อินโดนีเซีย เล็งสร้างแหล่งท่องเที่ยวใหม่อีก 10 แห่ง ดึงดูดนักท่องเที่ยวชาวจีน

จีนคือชาติมหาอำนาจอย่างแท้จริงในยุคปัจจุบัน นอกจากการรุกหนักของธุรกิจจีน อย่าง Alibaba หรือ Tencent แล้ว คนจีน ที่เป็นนักท่องเที่ยว ก็เดินทางกระจายออกไปทุกประเทศทั่วโลก ประเทศไทยเอง ปีนี้คาดว่าจะมีคนจีนเดินทางมาเที่ยวมากกว่า 8 ล้านคน และทำให้การท่องเที่ยวเป็นหนึ่งในธุรกิจสำคัญที่สร้างรายได้ให้กับประเทศ

ภาพจาก Pixabay.com

ดันอุตสาหกรรมท่องเที่ยว กระตุ้นเศรษฐกิจ

อินโดนีเซียเองก็เช่นเดียวกัน มีคนจีนเป็นกลุ่มนักท่องเที่ยวที่ใหญ่ที่สุด โดย 8 เดือนแรกมีคนจีนมาเที่ยว 1.4 ล้านคน (ยังห่างจากไทยอยู่มาก) แต่ Joko Widodo หรือ Jokowi ประธานาธิบดีของอินโดนีเซีย วางแผนที่จะใช้อุตสาหกรรมท่องเที่ยวกระตุ้นเศรษฐกิจของประเทศ

ดังนั้นต้องสร้างแหล่งท่องเที่ยวเพิ่มขึ้นเพื่อเป็นแลนด์มาร์ค เหมือนบาหลีที่มีทั้งรีสอร์ทริวทะเล ภูเขาไฟ หรือสถานที่ท่องเที่ยววัฒนธรรม วัด หรือแม้แต่ที่นา

จากข้อมูลมีนักท่องเที่ยวจีนกว่า 120 ล้านคนเดินทางออกนอกประเทศ แต่มาอินโดนีเซียประมาณ 1.4 ล้านคน หรือประมาณ 1% เท่านั้น ดังนั้นเป้าหมายคือต้องเพิ่มจำนวนขึ้นอีกเท่าตัว ต้องมีการโฆษณาประเทศอินโดนีเซียไปที่จีนในจุดสำคัญต่างๆ ซึ่งจะสร้างรายได้เข้าประเทศได้หลายพันล้านดอลลาร์

แต่แน่นอนว่าก่อนจะทำได้ก็ต้องใช้เงินหลายพันล้านดอลลาร์ในการลงทุนเช่นเดียวกัน

Joko Widodo ประธานาธิบดีของอินโดนีเซีย ภาพจาก https://en.wikipedia.org/wiki/Joko_Widodo

สร้างบาหลีอีก 10 แห่ง ดึงดูดนักท่องเที่ยวจีน

สำหรับแผนพัฒนาการท่องเที่ยว เป็นสิ่งที่ Jokowi มองว่าเป็นตัวช่วยให้เศรษฐกิจของประเทศเติบโตได้ถึง 7% ตามเป้าที่วางไว้ จากปัจจุบันที่เติบโตอยู่ประมาณ 5% จากแผนจะต้องเพิ่มจำนวนนักท่องเที่ยวต่อปีเท่าตัว หรือให้ได้ 20 ล้านคนในปี 2019 ซึ่งสำหรับ 8 เดือนแรกในปีนี้ มีนักท่องเที่ยวรวมมาอินโดนีเซียประมาณ 9 ล้านคน โดยประมาณ 4 ล้านคนมาเที่ยวบาหลี

ดังนั้น แผนการคือ ต้องสร้างบาหลีเพิ่มขึ้นอีก 10 แห่ง ซึ่งจะทำให้การเติบโตทางเศรษฐกิจของอินโดนีเซีย ซึ่งปกติขึ้นกับสินค้าโภคภัณฑ์ เช่น น้ำมันปาล์ม และ ถ่านหิน มีทางเลือกคือ การท่องเที่ยวเพิ่มขึ้นมา

ภาพจาก Pixabay.com

แค่มาเที่ยวไม่พอ ต้องใช้จ่ายให้มากด้วย

โจทย์ของรัฐบาลอินโดนีเซีย ไม่ใช่แค่การดึงดูดนักท่องเที่ยวจีนเท่านั้น แต่ต้องเพิ่มการใช้จ่ายให้มากขึ้นด้วย จากข้อมูล นักท่องเที่ยวจากกลุ่มประเทศตะวันออกกลาง ใช้จ่ายเฉลี่ย 1,700 ดอลลาร์ต่อคน นักท่องเที่ยวออสเตรเลียใช้จ่าย 1,500 ดอลลาร์ต่อคน ขณะที่นักท่องเที่ยวจีนใช้จ่าย 1,100 ดอลลาร์ต่อคน

แผนการสร้างบาหลีอีก 10 แห่ง คาดว่าจะต้องใช้เงินกว่า 20 พันล้านดอลลาร์ โดยครึ่งหนึ่งเป็นงบจากรัฐบาลในการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานต่างๆ เช่น ท่าเรือ, ถนน และปัจจัยพื้นฐานอื่นๆ ซึ่งจะช่วยให้แผนดังกล่าวประสบความสำเร็จ

ภาพจาก Pixabay.com

สรุป

อินโดนีเซียยังตามหลัง ไทย มาเลเซีย และสิงคโปร์ ในเรื่องการท่องเที่ยวอยู่มาก แต่ก็มองเห็นแผนในการดึงดูดนักท่องเที่ยวแล้ว และยังโฟกัสนักท่องเที่ยวจีน “ที่มีเงินใช้จ่าย” นี่คือสิ่งที่ไทยควรเน้นเช่นกัน จำนวนนักท่องเที่ยวจีนไม่ใช่ตัวแปร แต่ต้องเน้นนักท่องเที่ยวที่ใช้จ่ายเงินมากๆ ด้วย ไม่งั้นอาจไม่คุ้มกับทรัพยากรธรรมชาติที่สูญเสียไป

source: Bloomberg

ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา