ถ้าตามข่าววงการร้านอาหารในไทยปีนี้ รวมถึงอ่านบทสัมภาษณ์ของคนทำร้านอาหาร ก็จะพบว่า ปีนี้หนักจริง อาการไม่ค่อยดีนัก
ไล่เรียงมาตั้งแต่ เชฟร้านดังที่บอกว่า ปีนี้เงียบจนน่าตกใจ ส่วนด้านของสมาคมผู้ประกอบการร้านอาหาร ก็บอกเลยว่าปีนี้ร้านไหนที่บอกว่า ‘ขายดีๆ’ ปีนี้เหลือแค่ พอขายได้ หรืออย่างซีอีโอ LINE MAN Wongnai ที่บอกว่า ปี 2025 ร้านอาหารเปิดใหม่อาจจะน้อยลงกว่าปีก่อน เพราะการแข่งขันดุเดือดขึ้น รวมไปถึงคนที่อยู่ในอุตสาหกรรมอาหาร ก็บอกว่า อุปสรรคที่คนทำร้านอาหารต้องเจอในปีนี้ นอกจากเรื่องต้นทุนและการแข่งขัน อีกปัจจัยคือ ทุนจีนก็บุกไทยหนักด้วย เรียกได้ว่า เป็นปีที่มีความท้าทายหลายด้าน
ส่วนตัวเลขของศูนย์วิจัยกสิกรไทย บอกว่า การเติบโตของ ‘ธุรกิจร้านอาหารและเครื่องดื่ม’ ที่แม้จะมีมูลค่าตลาดรวมอยู่หลายแสนล้าน (ประมาณ 646,000 ล้านบาท) แต่ปรับลดคาดการณ์ลงจาก 4.6% เหลือเพียง 2.8% เท่านั้น
แต่ล่าสุด TikTok จัดงานเสวนา Roundtable โดยเชิญเชฟ นักรีวิว และเจ้าของร้านอาหาร และปรับตัวมาอยู่บน TikTok เล่าประสบการณ์และแชร์ความรู้ว่า อาหารไทย ยังไปต่อได้ แม้ในสภาวะเศรษฐกิจและความท้าทายรอบด้านแบบนี้ เพราะมีการสร้าง Food Community จนเกิดเป็น Food Economy ได้
คอนเทนท์อาหารไทย สามารถ ไวรัลไปทั่วโลก
TikTok ประเทศไทยให้ข้อมูลว่า คอนเทนต์อาหารไทยได้กลายเป็นแพลตฟอร์มอันทรงพลังในการสร้างกระแสและการรับรู้ในวงกว้าง หัวใจสำคัญของปรากฏการณ์นี้คือ “แฮชแท็ก” เครื่องมือที่ดูเรียบง่ายแต่กลับมีพลังในการขับเคลื่อนคอนเทนต์ให้เกิดเป็นไวรัลได้อย่างมหาศาล
ปรากฏการณ์นี้เห็นได้อย่างชัดเจนในโลกของคอนเทนต์ “อาหารไทย” บน TikTok ไม่ว่าจะเป็นแฮชแท็กพื้นฐานอย่าง #ThaiFood หรือ #อร่อยบอกต่อ บน TikTok ได้กลายเป็นแฮชแท็กยอดนิยมสำหรับการรีวิวและป้ายยาความอร่อย
สิ่งที่ทำให้คอนเทนต์อาหารไทยเติบโตอย่างก้าวกระโดดคือบทบาทของครีเอเตอร์ในการใช้แฮชแท็กภาษาไทยที่เข้าถึงง่ายและสร้างการมีส่วนร่วมได้อย่างทรงพลัง
อย่างไรก็ตาม จากข้อมูลพบว่า อาหารไทยได้รับการจัดอันดับให้เป็นอาหารที่ดีที่สุดอันดับที่ 28 ของโลกประจำปี 2567 จาก TasteAtlas แสดงให้เห็นถึงศักยภาพและความโดดเด่นของอุตสาหกรรมอาหารไทยที่สามารถดึงดูดนักท่องเที่ยว ยกระดับเศรษฐกิจของประเทศ และบทบาทสำคัญของเหล่าครีเอเตอร์ในการนำเสนอภาพลักษณ์ของอาหารไทยสู่สายตาชาวโลก
ด้านของนักรีวิว คุณอโนชา ตันประเสริฐ หรือ อาย จากช่อง อายนอนตีพุง (@nontpuung) ฟู้ดครีเอเตอร์ ที่บอกว่า “เทรนด์คอนเทนต์อาหารที่ได้รับความนิยมมากในตอนนี้คือการนำเสนอแบบเรียลๆ จริงใจไม่ต้องปรุงแต่ง เป็นกันเอง ความเป็นธรรมชาติและความสนุกสนานทำให้คนดูอินและอยากตามรอย”
“TikTok เป็นแพลตฟอร์มที่เปิดโอกาสให้ครีเอเตอร์ได้แสดงความเป็นตัวเองอย่างเต็มที่ บวกกับการที่เรานำเสนอคอนเทนต์ที่จริงใจ ทำให้คนดูอยากมาสัมผัสประสบการณ์จริง เป็นแรงผลักดันที่ช่วยเศรษฐกิจร้านอาหารและชุมชนเติบโตไปด้วยกัน เราไม่ได้ขายของตรงๆ แต่สร้าง ‘คุณค่า’ ผ่านการแบ่งปันเรื่องราวความอร่อย”
เครื่องมือที่ใช้ก็อย่างเช่น TikTok Creative Insights ช่วยให้เราเข้าใจว่าคอนเทนต์แบบไหนที่ได้รับความนิยม และมีส่วนร่วมจากผู้ชมมากที่สุด หรือเทรนด์ไหนที่กำลังมาแรงบน TikTok เพื่อสร้างสรรค์ผลงานให้ตรงใจผู้ชมมากที่สุด
ไม่ใช่แค่ไวรัล แต่ทำเงินได้ด้วย
ตัดภาพมาที่ เชฟอิน – คุณณรงค์ฤทธิ์ แซ่ขอ เชฟอาหารใต้รสมือจังหวัดระนอง และเจ้าของร้าน “ครัวบ้านอิน” จากช่องกำลังอิน (ins_kamlangin) บอกว่า “ช่วงที่โควิดระบาดหนักได้กระทบถึงธุรกิจที่ผมทำอยู่ แพลตฟอร์ม TikTok กลายเป็นโอกาสใหม่ที่ทำให้คนเริ่มต้นรู้จักผมในฐานะเชฟ และต่อมาผมได้มีโอกาสเปิดร้านอาหาร ‘ครัวบ้านอิน’ อาหารใต้สไตล์ระนองที่ใช้วัตถุดิบท้องถิ่น”
เป็นทั้งเชฟ เป็นทั้งครีเอเตอร์ เชฟอินบอกว่า เขาใช้ TikTok Creative Center เพื่อดูข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับเทรนด์ใหม่ๆ แนวคิดการทำคอนเทนต์ TikTok Analytics ที่ช่วยให้เราเข้าใจพฤติกรรมผู้ชม ดูว่าคอนเทนต์แบบไหนที่คนชอบที่สุด และใช้ TikTok Seller Center ช่วยจัดการร้านค้าออนไลน์ สต็อกสินค้า สร้างแคมเปญการตลาด เพื่อช่วยให้ธุรกิจเติบโต
เมื่อ Brand Inside ถามถึงสภาวะเศรษฐกิจช่วงนี้ที่กระทบไปถึงร้านอาหาร เชฟอินบอกว่า “ในช่วงเศรษฐกิจที่ท้าทาย ผมมองว่าลูกค้ามอง ‘ความคุ้มค่า’ ที่ไม่ใช่แค่ปริมาณอาหาร แต่เป็นประสบการณ์ที่มีความหมาย ไม่ว่าจะเป็นการมีส่วนร่วมกับลูกค้า ความใกล้ชิด ความเป็นกันเอง การที่ลูกค้าได้รู้สึกเป็นคนพิเศษ การได้สนับสนุนชุมชนประมงท้องถิ่น ทำให้เกิดการบอกต่อที่เป็น organic ผ่านเรื่องเล่าของลูกค้า ลูกค้าเลยกลายเป็น influencer ของผมแบบไม่รู้ตัว และสร้างอิมแพคให้กับธุรกิจอย่างมาก”
และถามว่า ร้านอาหารของเชฟอินได้รับผลกระทบหรือไม่? เชฟ บอกว่า “ก็ต้องปรับตัว ผมใช้วิธีการทำคอนเทนต์เพื่อดึงให้คนเห็น จากนั้นก็จองเข้ามาทานอาหารที่ร้าน มันเป็นวงจรที่ส่งเสริมกัน แต่ถามว่าปรับตัวไหม ก็มีการปรับไปถึงเวลาในเปิดปิดร้าน ไปจนถึงเมนู เพื่อทำให้สอดคล้องกับลูกค้าที่เข้ามาใช้บริการ ผมว่าคนทำธุรกิจร้านอาหารอยู่ได้ แต่ต้องปรับตัวเสมอ”
ส่วนอีกหนึ่งท่าน คุณธนัช อมาตยกุล กรรมการผู้จัดการแบรนด์ Uncle Boss Sausage แบรนด์ไส้กรอกเยอรมันโฮมเมดระดับพรีเมียม (@unclebosssausage) บอกว่า “TikTok Shop เป็นเหมือนประตูที่เปิดโอกาสให้ธุรกิจเล็กๆ ของเราเป็นที่รู้จักทั่วประเทศ รวมถึงลูกค้าจากต่างประเทศที่มาเที่ยวเมืองไทย”
คลิปวิดีโอที่เราทำใน TikTok ทำให้ชาวไทยและชาวต่างชาติที่เห็นคอนเทนต์แล้วอยากซื้อทันที ยอดขายของเราเติบโตขึ้นกว่า 50% ภายในปีแรกที่เข้าร่วม TikTok Shop
“สิ่งที่ประทับใจคือนักท่องเที่ยวจากหลายประเทศบอกว่าเจอร้านเราจาก TikTok พอมาถึงไทยแล้วก็มาซื้อที่จุดขายในห้างสรรพสินค้าต่างๆ ทั่วกรุงเทพฯ แล้วนำไปเป็นของฝากจากประเทศไทย ทำให้ผลิตภัณฑ์ไส้กรอกเยอรมันโฮมเมดของเรากลายเป็นไอเท็มของฝากที่ไม่เหมือนใคร เราไม่ใส่สารไนเตรท ไนไตรท์ และสารกันบูด ซึ่งสร้างความต่างให้กับผลิตภัณฑ์เรา”
“เราใช้โซลูชั่น LIVE, TikTok Affiliate, TikTok Ads Manager, TikTok Shop Mall ในการทำการตลาดและสร้างแบรนด์ ช่วยให้เราเข้าถึงกลุ่มเป้าหมาย สร้างแคมเปญที่ตอบโจทย์ลูกค้า และ TikTok Seller Center ที่ช่วยจัดการคำสั่งซื้อ และสต็อกสินค้าที่มีประสิทธิภาพ โดยวิเคราะห์ข้อมูลเชิงลึกของลูกค้าผ่าน TikTok Analytics”
“วันนี้เราได้เพิ่มพนักงานจาก 5 คน เป็น 12 คน ขยายการผลิตเพื่อรองรับความต้องการที่เพิ่มขึ้น และขยายไปตลาดต่างประเทศภายในปีนี้ ซึ่งแสดงให้เห็นว่า TikTok และ TikTok Shop เป็นส่วนหนึ่งในการสร้างงาน สร้างรายได้ให้กับคนในชุมชน และจะยังคงเป็นพันธมิตรสำคัญในการพาธุรกิจไทยไปสู่เวทีโลก ช่วยให้ผู้ประกอบการรายเล็กมีโอกาสเติบโตอย่างยั่งยืน”
พลังครีเอเตอร์ สู่การผลักดัน Food Economy
ความนิยมของอาหารไทยบน TikTok ได้ส่งผลโดยตรงต่อการตัดสินใจเดินทางมาท่องเที่ยวไทยของนักท่องเที่ยวทั้งในและต่างประเทศจำนวนมาก นักท่องเที่ยวหลายคนวางแผนการเดินทางโดยมีเป้าหมายหลักคือการมาลิ้มลองอาหารไทยต้นตำรับ ไม่ว่าจะเป็นการตามรอยร้านอาหารที่เห็นใน TikTok การเข้าร่วมทัวร์ชิมอาหาร หรือการเรียนทำอาหารไทย ‘ประสบการณ์ด้านอาหาร’ จึงกลายเป็นปัจจัยสำคัญที่นักท่องเที่ยวให้ความสำคัญเมื่อวางแผนการเดินทางท่องเที่ยวไทย
การท่องเที่ยวเชิงอาหารที่ขับเคลื่อนโดย TikTok นี้สร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจแบบ 360 องศา ครอบคลุมตั้งแต่รายได้ของร้านอาหาร โรงแรม การขนส่ง ไปจนถึงผู้ประกอบการรายย่อยในชุมชน ขณะเดียวกันก็เปิดโอกาสให้ผู้ประกอบการรายเล็กได้เข้าถึงตลาดโลก ทำให้นักท่องเที่ยวได้สัมผัสประสบการณ์ที่ดีกับอาหารไทย และสร้างความประทับใจ นำไปสู่การบอกต่อแบบออร์แกนิก ซึ่งเป็นการโปรโมทที่มีประสิทธิภาพและน่าเชื่อถือที่สุด และเป็นการตอกย้ำถึงศักยภาพของอาหารไทยซึ่งเป็นหนึ่งใน soft power ที่ดึงดูดนักท่องเที่ยวคุณภาพและกระตุ้นเศรษฐกิจของประเทศให้เติบโตอย่างยั่งยืน
คุณณธน โชติหิรัญรัตน์ (ป้อ), TikTok Expert 2025 และเป็นกรรมการผู้จัดการ แบรนด์ #ร้านของคริต โดย ชาคริต แย้มนาม จำหน่ายอาหารนำเข้า อาหารพรีเมียม ส่งตรงถึงบ้าน (@kritshop.shahkrit) พูดถึงบทบาทของ TikTok ในการสร้างธุรกิจอาหารยุคใหม่ว่า “ผมเชื่อว่าแก่นแท้ของคอนเทนต์บน TikTok ไม่ใช่การขายของ แต่คือ ‘การให้’ ให้ความรู้ ให้ความสนุก และให้แรงบันดาลใจ เพราะสิ่งเหล่านี้ต่างหากที่เปลี่ยน ‘คนดู’ ให้กลายเป็น ‘ลูกค้าที่ภักดี’ นี่คือแนวคิดที่ผมนำมาใช้จริงในธุรกิจ และใช้เป็นหลักในการแนะนำผู้ประกอบการไทยมาตลอด”
“เรากำลังอยู่ในยุคที่ ‘คอนเทนต์สร้างคอมเมิร์ซ และคอมมูนิตี้’ และ TikTok Shop ก็คือสนามที่เปิดกว้างที่สุด ลูกค้าบน TikTok ไม่ได้เข้ามาเพื่อช้อป แต่เข้ามาเพราะอยากสนุก อยากรู้ และอยากรู้สึกว่าเขาเป็นส่วนหนึ่งของเรื่องราว เมื่อเราสื่อสารด้วยความจริงใจ ผ่านเบื้องหลังการทำอาหาร ผ่านชีวิตของเจ้าของแบรนด์ การซื้อขายจึงเกิดขึ้นโดยธรรมชาติ ไม่ถูกยัดเยียด และนั่นแหละคือ ‘พลังของ Content-Commerce’ ที่ทำให้ลูกค้าซื้อซ้ำ และผูกพันกับแบรนด์ในระยะยาว”
“สิ่งที่ภูมิใจที่สุดคือการได้เห็นผู้ประกอบการไทยที่ไม่เคยรู้จัก TikTok กลายเป็นผู้ขายชั้นแนวหน้า และสร้างงานให้คนในชุมชน TikTok ยังคงเป็นแพลตฟอร์มที่ไม่เพียงแต่เปลี่ยนชีวิตผู้ประกอบการ แต่ยังมีส่วนขับเคลื่อนเศรษฐกิจฐานรากของไทยให้แข็งแกร่งขึ้น”
“ผมภูมิใจที่ได้เป็น TikTok Expert 2025 เพราะนั่นหมายถึง ผมได้มีโอกาสใช้ทั้งความรู้และประสบการณ์ มาช่วยผู้ประกอบการไทยให้โตอย่างยั่งยืนบนแพลตฟอร์มนี้ TikTok ไม่ใช่แค่ช่องทางขายของ แต่มันคือ ‘เวทีเปิดโอกาส’ ให้กับคนที่มีไอเดีย มีของดี ได้เข้าถึงลูกค้าทั่วประเทศ และมันกำลังเปลี่ยนภาพเศรษฐกิจฐานรากของไทย จากหน้าร้านเล็กๆ สู่ร้านค้าระดับชาติในมือของทุกคน”
ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา