อยากฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาต้องรู้อะไรบ้าง แก้ปัญหาใต้ตาได้จริงไหม?
ปัญหาใต้ตาดำชนิดที่คอลซีลเลอร์ก็กลบไม่อยู่ หน้าดูแก่เพราะมีถุงใต้ตา มีร่องใต้ตาลึก การฉีดฟิลเลอร์ใต้ตานับว่าเป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่กำลังมาแรงมากในปัจจุบัน! เพราะหลังฉีดแล้วช่วยให้ใต้ตากลับมาดูสดใส เคลียร์ปัญหาใต้ตาได้อย่างครอบคลุมโดยไม่ต้องผ่าตัด ไม่ต้องเสียเวลาดูแลตัวเองให้ยุ่งยาก ไม่แปลกใจเลยว่าทำไมหลายคนถึงเทใจให้กับการฉีดใต้ตากันมากขึ้นจนกลายมาเป็นเทรนด์ความงามที่บอกต่อกันปากต่อปาก แต่ก่อนตัดสินใจฉีดครั้งแรก สิ่งที่สำคัญซึ่งไม่ควรมองข้ามก็คือ การศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับหัตถการ
ในบทความนี้ เราจะพาทุกคนไปทำความรู้จักว่าการฉีดเติมฟิลเลอร์ใต้ตาคืออะไร, เหมาะกับใคร, เลือกฟิลเลอร์ใต้ตายี่ห้อไหนดี, ต้องใช้กี่ cc, ต้องมีการเตรียมตัวอย่างไร รวมถึงใครที่ยังลังเลเลือกไม่ได้ว่าจะฉีดที่ไหนดี เรามีข้อแนะนำดี ๆ มาฝากกันด้วยเพื่อเป็นตัวช่วยในการตัดสินใจได้ง่ายขึ้น
ฟิลเลอร์ใต้ตา คืออะไร ทำความเข้าใจก่อนฉีด
ฟิลเลอร์ใต้ตา คือ การฉีดสารเติมเต็มใบหน้าที่ถูกสังเคราะห์ขึ้นเลียนแบบกรดไฮยาลูรอนิก แอซิด (Hyaluronic Acid หรือ HA) ที่มีอยู่ตามธรรมชาติในร่างกายคนเรา เพื่อช่วยแก้ไขปัญหาใต้ตาต่าง ๆ อาทิ ฉีดใต้ตาดำ ปรับสีผิวให้แลดูกระจ่างใส, ร่องใต้ตาลึก ร่องน้ำตา, ริ้วรอยใต้ตา รวมถึงสามารถฉีดถุงใต้ตา ทำให้ผิวกลับมาเรียบเนียน โดยแพทย์จะพิจารณาฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา 1 cc ไปจนถึง 3 cc (ขึ้นอยู่กับปัญหาใต้ตาของแต่ละคน)
ซึ่งสารเติมเต็มใบหน้าประเภท HA ยังมีคุณสมบัติอุ้มน้ำ เก็บกักความชุ่มชื่น โดยหลังฉีดใต้ตาแล้วจะช่วยฟื้นฟูให้ผิวบริเวณใต้ตากลับมาชุ่มชื่น นอกจากนี้ ยังมีขั้นตอนไม่ยุ่งยาก ไม่ต้องผ่าตัด เจ็บน้อยมากเมื่อเทียบกับหัตถการอื่น ๆ หลังทำแล้วเห็นผลลัพธ์ได้เลย และสารเติมเต็มที่ได้มาตรฐานจะสามารถสลายได้เอง โดยถึงแม้ว่าจะให้ผลลัพธ์ไม่ถาวร (12 – 24 เดือน* ขึ้นอยู่กับยี่ห้อฟิลเลอร์และการดูแลตัวเอง) แต่เราสามารถกลับมาฉีดเติมฟิลเลอร์ใต้ตาได้เรื่อย ๆ เพื่อคงผลลัพธ์ให้อยู่ได้นานขึ้น
เช็กเลย! ฟิลเลอร์ใต้ตาเหมาะกับใครบ้าง
ด้วยสาเหตุในด้านกรรมพันธุ์และอายุที่มากขึ้น ทำให้กระดูกเบ้าตายุบตัว ไขมันบางลง รวมถึงสาเหตุของโรคภูมิแพ้ และไลฟ์สไตล์บางอย่าง เช่น อดนอน ดื่มน้ำน้อย มีความเครียด อยู่ในที่ที่ต้องเจอฝุ่นและแสงแดดเป็นประจำ ซึ่งปัจจัยเหล่านี้ล้วนก่อให้เกิดปัญหาใต้ตาตามมามากมาย ซึ่งการฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาจะเหมาะกับผู้ที่มีปัญหาใต้ตาต่าง ๆ ดังนี้
- คนที่มีปัญหาร่องลึกใต้ตา มีร่องน้ำตา ตาโบ๋ เบ้าตาลึก
- คนที่มีใต้ตาหมองคล้ำ ขอบตาดำ หลังฉีดใต้ตาคล้ำจะช่วยปรับสีผิวให้กระจ่างใสขึ้น
- คนที่มีริ้วรอย รอยพับ รอยเหี่ยวย่นใต้ตา ทำให้หน้าดูแก่ก่อนวัย
- คนที่มีปัญหาถุงใต้ตา ที่เกิดจากอายุที่มากขึ้น หลังฉีดถุงใต้ตาจะช่วยปรับผิวใต้ตาให้เรียบเนียนเต่งตึง
- คนที่เคยใช้วิธีอื่น ๆ ในการแก้ไขปัญหาใต้ตามาแล้วแต่ยังไม่เห็นผล
- คนที่ไม่อยากผ่าตัด ไม่มีเวลาพักฟื้น รีบออกงาน รีบใช้หน้า
วิธีเตรียมตัวก่อนฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา
ใครที่กำลังวางแผนฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาอยู่ อีกหนึ่งข้อมูลสำคัญที่ควรศึกษาให้เข้าใจก่อนนั่นก็คือ การเตรียมตัวก่อนเข้ารับบริการฉีดใต้ตา เพื่อเป็นการเตรียมความพร้อม ซึ่งจะช่วยให้ผลลัพธ์ออกมาดี รวมถึงตอบโจทย์กับความต้องการของเรา ไม่เสี่ยงกับอันตรายที่อาจเกิดขึ้นตามมา
- ศึกษาหาข้อมูลเกี่ยวกับการฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาอย่างละเอียด
- พิจารณาเลือกฉีดใต้ตากับแพทย์ที่มีประสบการณ์และฉีดกับคลินิกที่น่าเชื่อถือ
- แนะนำให้เข้ารับคำปรึกษา ตรวจวิเคราะห์ปัญหาใต้ตา และฟังแผนการรักษากับแพทย์ด้วยตัวเอง
- ก่อนเข้ารับบริการฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา ควรงดรับประทานยา, วิตามิน และอาหารเสริม ที่มีผลให้เลือดหยุดไหลช้า ผิวหนังบวมช้ำได้ง่าย เช่น แอสไพริน, ยาในกลุ่มลดการอักเสบ NSAIDs, วิตามินอี, สารสกัดใบแปะก๊วย, โสม, น้ำมันปลา, น้ำมันอีฟนิงพริมโรส เป็นต้น
- งดการทายาที่มีส่วนผสมของสารผลัดเซลล์ผิว
- งดการดื่มแอลกอฮอล์ทุกชนิดเป็นเวลา 24 ชั่วโมงก่อนฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา
ฟิลเลอร์ใต้ตา ยี่ห้อไหนดี
สำหรับยี่ห้อของฟิลเลอร์ใต้ตาที่ทาง Doctor Mek Clinic ได้นำเข้ามาใช้นั้นจะมีอยู่หลากหลายยี่ห้อ ทั้งจากฝั่งอเมริกา ยุโรป รวมถึงเกาหลี โดยทุกกล่องทุกแบรนด์นำเข้าจากบริษัทยาโดยตรงและสามารถเช็กเลข Lot. รวมถึงสแกน QR Code ได้ ซึ่งจะขอยกตัวอย่าง 3 ฟิลเลอร์ใต้ตายี่ห้อสุดฮิตที่หลายคนถามหากันเยอะ ได้แก่ Juvederm, Restylane และ Yvoire
Juvederm
ฟิลเลอร์ตัวดังจากอเมริกา ด้วยสารเติมเต็มที่มีคุณสมบัติเด่นทั้งด้านความยืดหยุ่น ความคงรูปคงตัวสูง การกระจายตัวของยา รวมถึงขนาดโมเลกุล ซึ่งรุ่นที่นิยมนำมาใช้ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา คือ Juvederm Volite เนื้อฟิลเลอร์ละเอียด เหมาะกับการเติมฟิลเลอร์ใต้ตาบริเวณที่มีริ้วรอยเล็ก ๆ, Juvederm Voluma เนื้อฟิลเลอร์มีความยืดหยุ่นดี เหมาะกับการฉีดใต้ตาที่มีปัญหากระดูกยุบตัว, Juvederm Volift เนื้อฟิลเลอร์ละเอียดมากที่สุดกว่าทุกรุ่น เหมาะกับเคสที่มีผิวใต้ตาบาง ฉีดเพื่อเติมร่องลึก และ Juvederm Volbella เนื้อเจลนิ่ม มีความละเอียด เหมาะกับการฉีดใต้ตาชั้นลึก ไม่เน้นวอลลุ่มมาก
Restylane
ฟิลเลอร์ใต้ตา Restylane สัญชาติสวีเดนและเป็นอีกหนึ่งสารเติมเต็มแบรนด์คุณภาพที่ได้รับความนิยมมากในบ้านเรา มีจุดเด่นที่ให้ความเป็นธรรมชาติ มีหลากหลายรุ่นให้เลือกใช้ตามปัญหาบนใบหน้า สำหรับรุ่นฟิลเลอร์ Restylane ใต้ตาที่แนะนำ คือ Restylane Vital Light โมเลกุลเล็กสุด เนื้อนิ่มสุด เหมาะกับการฉีดร่องใต้ตาลึก ฉีดใต้ตาดำคล้ำ, Restylane Vital เนื้อนิ่ม เกลี่ยง่าย เหมาะกับการฉีดริ้วรอยตื้น ๆ ใต้ตา, Restylane Lyft ใช้เติมใต้ตาชั้นลึก, Restylane Defyne ฉีดใต้ตากรณีที่กระดูกยุบตัว และ Restylane Classic เหมาะกับเติมเต็มริ้วรอยลึก
Yvoire
ใครที่อยากฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาราคาสบายกระเป๋าและอยากได้งานดีที่คุณภาพไม่แพ้ฟิลเลอร์ฝั่งอเมริกาหรือยุโรปเลย แนะนำ Yvoire ฟิลเลอร์ใต้ตายี่ห้อจากเกาหลีที่มาพร้อมความโดดเด่นในด้านเนื้อฟิลเลอร์ที่มีความยืดหยุ่นสูง ฉีดแล้วยึดเกาะผิวได้ดี ซึ่งรุ่นที่เหมาะกับการฉีดเติมใต้ตา คือ YVOIRE Classic Plus ซึ่งมีขนาดโมเลกุลเล็กสุดในบรรดา 3 รุ่น เหมาะกับการแก้ไขริ้วรอยตื้น ลดรอยตีนกา ปรับผิวให้เรียบเนียน
หลังฉีดฟิลเลอร์ใต้ตามีผลข้างเคียงหรือไม่
โดยทั่วไปแล้ว หลังฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาจะทำให้มีอาการที่ไม่เป็นอันตราย ซึ่งเกิดจากเข็มฉีดยาขนาดเล็กที่ฉีดเข้าไปในผิวหนัง โดยอาการจะค่อย ๆ บรรเทาลงตามระยะเวลาที่ควรเป็น แต่ทั้งนี้ ในบางรายอาจพบอาการผิดปกติได้เช่นกันและแนะนำให้พบแพทย์ทันที
อาการข้างเคียงปกติที่อาจเกิดขึ้นได้
สำหรับอาการที่พบได้ปกติ ได้แก่ อาการเจ็บระบม ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาบวมตึง มีรอยแดง รอยเขียวช้ำเล็กน้อย เกิดจากกลไกของร่างกายมีปฏิกิริยาอักเสบ (Inflammation Process) รวมถึงอาการบวมจากการอุ้มน้ำของสารเติมเต็ม HA และฟิลเลอร์ยังไม่เข้าที่ โดยจะค่อย ๆ รู้สึกบรรเทาลง รวมถึงจะหายได้เองในช่วง 7 – 14 วัน
อาการข้างเคียงที่ควรพบแพทย์ทันที
หากสังเกตพบว่ารอยเขียวช้ำมีสีคล้ำขึ้นหรือมีสีซีดขาว อาการบวมไม่ลดลง ผิวแดงขึ้นเรื่อย ๆ มีผื่นร่วมด้วย และจับหรือกดเบา ๆ ที่ผิวแล้วรู้สึกเจ็บมาก หลังฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาแล้วอาการเหล่านี้เป็นมากขึ้นโดยไม่มีทีท่าว่าจะบรรเทาลง แนะนำให้รีบพบแพทย์เจ้าของไข้ที่ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาให้ รวมถึงในรายที่พบว่าฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาแล้วเป็นก้อน ผิวเป็นคลื่น ซึ่งอาจเกิดจากเทคนิคการฉีดที่ไม่ถูกต้อง กรณีแบบนี้ก็ต้องเข้าพบแพทย์ในทันทีเช่นกัน
ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาที่ไหนดี ทำไมหลายคนถึงเลือก Doctor Mek Clinic
ก่อนจะเลือกฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาที่ไหน ฉีดกับใคร จะต้องพิถีพิถันเลือกกันอย่างรอบคอบ เพื่อผลลัพธ์ที่แลดูเป็นธรรมชาติ แก้ไขปัญหาใต้ตาได้ดี ไม่เสี่ยงกับผลข้างเคียงไม่พึงประสงค์ โดยพิจารณาจากปัจจัย ดังนี้
- เลือกฉีดใต้ตากับแพทย์ที่มีทักษะและมีประสบการณ์ด้านการรักษา
- ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตากับคลินิกที่ได้รับอนุญาตประกอบกิจการอย่างถูกต้องจากกระทรวงสาธารณสุข โดยสังเกตจากเลขขึ้นทะเบียน 11 หลักที่ติดแสดงบริเวณด้านหน้าสถานพยาบาล
- เลือกใช้สารเติมเต็มที่มีคุณภาพ โดยสามารถเช็กได้ทุกกล่อง มีการแกะกล่องโชว์ต่อหน้าก่อนฉีด
- ก่อนฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาควรดูรีวิวจากเคสคนไข้จริง
- มีการดูแลติดตามอาการหลังฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาอย่างใกล้ชิด พร้อมช่องทางการติดต่อที่สามารถสอบถามได้สะดวก
สำหรับใครที่ยังไม่รู้ว่าจะฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาที่ไหนดี แนะนำให้ลองเข้ามาปรึกษาพร้อมกับการประเมินปัญหาเบื้องต้นกับแพทย์ของ Doctor Mek Clinic ที่มีประสบการณ์ด้านการฉีดสารเติมเต็มใบหน้า พร้อมผลิตภัณฑ์สารเติมเต็มที่มีคุณภาพ ตรวจสอบได้ทุกกล่อง ผสานกับเทคนิคการฉีดที่มีเอกลักษณ์ Triple Layer Lift เติมเต็มตอบโจทย์ปัญหาใต้ตาที่แตกต่างกัน นอกจากนี้ เรายังมีรีวิวฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาให้เลือกดูเยอะมาก ทั้งในรูปแบบภาพนิ่ง (ก่อน-หลังการรักษา) และวิดีโอจากเคสคนไข้จริงเพื่อประกอบการตัดสินใจ รวมถึงการดูแลติดตามผลลัพธ์หลังการรักษาอย่างต่อเนื่อง
สรุป ฟิลเลอร์ใต้ตา ตอบโจทย์ปัญหาใต้ตาจริงไหม!
การฉีดฟิลเลอร์ใต้ตานับว่าเป็นเทคนิคที่ช่วยเคลียร์ปัญหาใต้ตาที่ให้ผลลัพธ์ดี รวดเร็ว ทำให้ใบหน้าโดยรวมแลดูอ่อนกว่าวัย โดยที่ไม่ต้องพึ่งการผ่าตัด ไม่วุ่นวายกับการดูแลตัวเองที่ยุ่งยาก สำหรับใครที่กำลังมองหาคลินิกฉีดใต้ตาที่มีคุณภาพอยู่ หรือยังไม่รู้ว่าตัวเองเหมาะกับฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาไหม ต้องใช้ยี่ห้ออะไร หรือมีข้อมูลอื่น ๆ ที่อยากสอบถามเพิ่มเติมสามารถแวะเข้ามาปรึกษากับแพทย์ของ Doctor Mek Clinic นอกจากนี้ ยังโปรโมชั่นโปรแกรมฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาราคาดีที่จัดขึ้นเป็นประจำ พร้อมการบริการดูแลทุกเคสอย่างใกล้ชิด
ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา