ในอุตสาหกรรมเกม VR ยังถือว่าเป็นน้องใหม่ สัดส่วนตลาดยังไม่ชัด HTC VIVE ส่ง VR มาลงในไทย แม้จะเน้นที่เกมเป็นหลัก แต่จะไม่เล่นแค่วงการเกม เพราะขยายไปทำงานร่วมกับองค์กรเอกชนต่างๆ ด้วย เช่น การผลิต 3 มิติ
VR ของ HTC VIVE ถึงไทยแล้ว ในราคา 30,599 บาท
“ถ้าไม่ได้ลองเล่น ก็ไม่รู้ว่า VR ทำอะไรได้บ้าง” เรย์มอนด์
เปา บอกว่า ที่จริงผลิตภัณฑ์ VR ของ HTC VIVE ถึงไทยมาตั้งแต่วันที่ 10 ตุลาคม ขายผ่านตัวแทนจำหน่ายคือ syntax แต่ด้วยช่วงเวลาที่ประเทศไทยอยู่ในพระราชพิธีเลยทำให้ผลิตภัณฑ์อยู่ในขั้นเริ่มต้น แต่หลังจากนี้เมื่อได้มาโชว์ในงานเกม เชื่อว่าเป็นช่องทางที่ดีที่ทำให้ผู้คนได้เข้ามามาทดลอง เพราะถ้าได้ลองก็จะรู้ว่า VR ทำงานอย่างไรและจะสนุกไปกับประสบการณ์ใหม่ๆ
VR ของ HTC VIVE มาในไทยเป็นประเทศที่ 2 ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ รองจากสิงคโปร์ เริ่มต้นด้วยราคา 30,599 บาท
ตลาดเกมใหญ่มาก แต่ VR ยังเข้าถึงได้ยาก
ต้องยอมรับว่า ตลาดเกมที่มีมูลค่าอย่างน้อยก็หลักหมื่นล้านบาท แต่ที่ทางของ VR ยังไม่มีในตลาดอย่างเป็นหลักเป็นแหล่งนัก ในขณะที่ HTC มองเห็นว่าตลาดเกมไปได้ไกลแน่นอน การส่ง VR มาครั้งนี้จึงเป็นการชิมลางตลาดในไทย เพราะในไต้หวันได้รับความนิยมมาก เชื่อว่าตลาดในภูมิภาคนี้จะดี เพราะอุตสาหกรรมเกมไปได้สวย ส่วนถ้าให้ประเมินตลาดในไทยบอกได้แค่เพียงว่า “มีศักยภาพ ไปไหว” แต่ไม่สามารถบอกความชัดเจนได้ เพราะเพิ่งเริ่มต้นขึ้นจริงๆ
ราคาคืออีกหนึ่งอุปสรรค จากนี้จะส่งเข้าร้านเกม ดัน VR ร่วมด้วย
ถ้าจะว่ากันตรงๆ ตัวราคาที่เริ่มต้นในหลักสามหมื่นบาทน่าจะเป็นอุปสรรคสำคัญ แต่ด้าน HTC VIVE ตอบแบบนี้ว่า “ให้ลองนึกผลิตภัณฑ์อย่าง iPhoneX ราคาอาจดูแพง แต่นวัตกรรมและการเชื่อมต่อกับฟีเจอร์ต่างๆ เป็นการทำงานที่หลากหลายคือจุดแข็ง VR ของเราก็เช่นกัน มีการเชื่อมต่อไปยังคอนเทนต์ต่างๆ มากมาย ในแง่นี้อาจเรียกได้ว่าคุ้มค่าและถูกด้วยซ้ำ”
โมเดลทางธุรกิจของ VIVE ในการทำตลาดในไทยจึงจะเป็นการนำเอา VR เข้าไปร้านเกม (ยังอยู่ในระหว่างการพูดคุย ต่อไปเล่นเกมในร้านเน็ตคาเฟ่ ก็จะไม่ได้มีแค่ PC แต่มี VR เข้ามาเป็นหนึ่งในตัวเลือกด้วย) หรือแหล่งเล่นเกมในห้างสรรพสินค้า เช่น VIVE LAND ที่อาจจะได้เห็นกันบ้างที่ The street รัชดา เป็นต้น
ไม่ใช่แค่เกม แต่จะลุยทุกธุรกิจที่เป็นไปได้ : การผลิต 3 มิติ และอื่นๆ
แน่นอน ถ้าบุกเฉพาะเกม VR ยังไม่มีที่ทางที่ชัดเจน HTC วางที่ทางของธุรกิจไว้แบบนี้คือ มีการนำเอา VR ไปใช้ในธุรกิจอื่นๆ ร่วมด้วยเพื่อเป็นการดีลกับองค์กรภาคธุรกิจ เช่น ธุรกิจการผลิต 3 มิติ VR จะเป็นตัวช่วยสำคัญ หรือกระทั่งการเทรนนิ่งต่างๆ ตัวอย่างบริษัทที่ได้ไปร่วม เช่น Dassault, Catia, Autodesk, Volkswagen, IKEA และอีกมากมาย นอกจากนั้น ยังมีแผนธุรกิจแบบให้เช่า-ยืม VR กับสถานศึกษาหรือองค์กรที่สนใจอีกด้วย แต่ถึงที่สุด การโฟกัสตัวโมเดลธุรกิจจะยังเป็นแบบขายให้กับลูกค้าโดยตรงมากกว่าองค์กร
ใครอยากลอง VR ของ HTC VIVE ไปลองได้ที่งาน Thailand Game Show BIG Festival 2017 จัดที่ รอยัล พารากอน ฮอลล์ ชั้น 5 สยามพารากอน
สรุป
VR ของ HTC VIVE ด้วยราคา 30,599 บาท ยังคงเป็นปัจจัยสำคัญในการตัดสินใจซื้อ การทดลองจึงเป็นปราการด่านแรกที่จะทำให้ลูกค้าได้สัมผัสประสบการณ์ โดย HTC ก็บอกว่าจะขยายออกไปให้มากกว่านี้ ทั้งการออกงาน การเชื่อมต่อกับภาคส่วนทางสังคมอื่นๆ เช่น ภาคเอกชน ภาคการศึกษา-มหาวิทยาลัย ฯ
อีกประเด็นคือ การนำเอา VR ไปเล่นเกมเป็นอีกประสบการณ์ที่น่าสนใจมาก แต่ต้องไม่ลืมว่าคู่แข่งในวงการเกมสาย VR ตอนนี้มีผู้แข็งแกร่งอย่าง SONY ที่มี PS4 พร้อม VR ที่มาในราคาไม่เกินสองหมื่น หรืออย่าง Facebook ที่มี VR คือ Oculus ที่สามารถเชื่อมต่อกับมือถือได้โดยตรง ทำงานได้ทั้งเล่นเกมหรือบันเทิงต่างๆ ในขณะที่ HTC VIVE ต้องเชื่อมต่อกับ PC (และแน่นอน ราคาแตะหลักสามหมื่น)
อย่างไรก็ตาม สิ่งที่น่าสนใจของ HTC คือได้รับการสนับสนุนจาก Google ที่ได้เข้าซื้อในหลายส่วนของธุรกิจ โดยเฉพาะ VIVE ที่เป็นหน่วยของบริษัทในการผลิต VR โดยตรง นั่นแปลว่า เรื่องเงินทุนคงไม่ใช่ปัญหา อยู่ที่ว่าจากนี้จะบุกตลาดอย่างไรต่อไป
ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา