ผลการสำรวจของ Kantar เกี่ยวกับแพลตฟอร์มวิดีโอในประเทศไทย พบว่า YouTube ครองอันดับหนึ่งแพลตฟอร์มวิดีโอในใจคนไทย และมากกว่า 85% ถือเป็นแพลตฟอร์มที่มีความน่าเชื่อถือมากกว่าแพลตฟอร์มอื่นๆ พร้อมยังเป็นคอมมูนิตี้ที่ทำให้ครีเอเตอร์และผู้ชมสร้างความสัมพันธ์ได้ดีที่สุด
แจ็คกี้ หวาง Country Director, Google Thailand เปิดเผยว่า YouTube ถือเป็นแพลตฟอร์มวิดีโอที่สามารถสร้างคอมมูนิตี้ได้ระหว่างครีเอเตอร์และผู้ชม โดยผู้ชมมีส่วนร่วมได้ทั้งการคอมเมนต์ กดแสดงความรู้สึกตอบโต้ครีเอเตอร์ได้แบบเรียลไทม์ ซึ่งถือว่าเป็นแพลตฟอร์มวิดีโอเดียวที่ยังทรงประสิทธิภาพมากที่สุดในในขณะนี้
“ยกตัวอย่างครีเอเตอร์ที่มีความโดดเด่นเรื่องของการสร้างคอมมูนิตี้ อย่างช่อง Farose ที่เริ่มต้นจากการสร้างคอนเทนต์ต่างๆ จนมีแฟนคลับให้การสนับสนุน ขยายสเกลที่สามารถจัดงานอีเวนท์พบปะกับผู้ชมตัวจริง เกิดเป็นคอมมูนิตี้อย่างชัดเจน เราเชื่อว่าการสร้างคอนเนคชั่นเป็นสิ่งที่ตอบโจทย์ให้กับครีเอเตอร์ รวมไปถึงการสร้างความน่าเชื่อถือมากกว่าแพลตฟอร์มวิดีโออื่นๆ”
นอกจากนี้ YouTube ยังเผยข้อมูลที่น่าสนใจดังนี้
- กลุ่มผู้เข้าชม YouTube หากมีคำว่า “รีแอคชั่น” และ “vlog” อยู่ในชื่อวิดีโอจะสามารถเพิ่มอัตราการรับชมคอนเทนต์สูงขึ้น 40% และหากมีคำว่า “วิเคราะห์” จะทำให้อัตราการชมสูงขึ้นถึง 80% เมื่อเทียบกับปีก่อน
- หากคนไทยจะต้องเลือกรับชมแพลตฟอร์มวิดีโอเพียงหนึ่งเดียวตลอดทั้งปี จะเลือกดู YouTube ทำให้ YouTube เป็นแพลตฟอร์มวิดีโออันดับหนึ่งในใจ
- กว่า 85% ของผู้ชมชาวไทยรู้สึกว่าคอนเทนต์ของครีเอเตอร์บน YouTube มีความน่าเชื่อถือว่ามากกว่าแพลตฟอร์มอื่นๆ
- กว่า 98% ของผู้ตอบแบบสำรวจพบว่า จะรับชมวิดีโอทั้งรูปแบบสั้นและยาวบน YouTube
- ผลการวิเคราะห์และข้อมูลจาก Nielsen พบว่าโฆษณาบน YouTube มีประสิทธิภาพมากกว่าบนทีวีถึง 4 เท่า
- มาตราฐานการนับวิวของ YouTube แบบสั้นเริ่มนับวิวตั้งแต่วินาทีที่ 10 เป็นต้นไป และแบบยาวเริ่มนับตั้งแต่วินาทีที่ 11-30 ต่างจากแพลตฟอร์มวิดีโออื่นๆ ที่เริ่มนับตั้งแต่วินาทีที่ 1-3 ทำให้ YouTube มีความน่าเชื่อถือมากกว่า
- คนไทยที่เลือกดู YouTube ผ่านทีวี มีอัตราการรับชมไม่ต่ำกว่าวันละ 3 ชั่วโมง
- เร็วๆ นี้ในประเทศไทยจะเปิดตัว YouTube Shopping ภายใต้ความร่วมมือกับ Shopee ซึ่งจะทำให้ครีเอเตอร์ที่ผ่านเกณฑ์สามารถติดแท๊กสินค้าของ Shopee ในเนื้อหาตนเองได้
เผยนำ Google AI มาใช้โฆษณาบน YouTube
Google ได้นำเครื่องมืออย่าง Predictive AI มาวิเคราะห์เพื่อให้มีการเข้าถึง (Reach) และยอดขายที่มีประสิทธิภาพมากขึ้น นอกจากนี้ยังนำ Generative AI มาช่วยให้ครีเอเตอร์สร้างคอนเทนต์และการเล่าเรื่องราวของแบรนด์ได้ง่ายยิ่งขึ้น ด้วยเครื่องมืออย่าง Veo ที่เป็นโมเดลใหม่ในการสร้างสรรค์วิดีโอที่ใหม่และล้ำสมัยที่สุด รวมไปถึงการกำหนด Music Lineup ที่ YouTube ได้เล็งเห็นถึงโอกาสที่ผู้ชมตัดสินใจฟังเพลงตามลิทส์ที่ระบบแนะนำ จะทำให้แบรนด์สามารถกำหนดโฆษณาให้ตรงกลุ่มเป้าหมายได้ประสิทธิภาพมากที่สุด
ประกาศผู้ชนะรางวัล YouTube Works Awards 2024
งาน YouTube Works Awards จัดขึ้นโดยความร่วมมือกับ Kantar เพื่อยกย่องและมอบรางวัลให้แก่แคมเปญโฆษณาบน YouTube ที่โดดเด่น มีความสร้างสรรค์ และสร้างผลลัพธ์ทางธุรกิจได้อย่างมีประสิทธิภาพ สำหรับปีนี้ ประเทศไทยได้รับเกียรติเป็นเจ้าภาพจัดงาน “YouTube Works Awards Southeast Asia 2024” ซึ่งเป็นการมอบรางวัลระดับภูมิภาคที่จัดขึ้นเป็นครั้งที่ 2 โดยมีแคมเปญที่ผ่านเข้ารอบสุดท้ายจำนวน 34 แคมเปญจาก 6 ประเทศในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ได้แก่ อินโดนีเซีย มาเลเซีย ฟิลิปปินส์ สิงคโปร์ ไทย และเวียดนาม ซึ่งได้ส่งผลงานเข้าร่วมชิงรางวัลใน 8 ประเภทด้วยกัน
และในปีนี้ แคมเปญจากไทยก็ยังคงเฉิดฉายในเวทีระดับภูมิภาค โดยคว้า 3 รางวัลมาครอง จากทั้งหมด 8 รางวัล ซึ่งรวมถึงรางวัลใหญ่อย่าง ‘Grand Prix’ ด้วย
- แคมเปญ Sammakorn NOT Sanpakorn รางวัล ‘Grand Prix’ และ ‘Best Brand Story’
- แคมเปญ Best Taste by Nescafé RTD รางวัล ‘Brands & Creators’
- แคมเปญ GrabFood The Greatest Knockout รางวัล ‘Master of Media’
แคมเปญอื่นๆ ที่ชนะรางวัล
- Sobat Hemat (อินโดนีเซีย) รางวัล Best of Google AI
- No Drama, Just Quality Used Cars (สิงคโปร์) รางวัล The Big Bang
- Pepsi Brings Tet Home: The Journey of Significance (เวียดนาม) รางวัล The Long & Short
- Don’t Know? Kasih No! (อินโดนีเซีย) รางวัล Force for Good
- Forgiveness (มาเลเซีย) รางวัล Best of Festive
ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา