หุ้นบริษัทแม่ของ Uniqlo ร่วงหนักมากกกในรอบ 2 เดือนกว่า
หุ้นจากบริษัท Fast Retailing ร่วงลงถึง 4.5% ถือว่าร่วงลงต่ำสุดนับตั้งแต่ 30 กันยายนที่ผ่านมา การซื้อขายช่วงเช้าที่ผ่านมา พบว่าบริษัทถือเป็นหุ้นที่ได้รับผลกระทบหนักที่สุด ซึ่งหุ้นก็เพิ่มขึ้นมาราว 0.7% เมื่อเวลา 11.30 น. ตามเวลาโตเกียว
หุ้นร่วงหนักครั้งนี้ คาดว่ามีผลสืบเนื่องมาจากคำกล่าวของซีอีโอ Tadashi Yanai เพิ่งจะออกมาเปิดเผยอย่างตรงไปตรงมาครั้งแรกว่า บริษัทไม่ได้ใช้ฝ้ายจากซินเจียง จีน ซึ่งมีประเด็นปัญหาเรื่องการใช้แรงงานแบบขูดรีด และสหรัฐอเมริกาเองก็พยายามจะหาทางจัดหนักทางการค้าในเรื่องนี้เพราะกังวลเรื่องสิทธิมนุษยชนด้วย
อย่างไรก็ดี เรื่องนี้เป็นเรื่องที่ชาติตะวันตกกังวลค่อนข้างมากมานานแล้ว ทางโฆษกของแบรนด์เองก็แสดงความกังวลถึงการแสดงความคิดเห็นของซีอีโอ Yanai เช่นกันและพยายามติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด เพราะจีนเป็นตลาดสำคัญของ Uniqlo มีลูกค้าขนาดใหญ่ ขณะเดียวกันก็เป็นแหล่งผลิตรายใหญ่ด้วย การแสดงความคิดเห็นเช่นนี้อาจนำไปสู่การบอยคอตต์จากชาวจีนได้ไม่มากก็น้อย เพราะหุ้นก็ร่วงหลังจากซีอีโอแสดงความคิดเห็น
Fast Retailing ทำรายได้ในจีนได้มากกว่า 20% ของรายได้รวม 2.07 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐ (ณ สิงหาคม 2024) Uniqlo เปิดหน้าร้านทั่วโลก 2,509 แห่ง (มีสาขาในฮ่องกง, ไต้หวัน และจีน รวม 1,031 แห่ง)
บริษัทในสหรัฐฯ และยุโรปเองก็ได้รับแรงกดดันให้หาทางถอนตัวออกจากโรงงานผลิตเสื้อผ้า และผลิตภัณฑ์อื่นๆ ในซินเจียง ที่มีปัญหาเรื่องการบังคับใช้แรงงาน ทั้งการตั้งค่ายแรงงานและการทำให้แรงงานอยู่ในสภาพย่ำแย่
การตัดสินใจไม่ใช้ฝ้ายจากซินเจียงของ Uniqlo ก็คาดว่าน่าจะได้รับแรงกดดันมาจากรัฐบาลตะวันตกที่พยายามกดดันให้บริษัทญี่ปุ่นถอนตัวออกจากภูมิภาคนี้เช่นกัน เรื่องนี้ John Chou นักวิเคราะห์จาก Jefferies ก็ให้ความเห็นไว้ว่า สงครามการค้า 2.0 (Trade War 2.0) ได้เริ่มขึ้นแล้ว คาดว่าน่าจะมีเป้าหมายที่จะกำจัดฝ้ายจากซินเจียงออกจากญี่ปุ่นและตลาดอื่นๆ ในเอเชียด้วย
ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา