ทรัมป์ ขู่ขึ้นภาษี Apple อย่างน้อย 25% หลังขยายซัพพลายเชนในอินเดีย มูลค่า 4.89 หมื่นล้านบาท

‘Apple’ กำลังขยายซัพพลายเชนใน ‘อินเดีย’ ด้วยการลงทุนเงินกว่า 1.5 พันล้านดอลลาร์ฯ หรือประมาณ 4.89 หมื่นล้านบาท ผ่าน ‘Yuzhan Technology India’ บริษัทลูกของ ‘Foxconn’ พาร์ทเนอร์ด้านการผลิตที่ร่วมงานกันมานาน โดยจะสร้างโรงงานประกอบชิ้นส่วนหน้าจอแห่งใหม่ ใกล้เมืองเจนไน ในรัฐทมิฬนาฑู ทางตอนใต้ของอินเดีย

โรงงานใหม่นี้จะตั้งอยู่ติดกับโรงงาน iPhone เดิมของ Foxconn และจะผลิตชิ้นส่วนสำคัญที่อยู่ใต้กระจกหน้าจอ iPhone ซึ่งเป็นชิ้นที่ทำให้ผู้ใช้สัมผัสหน้าจอได้ รวมถึงควบคุมความสว่างและสีต่างๆ

การขยายฐานการผลิตไปที่อินเดียในครั้งนี้ เป็นสัญญาณว่า Apple ยังคงเดินหน้าลดการพึ่งพาจีนอย่างต่อเนื่อง ซึ่งจริงๆ ก็เริ่มมาก่อนช่วงโควิด-19 แล้ว และยิ่งชัดเจนขึ้น หลังเกิดปัญหาในซัพพลายเชน และความตึงเครียดระหว่างประเทศที่เพิ่มมากขึ้น

แต่การเคลื่อนไหวนี้ก็ไม่ได้ราบรื่นนัก เพราะ ‘โดนัลด์ ทรัมป์’ ประธานาธิบดีสหรัฐ โพสต์บน Truth Social แจ้ง Tim Cook ซีอีโอ Apple ว่า ตนคาดหวังให้ iPhone ที่ขายในสหรัฐฯ ต้องผลิตและประกอบในสหรัฐฯ ไม่ใช่ในอินเดียหรือประเทศอื่น ๆ ถ้า Apple ไม่ทำตาม จะต้องจ่ายภาษีศุลกากรอย่างน้อย 25% ให้กับรัฐบาลสหรัฐฯ

ก่อนหน้านี้ ทรัมป์เคยออกมาวิจารณ์อย่างตรงไปตรงมา เรียกร้องให้ Apple กลับไปตั้งโรงงานที่สหรัฐฯ แล้วรอบหนึ่ง แต่ Apple ยังเดินหน้าตั้งโรงงานใหม่นี้ ซึ่งน่าจะสร้างงานได้ถึงประมาณ 14,000 ตำแหน่ง และถือเป็นหนึ่งในการลงทุนครั้งใหญ่สุดของอินเดียในอุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์

นอกจากนี้ ยังได้รับแรงหนุนจากนโยบายกระตุ้นการผลิตของรัฐบาลอินเดียภายใต้โครงการ ‘Make in India’ ซึ่งช่วยดึงดูดการลงทุนจากบริษัทระดับโลกอยู่แล้ว ปัจจุบันอินเดียผลิต iPhone ได้ประมาณ 18% ของทั้งโลกในปี 2024 และตัวเลขนี้ก็คาดว่าจะพุ่งขึ้นเป็น 32% ในปี 2025

มีรายงานด้วยว่า Apple ตั้งเป้าผลิต iPhone ที่จะขายในสหรัฐฯ ทั้งหมด 60 ล้านเครื่องจากอินเดียภายในสิ้นปีหน้า ซึ่งก็ยิ่งชัดเลยว่า อินเดียกำลังกลายเป็นจุดยุทธศาสตร์สำคัญในการผลิตระดับโลกของ Apple แบบเต็มตัวแล้วตอนนี้

ที่มา: Financial Times, Truth Social

ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา