Mark Cuban ปิดฉาก 15 ปี Shark Tank ด้วยพอร์ตกว่า 250 ล้านเหรียญ จากเงินลงทุน 33 ล้านเหรียญ

หลังจาก 15 ฤดูกาลที่ Mark Cuban มหาเศรษฐีผู้มากประสบการณ์ในโลกธุรกิจ และการลงทุน ทำหน้าที่เป็นหนึ่งในนักลงทุนหลัก หรือ Shark ในรายการเรียลลิตี้ธุรกิจชื่อดัง Shark Tank ล่าสุดเจ้าตัวได้ปิดฉากการร่วมรายการอย่างเป็นทางการ พร้อมกับผลตอบแทนจากการลงทุนที่สะท้อนถึงความสามารถในการวิเคราะห์ศักยภาพธุรกิจที่เหนือชั้น

จากการให้สัมภาษณ์กับ CNBC Make It เขาเปิดเผยว่าเขาลงทุนในรายการนี้เป็นจำนวนรวมทั้งสิ้นประมาณ 33 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ตลอดระยะเวลาที่ร่วมรายการ โดยได้รับผลตอบแทนจากการถอนเงินสด (Cash Return) แล้วราว 35 ล้านดอลลาร์ ขณะที่มูลค่าตลาด (Mark-to-Market Value) ของพอร์ตการลงทุนที่ยังถือครองอยู่ในปัจจุบันมีมูลค่าสูงอย่างน้อย 250 ล้านดอลลาร์

Mark Cuban

เบื้องหลังตัวเลข: ผลลัพธ์ที่มากกว่าเม็ดเงิน

แม้ว่าข้อมูลจากเว็บไซต์ Shark Tank Insights จะระบุว่า Mark Cuban ได้ประกาศลงทุนในรายการมากกว่า 200 ดีล รวมมูลค่าราว 61.9 ล้านดอลลาร์ แต่ความจริงที่หลายคนอาจไม่ทราบก็คือ ข้อตกลงเหล่านั้นไม่ได้จบลงด้วยการลงทุนจริงเสมอไป เนื่องจากหลังกล้องยังมีขั้นตอนการตรวจสอบ และเจรจาอีกหลายระดับ ซึ่งอาจทำให้ดีลบางรายการไม่บรรลุผลในท้ายที่สุด

สิ่งที่น่าสนใจยิ่งไปกว่านั้นคือ เป้าหมายของ Mark Cuban ไม่ได้จำกัดอยู่แค่การแสวงหาผลตอบแทนทางการเงินเท่านั้น เขาเคยทวีตไว้เมื่อปี 2022 (ก่อนจะลบโพสต์ภายหลัง) ว่า

“ผมไม่ได้เข้าร่วมรายการเพื่อหาการลงทุนที่ดีที่สุดเสมอไป และบางครั้งผมก็ลงทุนเพียงเพื่อช่วยเหลือผู้ประกอบการ หรือส่งสารบางอย่างไปสู่สังคม”

Mark Cuban เป็นมังสวิรัติตั้งแต่ปี 2019 และแสดงออกถึงจุดยืนทางสังคมผ่านการลงทุนในธุรกิจโปรตีนจากพืช (Plant-based Food) หลายแบรนด์บนเวที Shark Tank ซึ่งนอกจากจะสะท้อนความเชื่อส่วนตัวแล้ว ยังช่วยสร้างความตระหนักด้านสิ่งแวดล้อมอีกด้วย

กลยุทธ์การลงทุนที่เน้น “ความทุ่มเท” มากกว่าโมเดลธุรกิจ

จากบทสัมภาษณ์กับ TV Tango ในปี 2011 Mark Cuban ได้เผยแนวคิดที่น่าสนใจว่า สิ่งที่เขามองหาในผู้ประกอบการไม่ใช่แค่แผนธุรกิจหรือยอดขายในอดีต แต่คือความมุ่งมั่นอย่างแท้จริง

“ผมหลงใหลในผู้ประกอบการที่ทุ่มเททุกสิ่งลงไปในธุรกิจ ทั้งหัวใจ จิตวิญญาณ เวลา และทรัพยากร ทุกสิ่งที่เขามี และเพียงต้องการความช่วยเหลือเล็กน้อยเพื่อก้าวต่อไป”

เขายังให้ความสำคัญกับความสามารถในการขาย (Salesmanship), ความเฉลียวฉลาด, และความกระตือรือร้นที่จะเรียนรู้ ในขณะที่เงินลงทุนจำนวนมากจะทำให้เขาเข้มงวดกับการประเมินความเสี่ยงมากยิ่งขึ้น

“ถ้าผมลงทุนแค่ 10,000 ดอลลาร์ ผลตอบแทนที่ได้รับจากความเสี่ยงก็ไม่มากเท่ากับการลงทุน 1 ล้านดอลลาร์” Mark Cuban กล่าว พร้อมอธิบายว่าทุกการตัดสินใจต้องอาศัยการชั่งน้ำหนักระหว่างความเสี่ยง และผลตอบแทนอย่างรอบคอบ

ความสำเร็จที่วัดได้จาก “มูลค่าตลาด”

คำว่า Mark-to-Market หรือการประเมินมูลค่าทรัพย์สินตามราคาตลาด เป็นกุญแจสำคัญที่ช่วยให้ Mark Cuban ประเมินผลตอบแทนจากการลงทุนได้แม้ยังไม่ได้ขายกิจการออกไปจริง ๆ โดยเฉพาะในดีลที่ยังเติบโตและยังไม่ถูกถอนเงินออก

แม้ก่อนหน้านี้ Mark Cuban จะเคยระบุว่าเขาขาดทุนสุทธิเฉพาะในมุมมองของเงินสด แต่เมื่อคำนึงถึงการประเมินมูลค่าทางบัญชีในปัจจุบัน ภาพรวมทางการเงินกลับกลายเป็นบวกอย่างชัดเจน นี่จึงเป็นเครื่องยืนยันว่ากลยุทธ์การลงทุนของเขา ไม่ได้วัดความสำเร็จเพียงในระยะสั้นเท่านั้น

มรดกที่ทิ้งไว้บนเวที Shark Tank

Mark Cuban ไม่ได้เป็นเพียงนักลงทุนที่ประสบความสำเร็จในเชิงตัวเลข แต่ยังมีอิทธิพลในการผลักดันให้รายการ Shark Tank กลายเป็นพื้นที่สำหรับการส่งต่อแรงบันดาลใจแก่ผู้ประกอบการรุ่นใหม่ทั่วโลก เขาใช้เวทีนี้ในการเปิดโอกาสให้กับผู้ประกอบการที่มีศักยภาพแต่ขาดทุนทรัพย์หรือความเชื่อมั่นจากระบบการเงินดั้งเดิม

ตลอดระยะเวลา 15 ปีที่ผ่านมา Mark Cuban ไม่เพียงแต่มีส่วนร่วมในรายการ แต่ยังนำพาโครงการหลายสิบรายเข้าสู่การขยายตัวระดับประเทศและระดับโลก หนึ่งในแบรนด์ที่เป็นที่รู้จัก เช่น Ten Thirty One Productions, Tower Paddle Boards และ BeatBox Beverages เป็นต้น

สะท้อนบทเรียนสู่แวดวงธุรกิจไทย

สำหรับนักลงทุนไทย หรือผู้ประกอบการรุ่นใหม่ Mark Cuban คือตัวอย่างของนักลงทุนที่มีวิสัยทัศน์และความเข้าใจในจิตวิญญาณของผู้ประกอบการอย่างแท้จริง การสร้างพอร์ตการลงทุนที่มั่นคงไม่จำเป็นต้องอาศัยแค่โมเดลธุรกิจที่สมบูรณ์แบบเท่านั้น แต่อาจต้องอาศัยคนที่พร้อมจะลงมือและไม่ยอมแพ้เช่นกัน

และแม้ว่าการลงทุนในกิจการรายย่อยจะดูมีความเสี่ยงสูง แต่ในหลายกรณีกลับเป็นช่องทางที่สร้างผลตอบแทนอย่างมหาศาล หากผู้ลงทุนสามารถมองเห็นศักยภาพของธุรกิจตั้งแต่ระยะแรกเริ่ม

Mark Cuban ปิดฉากบทบาทใน Shark Tank ด้วยพอร์ตการลงทุนที่สร้างมูลค่ามหาศาลอย่างยั่งยืน โดยสะท้อนทั้งแนวทางการลงทุนที่อิงมนุษย์เป็นศูนย์กลาง ความกล้าในการสนับสนุนผู้ประกอบการที่ยังไม่มีระบบสนับสนุน และการมองไกลไปยังมูลค่าตามตลาดมากกว่ากำไรระยะสั้น

นี่คือบทเรียนสำคัญของการลงทุนที่มากกว่าเงิน คือการเชื่อมั่นในผู้คน และมองเห็นอนาคตก่อนใคร

ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา