เครื่องสำอางเกาหลีแผ่ว เพราะคนไทยหันใช้แบรนด์ไทย ร้านเครื่องสำอางต้องลดเกาหลี เพิ่มไทยแทน

ท่ามกลางกระแสเครื่องสำอางที่มาไวไปไว คุณคิดว่าทุกวันนี้เทรนด์แต่งหน้าเกาหลียังมาแรงอยู่หรือเปล่า?

เครื่องสำอาง

‘MULTY’ เป็นร้านค้าปลีกเครื่องสำอางที่ขึ้นชื่อในเรื่องของแบรนด์เกาหลีและผลิตภัณฑ์ความงามตามกระแส Brand Inside มีโอกาสพูดคุยกับ ‘ไพลิน อึ๊งพลาชัย’ กรรมการผู้จัดการ บริษัท มัลตี้ บิวตี้ จำกัด จึงอยากแบ่งปันมาให้ทุกคนได้อ่านกัน

คนไทยเน้นงานผิว หันใช้สกินแคร์มากกว่าเครื่องสำอาง

skincare

ไพลิน เผยว่า ช่วงที่ผ่านมา การแข่งขันในตลาดเครื่องสำอางคึกคักเป็นอย่างมาก มีการรุกขยายสาขาและฐานลูกค้ากันอย่างหนัก พร้อมดึงแบรนด์ต่างๆ เข้ามาเป็นพาร์ทเนอร์มากขึ้น 

หนึ่งเรื่องที่น่าสนใจคือ สินค้าขายดีของ MULTY ไม่ใช่เครื่องสำอางอีกต่อไป แต่กลายเป็น ‘สกินแคร์’ เนื่องจากคนหันมาเน้นเรื่องการดูแลผิวตั้งแต่ต้นมากขึ้น จนทำให้ยอดขายสกินแคร์แซงหน้าเครื่องสำอางไปอยู่ในอัตราส่วนประมาณ 50% ต่อ 40% 

เครื่องสำอางเกาหลีแผ่ว คนไทยหันใช้เครื่องสำอางสัญชาติไทยมากขึ้น

ในแง่ของเครื่องสำอางเกาหลี ไพลินเล่าว่า อัตราการเติบโตของแบรนด์เกาหลีชะลอลงในหมู่คนไทย แต่ยังถือว่าดีอยู่ 

โดยปัจจัยที่ปลุกกระแสการแต่งหน้าสไตล์เกาหลีนั้น ส่วนใหญ่มาจาก K-Series และ K-Beauty ส่วน K-POP มีอิทธิพลต่อผู้บริโภคไทยน้อยลง

ทั้งนี้ เกาหลีไม่ใช่ประเทศเดียวที่ขึ้นชื่อเรื่องผลิตภัณฑ์ความงามอีกแล้ว เพราะแบรนด์เครื่องสำอางและสกินแคร์ไทยกำลังได้รับความนิยมมากขึ้นเรื่อยๆ

ในปี 2024 ทาง MULTY  เองปรับสัดส่วนสินค้า จากเดิมที่เคยมีเครื่องสำอางเกาหลีกว่า 70% ก็ถูกลดลงให้เหลือเพียง 50-60% แล้วเพิ่มแบรนด์ไทย ญี่ปุ่น และจีนเข้ามามากขึ้น 

อย่างไรก็ตาม ไพลินยังอยากคงจุดยืนเดิมในการเป็นร้านค้าปลีกที่มีจุดเด่นเป็นเครื่องสำอางเกาหลี โดยถ้าเป็นไปได้ เธออยากให้แบรนด์เกาหลีใน MULTY กลับมาอยู่ที่สัดส่วน 70% เช่นเดิม

เน้นขยายในกรุงเทพฯ และปริมณฑลก่อน

MULTY

สำหรับการขยายสาขา ไพลินกล่าวว่า ปี 2025 บริษัทตั้งใจจะเพิ่มหน้าร้านประมาณ 2-3 แห่งในห้างสรรพสินค้า ซึ่งปี 2024 MULTY ได้เปิดสาขาใหม่อีก 4 แห่ง และกำลังจะเปิดอีก 1 ที่กลางเดือนนี้ นับเป็นสาขาที่ 10 ของแบรนด์

จริงๆ แล้ว ไพลินก็อยากขยายสาขาไปต่างจังหวัดด้วย แต่เธอมองว่า การจัดการภายในบริษัทอาจยังไม่ดีพอ โดยเฉพาะด้านโลจิสติกส์ ดังนั้น ในระยะสั้น MULTY จึงจะขยายตัวแค่ในกรุงเทพฯ และปริมณฑลเท่านั้น

ในส่วนของร้านค้าออนไลน์ MULTY อยากพัฒนาช่องทางนี้ให้แข่งขันกับแบรนด์อื่นๆ ได้ ซึ่งในปี 2024 ช่องทางออนไลน์ของบริษัทเติบโตไวกว่าหน้าร้านเสียอีก

เจาะ Gen Y ใช้จ่ายเยอะ หวังแตะพันล้านในปี 2026

MULTY

อีก 2 ปีข้างหน้า MULTY จะมีอายุครบ 10 ปีแล้ว และเมื่อถามไพลินเกี่ยวกับความคาดหวังที่ต้องการให้เกิดขึ้นในปีนั้น เธอตอบว่า อยากให้ยอดขายแตะ 1 พันล้านบาท และอยากให้แบรนด์แข็งแรงมากขึ้น 

นอกจากนั้น แม้กลุ่มลูกค้าหลักของ MULTY จะเป็น Gen Z วัย 18-24 ปี แต่บริษัทก็อยากเจาะตลาดวัย 30-35 ปี ด้วย โดยคาดหวังให้สัดส่วนของลูกค้ากลุ่มนี้เพิ่มขึ้นจาก 15% เป็น 30% ในปี 2026

ในปี 2024 ทางร้านก็เริ่มเห็นเทรนด์การเพิ่มขึ้นของกลุ่ม 30-35 ปีแล้ว ผ่านการเข้ามาซื้อสกินแคร์ และพบว่าลูกค้าวัยนี้กล้าจับจ่ายใช้สอยมากกว่า โดยมียอดซื้อต่อใบเสร็จเกิน 800 บาท ในขณะที่ลูกค้าทั่วไปมียอดซื้อเฉลี่ยเพียง 600 บาทต่อตะกร้าเท่านั้น

ด้วยเหตุนี้ ในอนาคต เราคงได้เห็น MULTY ปรับสัดส่วนการขายสกินแคร์เพิ่มขึ้นอีก พร้อมเปลี่ยนวิธีการโฆษณาไปเน้นเรื่องผลิตภัณฑ์ดูแลผิวมากกว่าเดิม

ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา