เดลิเวอรี่ ‘เชียงใหม่’ โตสูงสุดอันดับ 1 LINE MAN เผยมีร้านทะลุ 7 หมื่น ไรเดอร์ขับอยู่ 4 พันคัน

By
Sirarom Techasriamornrat
-

‘เชียงใหม่’ ไม่ได้มาเล่นๆ เพราะนอกจากจะเป็นเมืองท่องเที่ยวที่มีผู้มาเยือนมากที่สุดจังหวัดของหนึ่งไทยแล้ว ล่าสุด เชียงใหม่ ยังเป็นจังหวัดที่ LINE MAN ระบุว่า เป็น “เมืองศักยภาพที่เติบโตสูงสุดเป็นอันดับ 1” ด้วย

เชียงใหม่ เดลิเวอรี่โตสูงสุดอันดับ 1

‘ยอด ชินสุภัคกุล’ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร LINE MAN Wongnai เผยว่า ‘เชียงใหม่’ เป็นเมืองศักยภาพที่เติบโตสูงสุดอันดับ 1 ในช่วงที่ผ่านมา ทำให้เชียงใหม่เป็นหนึ่งใน TOP3 จังหวัดที่มีจำนวนออเดอร์มากที่สุดของ LINE MAN เช่นเดียวกับกรุงเทพและชลบุรี

โดย ‘เชียงใหม่’ แข็งแกร่งด้วยจำนวนร้านอาหารมากถึง 76,000 ร้านและไรเดอร์มากกว่า 4,100 คัน โดย TOP3 ของอำเภอในเชียงใหม่มีความหนาแน่นของร้านอาหารมากที่สุด ได้แก่ อำเภอเมืองเชียงใหม่ อำเภอสันทราย และอำเภอสันกำแพงนั่นเอง

โดยเมนูยอดฮิตและมาแรงที่ถูกสั่งในเชียงใหม่ก็สะท้อนความชื่นชอบของคนเชียงใหม่และนักท่องเที่ยวได้เป็นอย่างดี

  • เมนูยอดฮิตในเชียงใหม่ ได้แก่ ตำปูปลาร้า อเมริกาโน่เย็น ชาไทย ข้าวมันไก่ ขนมจีนน้ำเงี้ยว
  • เมนูมาแรงในเชียงใหม่ ได้แก่ ชาไทย บะหมี่ไก่ฉีก ข้าวขาหมู หม่าล่า ข้าวมันไก่
  • เมนูอาหารเหนือที่ถูกค้นหามากที่สุดในเชียงใหม่ ได้แก่ ขนมจีน ลาบคั่ว ข้าวซอย
  • เมนูขายดีในหมู่นักท่องเที่ยวจีนในเชียงใหม่ ได้แก่ ก๋วยเตี๋ยว กะเพรา หมาล่า

หนึ่งในความน่าสนใจของเชียงใหม่ คือ เชียงใหม่เป็นเมืองมหาวิทยาลัย ทำให้จำนวนออเดอร์แปรผันขึ้นลงตามการเปิดและปิดภาคเรียนของนักศึกษา แม้เชียงใหม่จะมียอดสั่งซื้อต่อออเดอร์ไม่สูง แต่ก็มีจำนวนออเดอร์สั่งซื้อมาก

ปีนี้สะท้อนความจริง ‘ฟู้ดเดลิเวอรี่’ โตได้หลังโควิด

‘ยอด’ ระบุว่า ปี 2567 คาด ‘ตลาดฟู้ดเดลิเวอรี่’ เติบโตมากถึง 7% และมีมูลค่าราว 120,000 ล้านบาท ขณะที่ LINE MAN มีมูลค่าธุรกรรมเติบโตมากถึง 35% นับตั้งแต่เดือนมกราคม 2023 จนถึงตุลาคม 2024 หรือเรียกว่า เติบโตกว่าตลาดค่อนข้างมาก

LINE MAN จึงเป็นแอปพลิเคชันฟู้ดเดลิเวอรี่ที่มีจำนวนธุรกรรมรายวันอันดับ 1 ในประเทศไทยตอนนี้ โดยมีจำนวนผู้ใช้แอคทีฟราว 10 ล้านคนต่อเดือน มีร้านค้าให้บริการกว่า 500,000 ร้าน และไรเดอร์มากกว่า 100,000 คน

ซีอีโอของ LINE MAN Wongmai บอกว่า ปี 2567 เป็น ‘ปีแห่งความจริง’ เพราะช่วงหลังโควิดหลายคนมักถามว่า “ฟู้ดเดลิเวอรี่จะยังมีคนใช้ไหม?” แต่ปีนี้เราได้เห็นแล้วว่าตลาดโตได้เรื่อยๆ ไม่ได้เหวี่ยงตามโลกภายนอกมากขนาดนั้น

อีกอย่างคือ ผู้เล่นรายใหญ่และรายเล็กที่เปลี่ยนแปลงไป เริ่มเห็นชัดเจนขึ้นว่าในระยะยาวจะมีผู้เล่นอยู่กี่ราย เช่นเดียวกับในหลายๆ ประเทศทั่วโลกที่จะมีผู้เล่นหลัก 2-3 รายเท่านั้น และปีหน้าจะยิ่งชัดขึ้นกว่าเดิมว่าผู้เล่นที่เหลือจะเป็นใครบ้าง ขณะที่ LINE MAN เองก็เติบโตมากกว่าตลาดฟู้ดเดลิเวอรี่ เติบโตมากกว่าตลาดอาหารโดยรวมด้วย

แม้หลายคนจะถามว่าจะมีผู้ใช้ใหม่ๆ เข้ามาจากไหน แต่จริงๆ แล้วคนที่เคยใช้งานแอปฟู้ดเดลิเวอรี่อยู่แล้วก็ยังไม่เลิกใช้งาน คนใหม่ๆ เองก็เข้ามาใช้งานมากขึ้น อย่างคนจบมหาวิทยาลัยใหม่ๆ คนที่พึ่งเข้าสู่วัยทำงาน คนยุคนี้เติบโตมาพร้อมกับเทคโนโลยี จำนวนผู้ใช้งานจึงมีแต่จะเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ

ความตั้งใจของ LINE MAN ในการรักษาการเติบโตจึงยังคงต้อง very hungry และ very aggressive สู้ทุกเม็ด แม้ผู้เล่นจะเหลือน้อยลงก็ยังวางใจไม่ได้ โดยตั้งใจจะครองตำแหน่ง “ถูกสุดทุกวัน” เพราะมองเป็นจุดเด่นที่จับใจผู้บริโภค พร้อมคาดการณ์ปีหน้าตลาดน่าจะโตราว 7% ยังคงมองบวกในทิศทางว่า ประเทศไทยจะต้องโต ธุรกิจร้านอาหารต้องโต และฟู้ดเดลิเวอรี่ต้องโตมากกว่า

ลูกค้าชอบฝากไรเดอร์ซื้อของ LINE MAN เตรียมให้สั่งอาหาร-ฝากซื้อของได้ในออเดอร์เดียว

ปีที่ผ่านมา LINE MAN ยังมีฟีเจอร์ใหม่ๆ ที่ได้รับการตอบรับดีจากผู้บริโภคอย่างเปิดให้เลือกการจัดส่งตามความต้องการของลูกค้า ไม่ว่าจะเป็นการจัดส่งแบบปกติ (Normal) การจัดส่งแบบ Direct to you และการจัดส่งแบบรอได้ Low Cost ตามความต้องการของลูกค้า

โดยปัจจุบันมีลูกค้ามากถึง 25% ที่เลือกการจัดส่งแบบ Direct to you หรือแบบ Low Cost เพราะลูกค้ามีความต้องการแตกต่างกัน หลายคนต้องการส่งด่วนได้รับประทานไว แต่ลูกค้าหลายๆ คนก็มีเวลาวางแผนล่วงหน้า รอสินค้าได้ ขอให้ราคาคุ้มค่าที่สุด

เช่นเดียวกันกับ ฟีเจอร์ Multiple Pick up หรือสั่งได้หลายร้านใน 1 ออเดอร์ ที่ปัจจุบันมีผู้ใช้งานกว่า 50% เคยใช้ฟีเจอร์นี้แล้ว และในปีหน้าคาดว่าจะเปิดให้ลูกค้าสามารถสั่งอาหาร (Food) และของใช้ (Mart) ในออเดอร์เดียวกันได้แล้ว เพราะลูกค้ามักจะชอบฝากไรเดอร์ซื้อของจากร้านค้าอยู่บ่อยๆ เป็นอินไซต์ที่เราพบเห็นอยู่ประจำ

รวมถึงฟีเจอร์ด้านสิ่งแวดล้อมอย่าง ‘ฟีเจอร์ไม่รับเครื่องปรุง’ ที่แค่ 2 เดือนก็สามารถลดจำนวนเครื่องปรุงได้มากกว่า 20 ล้านซอง มุ่งสู่เป้าหมายลดขยะพลาสติก 4.2 พันตันต่อปี และดันร้านค้าใช้ภาชนะรักษ์โลกผ่านการเพิ่มการมองเห็น 8-10% ทำให้ร้านค้าขายดีขึ้น

พร้อมๆ กับสนับสนุนเกษตรกรท้องถิ่นให้หลายๆ สินค้าท้องถิ่นดีๆ ของไทยสามารถขยับขยายธุรกิจออกไปสู่สายตาผู้คนมากขึ้น อย่างเช่น ‘โกโก้ไทย’ ที่สามารถนำมาผลิต ‘ช็อคโกแลตไทย’ ที่ได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ

นอกจากนั้น ยังมีก้าวสำคัญ ขยาย Payment Solution อย่างเครื่อง EDC ที่จะทำให้ระบบนิเวศของ LINE MAN แข็งแรงมากขึ้น โดยต้องการจะขยายจุดรับชำระเงินเป็นหมื่นเป็นแสนจุดในอนาคต

*Disclaimer : Brand Inside เป็นบริษัทในเครือ LINE MAN Wongnai

ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา