Pokémon GO เปิดให้บริการในหลายประเทศมาระยะเวลาหนึ่งแล้ว จากการเก็บข้อมูลของ SensorTower แอปพลิเคชั่นด้านการวิเคราะห์แพล็ตฟอร์ม พบว่า เพียง 1 เดือนแรกที่เปิดให้บริการ Pokémon GO สามารถทำรายได้ทั่วโลกทะลุ 200 ล้านดอลลาร์ เป็นเกมโมบายที่เปิดตัวได้แรงที่สุด
ทั้งนี้ SensorTower พบว่า Pokémon GO เป็นข้อพิสูจน์อย่างหนึ่งว่าโมเดลการคิดเงินแบบ In-app purchase หรือ การจ่ายเงินเพื่อซื้อไอเท็มภายในเกม สามารถสร้างรายได้อย่างงดงาม ก่อนหน้านี้มีเกมที่ใช้โมเดล In-app purchase และประสบความสำเร็จด้านรายได้ เช่น Clash Royale (เปิดตัวปีนี้ เดือนมี.ค.) สร้างรายได้ประมาณ 125 ล้านดอลลาร์ใน 1 เดือนแรก และ Candy Crush Soda Saga (เปิดตัวปี 2014) มีรายได้กว่า 25 ล้านดอลลาร์
จุดหนึ่งที่สร้างความแตกต่าง คือ การเปิดให้บริการในประเทศญี่ปุ่น ซึ่งเป็นประเทศต้นกำเนิด Pokémon GO มีแฟนพันธุ์แท้ นักเล่นเกมที่ตั้งหน้ารอเล่นอยู่แล้ว และเมื่อมีการเปิดตัวในอีก 15 ประเทศในเอเชีย (รวมถึงไทยด้วย) ยิ่งกระตุ้นรายได้ให้เติบโตต่อไปอีก
ยังมีประเทศหลักๆ ในเอเชียที่ยังไม่เปิดให้บริการ เช่น เกาหลีใต้, อินเดีย และจีน ซึ่งเชื่อว่าถ้ามีการเปิดตัวในประเทศเหล่านี้ Pokémon GO จะสร้างรายได้อีกมหาศาล
ย้อนกลับมาดูในประเทศไทย หลังจากเปิดให้บริการไป 2-3 วัน โดยเฉพาะในวันเสาร์-อาทิตย์ กลายเป็นกิจกรรมครอบครัว คนไทยตื่นตัวและให้ความสนใจกันมาก และยังพบว่ามีการใช้ไอเท็ม เช่น LURE MODULE, LUCKY EGG ซึ่งเป็นไอเท็มที่ต้องใช้เงินซื้อ (100 Pokécoins = 35 บาท) แสดงว่าคนไทยก็พร้อมจ่ายเงินเพื่อให้เล่นได้เก่งขึ้น และสนุกมากขึ้น
Credit Source:
ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา