พาราไดซ์ พาร์ค ศูนย์การค้าในเครือเอ็ม บี เค ฉลองโฉมใหม่อย่างเป็นทางการ ปรับกลยุทธ์และคอนเซ็ปต์ใหม่ LIVING in HARMONY ใส่ใจการใช้ชีวิต กินดี อยู่ดี สุขภาพดี ผนึกพันธมิตรชั้นนำด้านสุขภาพ ร่วมสร้างประสบการณ์ครั้งสำคัญ ด้วยการเชื่อมโยงบริการด้านสุขภาพ สร้างเป็นแลนด์มาร์ค Health and Wellness แบบองค์รวม ขณะเดียวกันเสริมทัพด้วยแม็กเนตใหม่ ทั้งร้านค้าชั้นนำ ร้านอาหารดัง ๆ มาเปิดต่อเนื่อง และอัดแน่นด้วยกิจกรรมที่โดดเด่นที่น่าสนใจในทุก ๆ เดือน เชื่อจะเติมเต็มความสุข ตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์
วิจักษณ์ ประดิษฐวณิช ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้อำนวยการ บริษัท เอ็ม บี เค จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า สำหรับการรีโนเวท พาราไดซ์ พาร์ค ศูนย์การค้าในเครือเอ็ม บี เค ถือเป็นการปรับโฉมครั้งใหญ่ในรอบ 13 ปี พร้อมปรับกลยุทธ์และแนวคิดของศูนย์การค้าฯใหม่ทั้งหมด เพื่อมอบประสบการณ์ครั้งใหม่และครั้งสำคัญให้กับลูกค้าฝั่งกรุงเทพฯตะวันออกและพื้นที่ใกล้เคียง โดยเริ่มรีโนเวทพื้นที่ศูนย์การค้าฯทั้งหมดกว่า 260,000 ตารางเมตร ตั้งแต่ต้นปี 2566 ซึ่งใช้งบในการปรับโฉมรวมกว่า 1,000 ล้านบาท ทั้งรูปลักษณ์ดีไซน์บรรยากาศการตกแต่งภายในและภายนอกด้วยแนวคิด “Natural” รังสรรค์พื้นที่และปรับโซนภายในศูนย์การค้าฯใหม่ทั้งหมด ตกแต่งด้วยต้นไม้หลากหลายรูปแบบตามโซนต่าง ๆ ซึ่งนอกจากเพิ่มสุนทรียภาพให้กับลูกค้าที่มาใช้บริการแล้ว ยังให้ความรู้สึกผ่อนคลาย เข้าถึงง่าย ซึ่งแรงบันดาลใจในการตกแต่งนั้น เพื่อให้สอดคล้องกับโลเคชันของพาราไดซ์ พาร์ค ที่ตั้งอยู่พื้นที่ที่เป็น “ปอด” ของกรุงเทพตะวันออก อย่างสวนหลวง ร.9
พร้อมกันนี้ยังปรับกลยุทธ์และคอนเซ็ปต์ใหม่เป็น “LIVING in HARMONY ใส่ใจการใช้ชีวิต กินดี อยู่ดี สุขภาพดี” ด้วยการเชื่อมโยงการบริการด้านสุขภาพ สร้างให้เป็นแลนด์มาร์ค Health and Wellness แบบองค์รวม ทั้งการสร้างเสริม ป้องกัน ดูแล รักษา บำบัด ฟื้นฟู แบบครบวงจรในย่านศรีนครินทร์ เพื่อตอบโจทย์สังคมไทยในปัจจุบันที่ประชาชนดูแลใส่ใจสุขภาพกันมากขึ้น โดยผนึกพันธมิตรที่ให้บริการด้านสุขภาพ อย่าง โรงพยาบาลรามาธิบดี จัดตั้งศูนย์ดูแลสุขภาพครบวงจรนอกพื้นที่โรงพยาบาล คลินิกพรีเมียม รามาธิบดี เฮลธ์ สเปซ @พาราไดซ์ พาร์ค เพื่อให้ประชาชนในย่านศรีนครินทร์และพื้นที่ใกล้เคียง ได้เข้าถึงการดูแลสุขภาพและการบริการแพทย์ที่ครบวงจร โดยไม่ต้องเดินทางเข้าเมือง รวมทั้งคลินิกเฉพาะทาง อย่าง คลินิกสุขภาพใจ พิชญานิน คลินิก ศูนย์การได้ยินเดียร์ Dear Hearing S’RENE by SLC คลินิกสุขภาพสำหรับคนเมือง ที่ให้บริการด้านเวชศาสตร์ชะลอวัย และเร็ว ๆ นี้จะมี ศูนย์ไตเทียม มาเปิดอีกเช่นกัน นอกจากนี้ยังมีคลินิกสุขภาพและความงามครบวงจรด้วยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ ตลาดสมุนไพรพรีเมียม จำหน่ายผลิตภัณฑ์จากสมุนไพรที่ได้รับรางวัลสมุนไพรดีเด่นระดับชาติจากกระทรวงสาธารณสุขและการบริการทางแพทย์แผนไทย ร้านจำหน่ายของใช้ผู้สูงอายุ ศูนย์รวมจำหน่ายอุปกรณ์การแพทย์ และร้านจำหน่ายผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพ เป็นต้น
ขณะเดียวกันยังตอบสนองทุกไลฟ์สไตล์กับบริการที่ครบครันยิ่งขึ้นกว่า 500 ร้านค้า นอกจากร้านชั้นนำแล้ว ยังดึงร้านดัง ๆ หรือแบรนด์สินค้าใหม่ ๆ มาเปิดให้บริการ เพื่อเพิ่มความหลากหลาย และตอบโจทย์การใช้ชีวิตของทุกกลุ่มไม่ว่าจะเป็น
- Dining Paradise Zone ชั้น G และชั้น 1 ศูนย์รวมร้านอาหาร ร้านอร่อย ๆ ชื่อดังมากมายทั้ง สีฟ้า (SEE FAH) หงเปา (Hong Bao) ลัคกี้ สุกี้ (Lucky Suki) ลัคกี้ บาร์บีคิว (Lucky BBQ) มากุโระ (MAGURO) ฮิโตริ (HITORI) สลัดแฟคทอรี่ (Salad Factory) มี่เสวี่ย (MIXUE) ร้านไอศกรีมเจ้าดังจากจีน หรือตลาดติดแอร์อย่าง เสรีมาร์เก็ต ซูเปอร์มาเก็ตชั้นนำ วิลล่า มาร์เก็ท และเร็ว ๆ นี้จะมีร้านอาหารที่จะเปิดใหม่อย่าง เรือนแม่หลุยส์ ชาวเลซีฟู้ดส์ และลิตเติ้ล ลาว (Little LAO) เป็นต้น
- Service Paradise Zone ชั้น G พบกับการบริการมากมายทั้ง จุดบริการด่วนมหานคร (BMA Express Service) บริการซ่อมกุญแจและรองเท้า
-
- Jewelry Paradise Zone ชั้น G และชั้น 1 แหล่งรวมร้านทอง ร้านค้าเครื่องประดับ
- Fashion Paradise Zone ชั้น 1 พบกับร้านเสื้อผ้าแบรนด์ชั้นนำ H&M ร้านกระเป๋าชื่อดัง นารายา (NaRaYa) ร้านรองเท้า D’arte (ดาร์เต้) และร้านเสื้อผ้าแฟชั่นสุดชิค เป็นต้น
- Lifestyle Paradise Zone ชั้น 1 และ ชั้น 2 ศูนย์รวมแฟชั่น เสื้อผ้า ให้เลือกหลากหลายสไตล์
- Creative Living Paradise Zone ชั้น 1 และ 2 เพิ่มความสุขให้คนรักบ้านกับสินค้าและอุปกรณ์ตกแต่งบ้านจากร้านชั้นนำ อย่าง โฮมโปร (HomePro) ร้านเฟอร์นิเจอร์ Jas Gallery
- Bank & Insurance ชั้น 2 รวบรวมสถาบันการเงินชั้นนำที่ให้บริการอย่างครบครัน
- Digital Paradise Zone ชั้น 2 ครบทุกเรื่องกับสินค้าด้านเทคโนโลยี อิเล็กทรอนิกส์ มือถือ และแกดเจ็ตแบรนด์
- Beauty & Wellness Paradise ชั้น 3 บริการด้านสุขภาพและความงามที่ครบครัน
- Education Paradise Zone ชั้น 3 และ 4 สถาบันกวดวิชาชื่อดังและสถาบันสอนภาษาชั้นนำกว่า 40 สถาบัน
- Side Walk Zone ที่มีร้านบริการอาบน้ำสัตว์เลี้ยงและอุปกรณ์สำหรับสัตว์เลี้ยง ร้านรองเท้าและอุปกรณ์กีฬา เป็นต้น
วิจักษณ์ กล่าวเพิ่มเติมว่า หลังจากที่ปรับโฉมใหม่ ตอนนี้ลูกค้าที่มาใช้บริการอยู่ประมาณ 50,000 คนต่อวัน นอกจากการจับมือพันธมิตรรายใหญ่ด้านสุขภาพ และร้านค้าชื่อดังมากมาย มาเสริมความ แข็งแกร่งเพื่อเป็นแม่เหล็กดึงลูกค้า กระตุ้นทราฟฟิกแล้ว การจัดกิจกรรมอีเว้นต์เป็นอีกหนึ่งจิ๊กซอว์สำคัญเช่นกัน ซึ่งกลุ่มลูกค้าส่วนใหญ่ของเราจะเป็นกลุ่มคนวัยทำงาน ครอบครัว และผู้สูงวัย เราจึงสร้างสรรค์กิจกรรมที่โดดเด่นและน่าสนใจในทุก ๆ เดือน เพื่อมอบความสุขและความผ่อนคลายสำหรับทุกคนในครอบครัว รวมทั้งการจัดกิจกรรมที่รองรับกลุ่มผู้สูงอายุได้มาเพลิดเพลินกับการใช้เวลาว่างหลังเกษียณ พบปะหรือมาร่วมพูดคุย สร้างความผ่อนคลายร่วมกัน นอกจากนี้การเดินทางและเส้นทางคมนาคมที่มีความหลากหลายและสะดวกสบาย ซึ่งตอนนี้มีรถไฟฟ้าสายสีเหลือง (ลาดพร้าว-สำโรง) ตัดผ่าน ช่วยดึงดูดให้คนเข้ามาใช้บริการศูนย์การค้าฯ ได้เช่นกัน
“มั่นใจว่าการพลิกโฉมครั้งใหม่และครั้งใหญ่ของพาราไดซ์ พาร์ค จะสร้างประสบการณ์ใหม่ของพาราไดซ์ พาร์ค ที่แตกต่างไปจากเดิม เพราะเราได้เติมเต็มพื้นที่แห่งนี้ให้เต็มด้วยความสุข กับการใช้ชีวิตดี ๆ ไม่ว่าจะเป็น กินดี ให้คุณอิ่มอร่อยร้านอาหารมากมาย อยู่ดี เพลิดเพลินกับสินค้าคุณภาพที่ตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์รวมทั้งกิจกรรมมากมายสำหรับทุกคนในครอบครัว และ สุขภาพดี กับหลากหลายบริการด้านสุขภาพแบบองค์รวมที่พร้อมดูแลคุณทั้งร่างกายและจิตใจ ตลอดจนการเดินทางที่สะดวกสบายยิ่งขึ้น โดยสามารถเดินทางด้วยรถไฟฟ้า MRT สายสีเหลือง สามารถลงสถานี สวนหลวง ร.9 ทางออก 2 และเชื่อมต่อเข้าศูนย์การค้าฯ เรียกว่าเราต้องการมอบคุณภาพชีวิตที่ดีให้แก่ลูกค้าของเราทุกคน”
ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา