เรียกว่างานหิน งานโหด สำหรับภาพรวมเศรษฐกิจไทยในปี 2567 ที่ไม่ว่าจะทำธุรกิจอะไรก็หืดขึ้นคอ ด้วยกำลังซื้อของผู้บริโภคไทยได้รับผลกระทบเกือบทุกภาคส่วน ไม่เว้นแม้แต่ ‘ธุรกิจสินเชื่อ’ ที่เชื่อมโยงกับการจับจ่ายใช้สอยของผู้คน
Brand Inside คุยกับผู้บริหาร KTC ที่เชื่อว่าปีหน้าเศรษฐกิจไทยจะส่งสัญญาณบวกที่ดีต่อภาพรวมธุรกิจบริการสินเชื่อผู้บริโภค
เศรษฐกิจท้าทาย กำลังซื้ออ่อนแอ กระทบธุรกิจสินเชื่อ
‘พิทยา วรปัญญาสกุล’ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร KTC หรือ บริษัท บัตรกรุงไทย จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ปี 2567 เป็นปีที่เศรษฐกิจมีความท้าทาย กำลังซื้ออ่อนแอ จึงส่งผลกระทบต่อการเติบโตของธุรกิจสินเชื่อในภาพรวม
แต่เชื่อมั่นว่ามาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจต่างๆ ของภาครัฐจะช่วยให้เศรษฐกิจไทยในปี 2568 จะขยับตัวดีขึ้น ช่วยเพิ่มรายได้ในภาคประชาชน เพิ่มโอกาสเข้าถึงแหล่งเงินทุน เป็นสัญญาณบวกกับธุรกิจบริการสินเชื่อผู้บริโภค
สำหรับทิศทางธุรกิจเคทีซีในปี 2568 KTC ตั้งเป้าสร้างการเติบโตของพอร์ตสินเชื่อรวมราว 4-5% และรักษาอัตราส่วนหนี้ด้อยคุณภาพ (NPL Ratio) ให้ไม่เกิน 2% ผ่านกลยุทธ์หลัก 4 ด้าน
- เข้าถึงลูกค้าใหม่ๆ ด้วยช่องทางดิจิทัล สมัครออนไลน์ 100%
- บริหารฐานข้อมูลให้มีประสิทธิภาพ พัฒนาบริการบนแอป KTC Mobile
- เพิ่มประสิทธิภาพช่องทางสื่อสารแอป KTC Moblie, Line Connect, Facebook และเว็บไซต์
- พัฒนาทักษะ ติดอาวุธด้านเทคโนโลยีให้กับบุคลากร
ส่วนแผนระยะยาวของ KTC คือ Digital Transformation เพราะ KTC ให้ความสำคัญกับโครงสร้างหลัก 3 อย่าง ได้แก่ คน กระบวนการ และเทคโนโลยี โดยเชื่อว่าการลงทุนด้านเทคโนโลยีจะทำให้ KTC สามารถเข้าถึงลูกค้าใหม่ๆ ได้มากขึ้น สื่อสารกับลูกค้าเก่าได้ดี และสามารถบริหารงานฐานลูกค้าได้อย่างมีคุณภาพ
กำลังซื้อกลุ่มแมสส่อกระทบ ขยับเจาะลูกค้ารายได้สูงกว่า 5 หมื่น
‘ประณยา นิถานานนท์’ ผู้บริหารสูงสุด สายงานการตลาดบัตรเครดิต KTC อธิบายว่า ปัจจุบัน KTC เติบโตได้ดีกว่าภาพรวมอุตสาหกรรม จากจำนวนผู้ใช้งานในพอร์ตฟอลิโอมากกว่า 2.2 ล้านคน บัตรเครดิตมากกว่า 2.7 ล้านใบ โดยมีบัตรที่แอคทีฟ (active card) อยู่มากถึง 94% สูงสุดในอุตสาหกรรม
กว่า 60-70% ของลูกค้าบัตรเครดิต KTC เป็นลูกค้ากลุ่มแมสที่มีรายได้ตั้งแต่ 15,000 บาทขึ้นไปเป็นหลัก KTC จึงตั้งใจจะขยับไปเจาะลูกค้ากลุ่มบนมากขึ้น เพื่อรองรับสถานการณ์ที่กำลังซื้อของลูกค้ากลุ่มแมสได้รับผลกระทบ
กลุ่มเป้าหมายที่ตั้งใจจะเจาะ คือ กลุ่มรายได้มากกว่า 50,000 ขึ้นไป ซึ่งตอนนี้มีสัดส่วนราว 20% ของลูกค้าทั้งหมด เพราะลูกค้ากลุ่มนี้มีส่วนสำคัญทำให้ KTC สามารถเติบโตได้ดีต่อเนื่องในปีที่ผ่านมา และลูกค้าอีกกลุ่มที่ KTC อยากจะรุกเข้าไปจับมากขึ้น คือ ‘กลุ่มนักศึกษาจบใหม่’ หรือ ‘เฟิร์สจ๊อบเบอร์’ ที่ยังไม่มีบัตรเครดิต
ตั้งเป้าหมายหาลูกค้าบัตรใหม่เพิ่มอีก 250,000 ใบ ด้วยจุดเด่น ‘กิน เที่ยว ช้อป’ โดยเฉพาะกลุ่มกินที่เชื่อมั่นว่า KTC ไม่แพ้ใคร สร้างยอดใช้จ่ายผ่านบัตรที่ไม่ต่ำกว่า 320,000 ล้านบาท มุ่งสู่เป้าหมายเติบโต 10-12% ให้กับธุรกิจบัตรเครดิต KTC ปี 2568
โดยเชื่อว่าจะสามารถเข้าถึงลูกค้ากลุ่มที่มีรายได้มากกว่า 50,000 บาทขึ้นไปและกลุ่มจบใหม่ได้มากขึ้น หลังจากในปีที่ผ่านมาได้พัฒนาให้สามารถสมัครบัตรเครดิต KTC แบบออนไลน์ 100% ได้ เพราะหลายครั้งลูกค้ากลุ่มรายได้สูงมักจะอยากเก็บรายได้ไว้เป็นเรื่องส่วนตัว ไม่ต้องการส่งเอกสารผ่านพนักงานเจ้าหน้าที่
อัตราหนี้เสียต่ำ ตั้งเป้ารักษาคุณภาพลูกหนี้
ในฝั่งของ ธุรกิจบัตรกดเงินสด KTC พราว ‘พิชามน จิตรเป็นธรรม’ ผู้บริหารสูงสุด สายงานสินเชื่อบุคคลของ KTC อธิบายว่า แม้จะเติบโตลดลง แต่สินเชื่อบัตรกดเงินสด KTC พราวก็ยังคงเติมโตได้ด้วยอัตราหนี้เสีย (NPL) ต่ำกว่าอุตสาหกรรมด้วยอัตรา NPL 2.8% ขณะที่ค่าเฉลี่ยของอุตสาหกรรมอยู่ที่ 3.3%
ในปี 2568 ตั้งเป้าจะเติบโต 3% หรือเติบโตมากขึ้นกว่าปี 2567 โดยเป็นการเติบโตพร้อมกับคุณภาพ เน้นขยายฐานสมาชิกใหม่ผ่านพันธมิตรธุรกิจต่างๆ ผ่านการสมัครสินเชื่อออนไลน์ทาง E-Application ที่ลูกค้าสามารถสมัครเองและรู้ผลภายใน 30 นาที
ด้าน สินเชื่อจำนำทะเบียนอย่าง ‘KTC พี่เบิ้ม รถแลกเงิน’ ผู้บริหารอย่าง ‘เรือนแก้ว เกษมสวัสดิ์ศรี’ ผู้บริหารสูงสุด สายงานสินเชื่อรถยนต์ของ KTC อธิบายว่า ปัจจุบันขนาดของพอร์ตยังไม่ใหญ่มากนัก แต่มีอัตราหนี้เสียต่ำและคุณภาพหนี้สูง
สิ่งที่จะต่อยอดในปีหน้าจึงเป็นการรักษา ‘คุณภาพลูกหนี้’ เอาไว้ พร้อมๆ กับขยายช่องทางการให้บริการผ่านสาขาของธนาคารกรุงไทยและพันธมิตรธุรกิจใหม่ๆ เน้นเจาะกลุ่มลูกค้าที่มีรายได้ประจำและเจ้าของกิจการที่เป็นเจ้าของรถยนต์หรือรถจักรยานยนต์ เพื่อมุ่งสู่เป้าเติบโต 3,000 ล้านบาท
- KTC เปิดตัวบัตร KTC Digital บัตรพลาสติกใสไม่มีเลข ไม่มีแถบแม่เหล็ก CVV เปลี่ยนเมื่อร้องขอ ปลอดภัยยิ่งกว่า
- KTC แจ้งผลประกอบการปี 2023 กำไรสุทธิ 7,295 ล้านบาท เติบโต 3.1% หลังพอร์ตสินเชื่อโต 7.8%
ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา