การที่นักท่องเที่ยวจะตัดสินใจไปที่ใดที่หนึ่ง แน่นอนว่ามีหลายปัจจัยประกอบ แต่สิ่งหนึ่งที่สำคัญนั่นก็คือความสามารถในการรองรับความต้องการของผู้เดินทาง
นักท่องเที่ยวชาวมุสลิมกำลังเติบโตขึ้นเรื่อยๆ จากรายงาน ดัชนีการท่องเที่ยวของชาวมุสลิมทั่วโลกประจำปี 2025 หรือ GMTI 2025 บอกว่า ในปี 2024 นักท่องเที่ยวชาวมุสลิมมีจำนวนถึง 176 ล้านคน หรือเพิ่มขึ้น 25% จากปี 2023
ซึ่งจำนวนที่เติบโตนี้เอง หมายความว่าการท่องเที่ยวในประเทศต่างๆ ควรมีสิ่งอำนวยความสะดวกที่สามารถรองรับความต้องการของนักท่องเที่ยวกลุ่มนี้ได้ ไม่ว่าจะเป็นร้านอาหาร โรงแรม หรือกิจกรรมต่างๆ ที่สอดคล้องไปกับหลักศาสนา
รองรับการท่องเที่ยวแบบฮาลาล
แหล่งท่องเที่ยวที่พร้อมรองรับและให้บริการโดยไม่ขัดหลักศาสนา เป็นสิ่งที่นักท่องเที่ยวกลุ่มนี้ให้ความสำคัญ
สิ่งที่ช่วยได้คือแอปพลิเคชั่นเพื่อการเดินทางแบบฮาลาล เพื่อช่วยระบุสถานที่และบริการที่สอดคล้องกับหลักศาสนา ตั้งแต่โรงแรมถึงร้านอาหาร ซึ่งช่วยให้ชาวมุสลิมสามารถเลือกเข้ารับบริการได้
หรือสิ่งอำนวยความสะดวกที่เป็นมิตรต่อนักท่องเที่ยวมุสลิม เช่น ร้านอาหารที่ได้รับการรับรองฮาลาล สถานที่สำหรับการทำละหมาด รวมไปถึงสระว่ายน้ำและสปาที่แยกชาย-หญิง ก็กำลังกลายมาเป็นสิ่งจำเป็น
นอกจากนี้นักท่องเที่ยวมุสลิมจำนวนมากยังมองหาการพักผ่อนแบบ Digital Detox หลีกหนีจากเทคโนโลยีและความวุ่นวาย เน้นความใกล้ชิดกับธรรมชาติมากขึ้น
รวมไปถึงความต้องการด้านพื้นที่ที่ปลอดภัยและได้รับการออกแบบอย่างใส่ใจของนักท่องเที่ยวหญิงมุสลิมที่เป็นกำลังสำคัญของการท่องเที่ยวแบบฮาลาลอีกด้วย
ไทยติด Top 5 ประเทศที่ไม่ใช่มุสลิม ที่ชาวมุสลิมอยากมาเยือน
รายงานของ GMTI 2025 ยังได้รวบรวมจุดหมายปลายทางทั่วโลกที่ได้รับความนิยมในหมู่นักท่องเที่ยวชาวมุสลิม โดยได้แบ่งเป็น ประเทศกลุ่ม OIC (ประเทศมุสลิม) และ กลุ่ม Non-OIC (ประเทศที่ไม่ใช่มุสลิม)
ในกลุ่มประเทศมุสลิม พบว่า มาเลเซีย ครองอันดับ 1 ประเทศจุดหมายปลายทางยอดฮิต ด้วยบริการและโครงสร้างพื้นฐานที่เข้าถึงได้ง่ายอีกทั้งยังเป็นมิตรต่อนักท่องเที่ยวมุสลิม จึงไม่แปลกที่ประเทศมาเลเซียจะครองแชมป์
ขณะที่ ตุรกี ซาอุดิอาระเบีย และสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ มีจุดเด่นที่การผสมผสานวัฒนธรรมและสิ่งอำนวยความสะดวกที่ทันสมัยเข้าด้วยกันได้อย่างลงตัว รวมถึงมีความพยายามอย่างต่อเนื่องในการพัฒนาการท่องเที่ยวสำหรับชาวมุสลิม
5 อันดับ จุดหมายปลายทางยอดฮิตในกลุ่มประเทศมุสลิม ได้แก่
- มาเลเซีย
- ตุรกี
- ซาอุดิอาระเบีย
- สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์
- อินโดนีเซีย
ขณะที่ประเทศที่ไม่ใช่มุสลิม พบว่า สิงคโปร์ นำโด่งมาเป็นอันดับแรก โดยได้รับการยอมรับด้านความใส่ใจในความหลากหลาย เปิดรับ และเข้าใจความแตกต่างด้านวัฒนธรรมเป็นอย่างดี
ฮ่องกงและไต้หวัน ครองอันดับต้นๆ เช่นเดียวกัน ด้วยสภาพแวดล้อมที่เป็นมิตร มีความหลากหลายด้านวัฒนธรรม นอกจากนี้ยังมีโรงแรมและร้านอาหาร จำนวนรวมกันมากกว่า 200 แห่ง ที่ได้รับการรับรองฮาลาล
ประเทศไทยเอง ก็ติด Top 5 ของประเทศ Non-OIC ที่ชาวมุสลิมอยากมาเยือนเช่นกัน ด้วยจำนวนของที่พัก ร้านอาหาร และบริการต่างๆ ที่ผ่านการรับรองฮาลาลมากขึ้น ทำให้ไทยกลายเป็นจุดหมายปลายทางในอาเซียนที่กำลังได้รับความสนใจมากขึ้นเรื่อยๆ ร่วมกับฟิลิปปินส์
5 อันดับ จุดหมายปลายทางยอดฮิตในกลุ่มประเทศที่ไม่ใช่มุสลิม ได้แก่
- สิงคโปร์
- สหราชอาณาจักร
- ฮ่องกง
- ไต้หวัน
- ไทย
ด้วยจำนวนของนักท่องเที่ยวมุสลิมทั่วโลกที่กำลังเพิ่มขึ้น ตลาดการท่องเที่ยวสำหรับนักท่องเที่ยวกลุ่มนี้กำลังเติบโตอย่างรวดเร็ว แน่นอนว่าความต้องการใช้จ่ายและการมองหาสถานที่ใหม่ๆ ย่อมเพิ่มขึ้นตามไปด้วย
ดังนั้นการเข้าใจความแตกต่างด้านวัฒนธรรมและสามารถรองรับครอบคลุมทุกความหลากหลาย จะเป็นอีกปัจจัยสำคัญที่จะสามารถดึงดูดนักท่องเที่ยวกลุ่มนี้ให้หันมาสนใจได้
ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา