ในยุคที่มีแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียมากมาย เคยสงสัยกันไหมว่าในฐานะพ่อค้าแม่ค้าหรือเจ้าของเพจ เราต้องยิงแอดบนแพลตฟอร์มไหนถึงจะคุ้มค่าโฆษณามากที่สุด?
ล่าสุด ‘Meta’ ได้ร่วมมือกับ ‘Kantar’ ในการทำวิจัยภายใต้หัวข้อ ‘Maximizing Ad Effectiveness in Southeast Asia’ หรือ ‘สร้างประสิทธิภาพสูงสุดจากแคมเปญโฆษณาในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้’ เพื่อช่วยให้ธุรกิจเข้าใจผลกระทบต่อค่าใช้จ่ายทางการตลาดได้ดีขึ้น ผ่านการวัดประสิทธิภาพของช่องทางต่างๆ ในการขับเคลื่อนแคมเปญการตลาด
จากการวิเคราะห์ 10 แคมเปญโฆษณาของกลุ่มธุรกิจสินค้าอุปโภคบริโภค ในประเทศไทย อินโดนีเซีย ฟิลลิปปินส์ และเวียดนาม ทั้งในแง่ของประสิทธิภาพยอดขาย ไปจนถึงจำนวนการเข้าถึง (Reach) กลุ่มเป้าหมาย พบว่า แคมเปญโฆษณาบนแพลตฟอร์มของ Meta ช่วยสร้าง ‘Conversion’ อย่างมีประสิทธิภาพ และคุ้มค่าเม็ดเงินโฆษณามากที่สุด
‘คุณ คิชอร์ ภัทรสารดี’ ผู้อำนวยการด้านวิทยาการการตลาดของ Meta ประจำภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ กล่าวว่า “ผลการศึกษาล่าสุดจาก Kantar ทำให้เราวัดผลได้อย่างครบวงจร และนำเสนอผลตอบแทนจากการลงทุน, การเข้าถึง และพฤติกรรมของนักช็อปอย่างชัดเจน เพื่อให้ลูกค้าและพันธมิตรสามารถนำไปวางแผนกลยุทธ์การตลาด และการสร้างสรรค์แคมเปญที่มีประสิทธิภาพสูงสุดต่อไปได้”
ยิงแอดกับ Meta มีประสิทธิภาพ ผลตอบแทนสูง ต้นทุนต่ำ
จากการศึกษาและการวิเคราะห์เชิงเปรียบเทียบด้านประสิทธิภาพของแคมเปญโฆษณาบนแพลตฟอร์ม Meta และแพลตฟอร์มดิจิทัลอื่นๆ สามารถสรุปประเด็นออกมาได้ดังนี้
1. ผลตอบแทนค่าโฆษณาบนแพลตฟอร์ม Meta สูงกว่าแพลตฟอร์มดิจิทัลอื่นๆ และสื่อโทรทัศน์
งานวิจัยพบว่า แคมเปญที่ดำเนินการบนแพลตฟอร์มของ Meta มีมูลค่าผลตอบแทนจากค่าโฆษณา (Return on Ad Spend) สูงสุดถึง 1.8 เท่า หรือคิดเป็น 16% ของยอดขาย โดยมีส่วนแบ่งการใช้จ่ายเพียง 10% ทั้งยังเป็นยอดที่สูงกว่าแพลตฟอร์มอื่นๆ รวมถึงสื่อโทรทัศน์ด้วย
2. ระดับ Conversion สูงสุดบนแพลตฟอร์มของ Meta
Meta มี Conversion สูงสุดอยู่ที่ 22% ตามด้วยโทรทัศน์ 20% และสื่อดิจิทัลอื่นๆ 13% ซึ่งหมายความว่า 1 ใน 5 ของผู้บริโภคได้ตัดสินใจซื้อสินค้าจริงๆ เมื่อเห็นโฆษณาบนแพลตฟอร์มของ Meta
* Valuable Reach = สัดส่วนการเข้าถึงลูกค้าที่มีการซื้อจริงบนแพลตฟอร์ม
3. แพลตฟอร์มของ Meta มียอดการเข้าถึง (Reach) สูงสุด
แคมเปญโฆษณาบนแพลตฟอร์มของ Meta มียอดการเข้าถึงประมาณ 59% โดยมีสัดส่วนใกล้เคียงกับ Reach สูงสุดของโทรทัศน์ และมากกว่าแพลตฟอร์มดิจิทัลอื่นๆ (43%) ทั้งนี้ Meta ยังสามารถเพิ่ม Incremental Reach ได้มากกว่าช่องทางดิจิทัลอื่นๆ ถึง 4%
สำหรับแคมเปญโฆษณาที่อยู่บนแพลตฟอร์มของ Meta และมีการทำการตลาดผสมผสานกับสื่อโทรทัศน์ จะมียอดขายเพิ่มขึ้น 12% และเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายเดียวกันกับสื่อโทรทัศน์ได้เพิ่มอีก 43% ในขณะที่การผสมผสานระหว่างสื่อโทรทัศน์และแพลตฟอร์มดิจิทัลอื่นๆ จะสามารถเพิ่มยอดขายและการเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้เพียง 8% และ 33% ตามลำดับเท่านั้น
4. Meta เข้าถึงกลุ่มลูกค้าใหม่ด้วยต้นทุนที่ต่ำที่สุด
การทำแคมเปญบนแพลตฟอร์มของ Meta สามารถเพิ่มผู้ซื้อใหม่ได้มากว่าแพลตฟอร์มดิจิทัลอื่นๆ โดยมีต้นทุนต่ำสุดอยู่ที่ 3.9 ดอลลาร์สหรัฐฯ (140 บาท) ต่อลูกค้าใหม่หนึ่งคน
นอกจากนี้ Meta ยังเป็นผู้นำด้านการเพิ่มยอดขายด้วยสื่อดิจิทัลในหมู่คนรุ่นใหม่ อย่าง Gen Z และ Gen Y ที่นับเป็น 44% ของยอดขายในช่องทางออนไลน์
ตลาด SEA กำลังมาแรง ธุรกิจควรหาช่องทางให้เข้าถึงลูกค้ากลุ่มนี้
ภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ (SEA) เป็นตลาดที่เติบโตอย่างรวดเร็ว ทั้งยังมีขนาดเศรษฐกิจใหญ่เป็นอันดับ 5 ของโลก ด้วย GDP รวมราวๆ 4 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐฯ และมีการคาดการณ์ว่าในอีก 10 ปีข้างหน้า สภาพเศรษฐกิจจะโตกว่านี้อีก 1.6 เท่า
นอกจากนี้ พฤติกรรมผู้บริโภคในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้กำลังเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว
จากงานวิจัย ผู้บริโภคใช้เวลาดูสื่อต่างๆ ผ่านช่องทางดิจิทัลถึง 70% และมีการใช้สองหน้าจอในเวลาเดียวกันมากกว่า 59% โดยเป็นการดูโฆษณาบนสมาร์ทโฟนควบคู่ไปกับการดูโทรทัศน์ไปด้วย
ส่วนในกลุ่มสื่อดิจิทัล แน่นอนว่า โซเชียลมีเดียมีบทบาทมากขึ้นอย่างเห็นได้ชัด เนื่องจากผู้บริโภคกลุ่ม Gen Z และ Gen Y ต่างใช้แพลตฟอร์มเหล่านี้เพื่อค้นหาข้อมูลเกี่ยวกับแบรนด์กลุ่มสินค้าอุปโภคบริโภค
ดังนั้น ฝั่งธุรกิจควรหาช่องทางที่เหมาะสมในการเข้าถึงผู้บริโภค และเพิ่มประสิทธิภาพการจัดทำงบประมาณทางการตลาด เพื่อให้แบรนด์สามารถดึงดูดลูกค้าในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ที่กำลังเติบโตอย่างต่อเนื่องได้
‘ฮาร์เรียท ซิงห์’ หัวหน้ากลุ่มสื่อและดิจิทัลประจำภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกของ ‘PepsiCo’ เผยว่า “เราได้ใช้ผลการศึกษาด้านพฤติกรรมผู้บริโภคผสานกับแพลตฟอร์มของ Meta ในการออกแบบประสบการณ์ของแบรนด์ แนวทางนี้ตอบสนองความต้องการของกลุ่มเป้าหมายเราได้อย่างดี และยังสามารถสร้างการมีส่วนร่วมที่มากขึ้นจากผู้บริโภค อีกทั้งยังช่วยสร้างการเติบโตให้ธุรกิจอย่างยั่งยืนด้วย”
หากต้องการเรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับผลศึกษานี้ สามารถเข้าดูและดาวน์โหลดได้ที่: Kantar
ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา