เปิดใจพนักงานบริษัท: เข้าออฟฟิศมันก็ดี แต่อยู่บ้าน Productive มากกว่า

คุณชอบทำงานออนไซต์หรือออนไลน์? บางคนอาจมองว่าการเข้าออฟฟิศมีประโยชน์มากมาย ทั้งยังได้เจอเพื่อนร่วมงานอีก ในขณะที่บางคนก็อาจคิดว่าการ Work From Home มีความยืดหยุ่นมากกว่า จนเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานได้

Work

‘Joy-Ann’ คือพนักงานฝ่ายขายวัย 32 ปีในบริษัทการตลาดดิจิทัลแห่งหนึ่ง ให้สัมภาษณ์กับ Business Insider โดยเธอบอกว่า ในช่วงระยะเวลา 4 ปีที่ผ่านมา เธอไม่ได้เข้าไปทำงานในออฟฟิศที่นิวยอร์กเลย แต่ Work From Home จากบ้านตนเองที่นิวเจอร์ซีมาโดยตลอด

อย่างไรก็ตาม เมื่อเดือนสิงหาคม บริษัทของ Joy-Ann เริ่มตามตัวพนักงานกลับไปเข้าออฟฟิศ 4 วันต่อสัปดาห์ ทำให้เธอต้องเสียเวลาการเดินทางไปกลับวันละราวๆ 3 ชั่วโมง

แน่นอนว่า บริษัทของเธอไม่ใช่ที่แรกที่ทำแบบนี้ เพราะองค์กรชั้นนำอย่าง Amazon, JP Morgan, Apple และ Disney ก็เริ่มเปลี่ยนกฎมาบังคับพนักงานให้เข้าออฟฟิศตามเดิมแล้ว

โดยเฉพาะ Amazon ที่หลังจากประกาศนโยบายใหม่ให้พนักงานกลับเข้าออฟฟิศ 5 วันต่อสัปดาห์ เพื่อประโยชน์ในการทำงานต่างๆ ก็กลายเป็นเรื่องฮือฮาในสังคม เนื่องจากบุคลากรบางส่วนไม่พอใจจนออกมาประท้วง และผู้เชี่ยวชาญบางคนก็ออกมาชี้ว่าเป็นแนวคิดที่ตกยุคไปแล้ว

ทั้งนี้ การทำงานแบบไฮบริดหรือ Work From Home ยังคงมีอยู่บ้างในบางบริษัท แต่จากที่เคยเป็นระเบียบการทำงานทั่วไป ก็ถือเป็นสวัสดิการพนักงานแทน

ทำงานออนไซต์มีประโยชน์กว่าที่คิด

worker
ภาพจาก Shutterstock

แม้ว่า Joy-Ann จะชอบอิสรภาพที่ตนเองมีตอนทำงานที่บ้าน แต่เธอก็ยอมรับว่าการเข้าออฟฟิศมีประโยชน์เยอะกว่าที่คิด คือ

  1. ไม่ต้องนั่งติดโต๊ะ: ตอน Work From Home Joy-Ann พบว่าตนเองมักรู้สึกผิดหากจะลุกออกจากโต๊ะทำงานไปทำธุระอื่นๆ และคอยกระวนกระวายจนต้องเช็กมือถืออยู่เสมอ แต่พอได้เข้าออฟฟิศ Joy-Ann เผยว่าเธอสบายใจที่จะเดินไปเดินมาเพื่อทำอย่างอื่นมากขึ้น
  2. ได้เลือกเสื้อผ้ามาทำงาน: ด้วยความที่ Joy-Ann เป็นเจ้าแม่แฟชันและชอบการแต่งตัวเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว เธอจึงมีความสุขที่ได้ตื่นมาเลือกเสื้อผ้าไปทำงานในทุกๆ วัน
  3. อาหารกลางวันฟรี: ในช่วงที่พนักงานทุกคนต้องเผชิญกับการเปลี่ยนแปลงแบบนี้ องค์กรที่ดีควรสร้างบรรยากาศในออฟฟิศให้น่าอยู่ เพื่อที่บุคลากรจะได้รู้สึกดีกับการปรับตัวมากขึ้น ซึ่งบริษัทของ Joy-Ann เองก็มีสวัสดิการอาหารกลางวันฟรีให้กับพนักงาน
  4. ได้พบปะเพื่อนร่วมงาน: Joy-Ann มีความสุขมากที่ได้เจอเพื่อนร่วมงาน โดยเธอเผยว่า “การได้พบปะทุกคนแบบตัวเป็นๆ มันดีกว่าตอนคุยกันออนไลน์มาก มันบูสต์พลังงานบางอย่างให้กับฉัน” 

นอกจากนี้ Hannes Schwandt รองศาสตราจารย์ภาควิชาการพัฒนามนุษย์และนโยบายสังคม เสริมว่า การทำงานออนไซต์สามารถเปิดโอกาสให้คนรุ่นใหม่ได้สร้างคอนเนคชันในการทำงานเพิ่มขึ้นด้วย

แต่ประสิทธิภาพในการทำงานยังเหมือนเดิม

ต่อให้การเข้าออฟฟิศจะมีประโยชน์มากแค่ไหน Joy-Ann ก็พูดตรงๆ ว่าประสิทธิภาพในการทำงานของเธอยังเหมือนเดิม 

แย่กว่านั้นคือ การที่ Joy-Ann ต้องเดินทางหนึ่งชั่วโมงครึ่งเพื่อมาทำงาน ส่งผลให้แต่ละวันของเธอยาวนานขึ้น แถมยังกินเวลาการทำงานด้วย เพราะแทนที่ Joy-Ann จะได้เอา 1.5 ชั่วโมงนั้นมานั่งทำงานแบบ Work From Home เธอกลับต้องมาใช้มันไปกับการสัญจร

ซ้ำร้าย จากที่เธอเคยเสียเวลาคุยแชทกับคนในทีมผ่านช่องทางออนไลน์เพียงครู่เดียว ก็กลายเป็นว่า Joy-Ann และเพื่อนๆ ได้มายืนเม้าท์มอยกันนานเกินกว่าที่ควร

แม้ว่าการทำงานออนไซต์จะมีข้อเสีย Joy-Ann เลือกโฟกัสแค่ข้อดี และเชื่อว่าการเข้าออฟฟิศทำให้ชีวิตการทำงานกับชีวิตประจำวันของเธอสมดุลมากขึ้น 

ที่สำคัญ สุขภาพจิตของเธอก็ดีตาม เพราะอย่างน้อย Joy-Ann ก็ไม่ต้องนั่งอยู่หน้าจอในที่เดิมๆ ติดกัน 5-6 ชั่วโมง แต่สามารถลุกไปนู่นไปนี่เพื่อเข้าประชุมบ้าง หรือหาเพื่อนร่วมงานบ้างได้

ทีม Content คิดเห็นอย่างไร?

มาถึงตรงนี้ บางคนอาจเริ่มสงสัยว่ามีใครคิดเหมือน Joy-Ann บ้างหรือเปล่า? Brand Inside จึงถือโอกาสนี้ไปลองสอบถามพนักงานในฝ่าย Content ที่ทำงานไฮบริดเป็นประจำอยู่แล้ว และได้ผลลัพธ์ดังนี้

  1. ในแง่ของการได้พบปะเพื่อนร่วมงาน

หลายเสียงเห็นตรงกันว่า การทำงานออนไซต์ทำให้เราได้ปฏิสัมพันธ์กับเพื่อนร่วมงานมากกว่า ส่งผลให้คนในทีมสนิทกันมากขึ้น

โดย Senior Graphic Designer เผยว่า “การทำงานที่ได้พบเจอกันต่อหน้า ได้ทำกิจกรรมร่วมกัน เช่นทานอาหารร่วมกัน นั่งทำงานร่วมกัน สามารถเพิ่มความสัมพันธ์ที่ดีภายในองค์กร และได้บรรยากาศในการทำงานใหม่ๆ นอกจากที่บ้านด้วย”

นอกจากนี้ ทาง Social Media Content Creator ยังเสริมอีกว่า การเข้าออฟฟิศ ทำให้รู้สึกเข้าถึงกันมากกว่า และบางประเด็นที่สงสัย หากให้พิมพ์ถามก็อาจได้คำตอบที่ไม่ชัดเจนหรือไม่ถนัด ดังนั้น การพูดคุยต่อหน้าจะทำให้การสื่อสารง่ายขึ้น

  1. ในแง่ของประสิทธิภาพการทำงาน

คำตอบที่ได้รับจากข้อนี้นั้นต่างกันไป เนื่องจากบางส่วนมองว่า Work From Home ทำให้ตนเอง Productive มากกว่า ในขณะที่บางส่วนก็เชื่อว่าการเข้าออฟฟิศถือเป็นเครื่องมือช่วยเสริมประสิทธิภาพในการทำงานที่ดี

สำหรับทีม Work From Home พวกเขามองว่าการทำงานที่บ้านไม่ต้องเสียเวลาอาบน้ำแต่งตัว รวมถึงเดินทางไปกลับ แถมยังได้โฟกัสกับงานมากกว่า โดยทาง Senior Content Creator ของ Brand Inside กล่าวว่า การ Work From Home ทำให้ตนเองบริหารเวลาได้อย่างมีประสิทธิภาพขึ้น

ในทางกลับกัน ทีมออนไซต์เชื่อว่าการได้มานั่งทำงานในออฟฟิศ ทำให้ตนเอง Productive กว่าเดิม และด้าน Senior Media Marketing Manager ให้ความเห็นว่า ถ้าเราเป็นคนที่ชอบการแข่งขันกับตนเอง การเข้าออฟฟิศก็จะทำให้เห็นการเปรียบเทียบเรื่องความสามารถ แล้วนำมาพัฒนาตนเอง จนนำไปสู่ความ Productive และ Proactive ไปพร้อมๆ กัน

อย่างไรก็ตาม เขามองว่าเรื่องนี้มันขึ้นอยู่กับทักษะการบริหารและความมีระเบียบของแต่ละคน โดยวินัยก็เป็นสิ่งสำคัญ

  1. ชอบ Work From Home หรือเข้าออฟฟิศมากกว่า?

สิ่งที่น่าสนใจในการสัมภาษณ์ครั้งนี้คือ แม้ว่าทุกคนจะเห็นประโยชน์ของการเข้าออฟฟิศ แต่บางคนก็ยังชอบการ Work From Home มากกว่า

โดย Social Media Content Creator อธิบายว่า “เราชอบ Work From Home มากกว่าค่ะ รู้สึกความกดดัน ความเครียดน้อยกว่า จัดสรรเวลาตัวเองง่ายกว่า รู้สึกสงบกว่าด้วย ที่สำคัญที่สุดคือประหยัดค่าเดินทางต่อเดือนไปได้เยอะมากๆ แล้วพอไม่ต้องเดินทางไปกลับเพื่อทำงาน พอจบวันก็รู้สึกเหนื่อยน้อยกว่าวันที่ต้องเดินทางมากค่ะ” 

ในขณะเดียวกัน Senior Media Marketing Manager เผยว่า สาเหตุแรกที่เขาชอบการเข้าออฟฟิศมากกว่าคือ การสื่อสารกันต่อหน้าทำให้เราอ่านบริบทของสถานการณ์ได้ดีกว่า และได้เห็นถึงความมุ่งมั่นหรือจริงจังในการประชุม

ส่วนเหตุผลที่สองคือ การเข้าออฟฟิศทำให้เราได้สื่อสารกับทีมอื่นๆ เผื่อหาโอกาสทำโปรเจกต์ร่วมกัน ทั้งยังได้แลกเปลี่ยนองค์ความรู้ด้วย

ทั้งนี้ บางส่วนมองว่าตนเองชอบการทำงานทั้งแบบ Work From Home และเข้าออฟฟิศ โดย Senior Editor ผู้ให้คำตอบนี้บอกว่า “การทำงานแต่ละแบบก็มีประโยชน์ที่ต่างกัน ถ้า Work From Home ก็จะมีอิสระ และกระตุ้นให้รับผิดชอบกับงานมากขึ้น ส่วนเข้าออฟฟิศ ประโยชน์หลักๆ คือการได้สร้างสรรค์งานใหม่ๆ ผ่านการเจอเพื่อนร่วมงานครับ”

ท้ายสุด จากบทสัมภาษณ์ของ Joy-Ann เธอทิ้งทวนว่า “ในสถานการณ์แบบนี้ มันขึ้นอยู่กับตัวเราว่าจะจัดการกับมันอย่างไร และหาข้อดีอะไรจากมันได้บ้าง”

แหล่งที่มา: Business Insider

ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา