ท่ามกลางการแข่งขันของตลาดอาหารอันดุเดือด คุณคิดว่าการเป็นผู้เล่นในอุตสาหกรรมนี้ มันยากแค่ไหน?
Brand Inside มีโอกาสเข้าฟังภาพรวมอุตสาหกรรมอาหารประเทศไทย โดย ‘ณัฐ วงศ์พานิช’ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท เซ็นทรัล เรสตอรองส์ กรุ๊ป จำกัด (CRG) จึงอยากแบ่งปันมาให้ทุกคนอ่านกัน
ปีนี้ตลาดอาหารโตแน่ แต่อุปสรรคก็เยอะไม่แพ้กัน
ณัฐเผยว่า ในปี 2025 ตลาดอาหารไทยมีแนวโน้มโตขึ้นราวๆ 5-7% โดยมีมูลค่าอยู่ที่ 5.72 แสนล้านบาท
อย่างไรก็ตาม แม้ภาพรวมของธุรกิจอาหารจะยังดูสดใส แต่อุปสรรคขวากหนามมากมายกำลังรอผู้เล่นทั้งหน้าใหม่และหน้าเก่าอยู่ ซึ่งณัฐอธิบายไว้ ดังนี้
- แบรนด์ใหม่เกิดขึ้นแทบทุกสัปดาห์ ทำให้การแข่งขันดุเดือด
- ธุรกิจจีนบุกหนักมาก แถมยังตอบโจทย์ความต้องการคนไทย และมีต้นทุนต่ำ
- คุณภาพก็สำคัญ เพราะเดี๋ยวนี้ลูกค้ายินดีจ่ายแพงเพื่อแลกกับของดีๆ
- อายุขัยแบรนด์สั้นลง ธุรกิจหนึ่งสามารถกลายเป็นที่นิยมได้ในเวลาไม่นาน แต่ก็อาจดับไวด้วยเช่นกัน
- แบรนด์ที่อยู่มานานต้องรู้จักปรับตัว ถ้าไม่อัปเดตให้ทันโลก ก็จะล้าสมัย
- หัดคิดค้นอะไรใหม่ๆ เช่น แบรนด์ใหม่ หรือ รูปแบบใหม่บ้าง เพราะความสำเร็จไม่ได้มาง่ายๆ
- ขาดแคลนแรงงาน ค่าแรงก็อาจเพิ่มขึ้น ขณะที่ต้นทุนไม่แน่นอน
นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่อุตสาหกรรมอาหารเผชิญความท้าทายขนาดนี้ เพราะณัฐเล่าว่า ในปี 2024 ภาพรวมธุรกิจร้านอาหารก็มีความท้าทายจากหลากหลายสถานการณ์ เช่นการเปิดตัวแบรนด์ใหม่ๆ ความผันผวนของเศรษฐกิจโลก และพฤติกรรมผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว
CRG เตรียมรับมือกับปี 2025 อยากขยายสาขากว่า 100 แห่ง พร้อมเปิดตัวน้องใหม่ 2-3 เจ้า
แม้อุปสรรคจะมากมายขนาดไหน แต่สำหรับปี 2025 CRG ยังอยากโตอย่างต่อเนื่อง โดยเป้าหมายคือ
- ทำยอดขายให้ถึง 1.79 หมื่นล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 13% จากปี 2024
- เปิดร้านใหม่เพิ่ม 120-140 แห่ง
- เติมธุรกิจใหม่เข้ามาในพอร์ตโฟลิโอ 2-3 แบรนด์
นอกจากนี้ ณัฐเล่าว่า บริษัทยังอยากเพิ่มร้านอาหารประเภท ‘ปิ้งย่าง-ชาบู’ เข้ามาด้วย และถ้าเป็นไปได้ ก็อยากให้เกิดขึ้นจริงภายในปี 2025
ดังนั้น CRG จึงกำหนดแนวทางขับเคลื่อนธุรกิจ ท่ามกลางความท้าทาย เพื่อที่จะโตตามเป้าหมายอย่างยั่งยืนได้ ประกอบไปด้วย
- ต่อยอดธุรกิจ ผ่านการสร้างการเติบโตจากธุรกิจเดิมที่มีอยู่ พร้อมขยายสาขาของแบรนด์ที่มีกำไร เช่น KFC, Mister Donut, Auntie Anne’s, นักล่าหมูกระทะ และ Shinkanzen รวมถึงพัฒนาสินค้าใหม่อย่างต่อเนื่อง
- ขับเคลื่อนสู่เป้าหมายด้วย ‘3C Actions’ ได้แก่ Cost การบริหารจัดการต้นทุนให้มีประสิทธิภาพ, CAPEX (Capital Expenditure) เน้นลงทุนให้เกิดประโยชน์สูงสุด และ Cash Flow การบริหารกระแสเงินสด รวมถึงการลงทุนให้มีความคล่องตัวมากขึ้น
- เพิ่มความแข็งแกร่งให้พอร์ตโฟลิโอด้วยแบรนด์ใหม่ และตั้งเป้าขยายธุรกิจรูปแบบ Joint Venture มากกว่า 25 สาขา
- ผลักดันความยั่งยืนทุกมิติ ด้วยกลยุทธ์ ‘CRG Strategy’ ซึ่งหมายถึงการดูแลบุคลากรและพันธมิตร (CARE for People and Partner), การลดก๊าซเรือนกระจก โดยใช้พลังงานทดแทนมากขึ้น (REDUCE Greenhouse Gases) และการลดปริมาณขยะอาหารในกระบวนการผลิต (GREEN Waste & Environment)
ในปี 2024 CRG ก็เปิดตัวสินค้าและแคมเปญใหม่ๆ ออกมาไม่น้อย แถมยังประสบความสำเร็จ อาทิ
- ‘White Pon De Ring’ ของ Mister Donut ที่สร้างปรากฏการณ์ยอดขายทะลุ 3.6 ล้านชิ้น พร้อมรายได้ 70 ล้านบาท
- ปรับโฉม ‘KFC สาขาแรกของไทย’ ให้พาย้อนความทรงจำในวันวาน ผสานความโมเดิร์นด้วย Kiosk สั่งอาหาร
- คลิปสุดไวรัลอย่าง ‘How to Cook’ จาก Pepper Lunch ที่เป็นตัวจุดกระแสให้คนลองปรุงความอร่อยตามสไตล์แบรนด์
- เปิดตัว 2 แบรนด์ใหม่คือ NAMA Japanese and Seafood Buffet และ Katsu Midori Sushi
ดังนั้น ปีนี้ CRG จะงัดแนวทางใหม่ๆ อะไรให้ผู้บริโภคได้เห็นบ้าง และจะประสบความสำเร็จมากน้อยแค่ไหน คงต้องติดตามกันต่อไป
ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา