์ และ AI จะเข้ามาครอบงำเศรษฐกิจโลกภายในหนึ่งชั่วอายุคน และทำให้มนุษย์แทบทั้งเผ่าพันธุ์ต้อง ‘ตกงาน’

‘อดัม ดอร์’ ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัยจากหน่วยงานคิดเชิงกลยุทธ์ RethinkX ให้สัมภาษณ์กับ The Guardian ว่าภายในปี 2045 หุ่นยนต์ และ AI อาจทำให้งานส่วนใหญ่ของมนุษย์ไร้ความจำเป็น และมนุษยชาติมีเวลาเตรียมตัวไม่มากแล้ว

‘ดอร์’ เชื่อว่าโลกกำลังก้าวเข้าสู่ยุคที่เครื่องจักรสามารถทำงานได้แทบทุกอย่าง แถมยังเร็วกว่า ถูกกว่า และดีกว่ามนุษย์

เขาเปรียบเทียบว่า มนุษย์จะกลายเป็น ‘ม้า’ หลังจากที่ ‘รถยนต์’ ถือกำเนิด หรือ ‘กล้องฟิล์ม’ เมื่อโลกเปลี่ยนเป็น ‘ดิจิทัล’

เขายังอ้างถึงข้อมูลจากการศึกษาการเปลี่ยนแปลงทางเทคโนโลยีครั้งใหญ่กว่า 1,500 ครั้งที่ผ่านมา โดยพบว่า เมื่อเทคโนโลยีใหม่เข้ามาครองตลาดแม้เพียง ไม่กี่เปอร์เซ็นต์ ก็มักจะครองตลาดทั้งหมดภายใน 15–20 ปี

‘ดอร์’ ไม่ได้บอกว่างานทุกอย่างจะหายไปหมด เขาระบุว่ายังมีบางอาชีพที่อาจรอด โดยเฉพาะงานที่อาศัยความเชื่อใจ ความสัมพันธ์ และความซับซ้อนทางจริยธรรม ซึ่งเขายกตัวอย่างว่าอาชีพเหล่านี้จะได้ไปต่อ ได้แก่:

  • ผู้ให้บริการทางเพศ
  • โค้ชกีฬา
  • นักการเมือง
  • นักจริยธรรม

แต่ปัญหาคือ อาชีพเหล่านี้มีน้อยเกินไปที่จะรองรับคน 4 พันล้านคนได้

‘หายนะ’ หรือ ‘โอกาส’ ครั้งใหญ่

‘ดอร์’ เตือนว่า ความเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่นี้ อาจนำไปสู่สองเส้นทาง:

  1. ความเหลื่อมล้ำขั้นรุนแรง หากยังยึดติดกับระบบเศรษฐกิจแบบเดิม
  2. ยุคแห่งความอุดมสมบูรณ์ ที่เทคโนโลยีดูแลความเป็นอยู่ของมนุษย์ได้ทั้งหมด แต่ต้องมีการนิยามงาน ความคุ้มค่า และความเป็นเจ้าของใหม่

เขาเรียกร้องให้สังคมทดลองแนวทางใหม่อย่างกล้าหาญ เพราะนี่อาจเป็นทั้ง วิกฤตใหญ่ที่สุด หรือโอกาสทองที่สุด ของมนุษยชาติในศตวรรษนี้

ข้อถกเถียงเรื่องผลกระทบของ AI ต่อแรงงาน

มุมมองของ ‘ดอร์’ เป็นไปในทางเดียวกันกับนักวิชาการ และผู้เชี่ยวชาญจำนวนมาก ที่เริ่มกังวลถึงพลังทำลายล้างของ AI ต่อระบบแรงงาน

  • ‘เจฟฟรีย์ ฮินตัน’ หรือ ‘บิดาแห่ง AI’ เตือนว่างานคอลเซ็นเตอร์ และผู้ช่วยทนายความเป็นกลุ่มที่มีความเสี่ยงสูงสุด ขณะที่งานช่าง หรืองานที่ใช้แรงงานจริงยังปลอดภัยอยู่ (อย่างน้อยก็ในตอนนี้)
  • ‘ดาริโอ อาโมเดอี’ ซีอีโอของ Anthropic คาดว่างานออฟฟิศระดับเริ่มต้นครึ่งหนึ่ง ไม่ว่าจะเป็นสายเทคโนโลยี กฎหมาย หรือการเงิน อาจหายไปภายในเวลา 5 ปี
  • ‘เดวิด ออเตอร์’ นักเศรษฐศาสตร์จาก MIT เตือนว่า โลกอาจเข้าสู่ภาวะที่คนจะยังมีงานทำ แต่ทักษะของพวกเขาอาจไร้ค่าทางเศรษฐกิจ

อย่างไรก็ตาม ไม่ใช่ทุกคนที่เห็นด้วยกับมุมมองนี้

  • ‘เจนเซ่น หวง’ บอสใหญ่แห่ง NVIDIA และ ‘แยน เลอคุน’ จาก Meta มองว่า AI จะเปลี่ยนรูปแบบของงาน มากกว่าจะทำให้หายไปทั้งหมด
  • ‘แซม อัลท์แมน’ จาก OpenAI ยอมรับว่า AI จะทำให้หลายตำแหน่งต้องสูญหาย แต่ก็เชื่อว่า งานใหม่จะเกิดขึ้นตามมา แม้บางงานอาจจะดูไร้สาระ เมื่อเทียบกับงานแบบเดิมก็ตาม
  • ‘ยอด ชินสุภัคกุล’ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร LINE MAN Wongnai เชื่อว่าอุตสาหกรรมที่ต้องอาศัยความเป็นมนุษย์ เช่น งานบริการ ยังไม่สามารถนำ AI มาแทนที่ได้ แม้จะเชื่อในพลังของ AI มากก็ตาม

อ่านบทความอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง:

ที่มา: The Guardian, Business Insider, Blognone

ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา