การแข่งขันฟุตบอล Euro 2024 จะเริ่มขึ้นในวันนี้แล้ว คนไทยรับชมได้ผ่านช่องฟรีทีวีประกอบด้วย อสมท., ไทยรัฐทีวี และพีพีทีวี กับโทรทัศน์แบบบอกรับสมาชิกอันดับ 1 ในไทยอย่าง ทรูวิชั่นส์ แต่กว่าจะได้บทสรุปนี้ คนไทยก็ต้องรอจนถึง 1 สัปดาห์ก่อนการแข่งขันดังกล่าวเริ่มขึ้น
ถ้าให้สรุปถึงเหตุการณ์นี้ในมุมธุรกิจ ผู้ลงทุนการซื้อลิขสิทธิ์ครั้งนี้ที่เซ็งที่สุดคงไม่พ้น ทรูวิชั่นส์ เพราะเมื่อประกาศว่าได้ลิขสิทธิ์ช่วงปลายเดือน พ.ค. 2024 ก็หวังจะขายแพ็กเกจการรับชม และแพ็กเกจโฆษณาให้กับแบรนด์ต่าง ๆ ที่สนใจ แต่ถัดจากนั้นไม่กี่วัน แอโร่ซอฟ ร่วมมือกับรัฐบาล และบริษัทเอกชน ว่าตนก็ได้ลิขสิทธิ์มาเหมือนกัน
แต่ แอโร่ซอฟ นั้นเปิดให้รับชมแบบฟรี ๆ ไม่ต้องมาเสียค่าแพ็กเกจ แถมยังต่างกับ Euro 2020 ที่ แอโร่ซอฟ ก็ได้ลิขสิทธิ์เหมือนกัน เพราะคราวนี้มีบริษัทเอกชนมาช่วยสนับสนุน Brand Inside อยากชวนผู้อ่านมาศึกษากลเกม Euro 2024 ในประเทศไทย ที่งานนี้ต้องมีคนเจ็บแน่ ๆ ดังนี้
ทรู เปิดก่อนด้วยแพ็กเกจเริ่มต้น 249 บาท
วันที่ 31 พ.ค. 2024 ทรูวิชั่นส์ ประกาศว่า บริษัทได้ลิขสิทธิ์ฟุตบอลรายการ Euro 2024 ครบ 51 แมตช์ พากย์โดยทีมงานของทรูนำโดย น้าหัง – อัฐชพงษ์ สีมา แต่การรับชมต้องซื้อแพ็กเกจ Now Plus บนแอปพลิเคชัน TrueVisions Now ราคา 249 บาท/เดือน ยกเว้นผู้สมัครแพ็กเกจทรูวิชั่นส์ผ่านดาวเทียม และเคเบิ้ลเดิมจะได้ดูฟรี
งานนี้ทรูวิชั่นส์คงหวังว่าจะขายแพ็กเกจดังกล่าวให้กับแฟนฟุตบอลที่ต้องการรับชมการแข่งขันรายการนี้ รวมถึงขายโฆษณาให้กับแบรนด์ต่าง ๆ ที่สนใจด้วย โดย องอาจ ประภากมล หัวหน้าผู้บริหารหน่วยงานทรูวิชั่นส์ และมีเดีย บมจ. ทรู คอร์ปอเรชั่น ได้แจ้งเอาไว้ว่า
“สมาชิกทรูวิชั่นส์จะได้ชม เชียร์ กีฬาที่ชื่นชอบอย่างเต็มอิ่มเหมือนรับชมอยู่ขอบสนาม เรียกได้ว่าที่สุดของกีฬาต้องทรูวิชั่นส์ที่เดียว ตอกย้ำความแข็งแกร่งด้านคอนเทนต์กีฬาภายใต้คอนเซ็ปต์ คิง ออฟ สปอร์ต มุ่งเดินหน้าสรรหาคอนเทนต์กีฬายอดนิยมจากทั่วทุกมุมโลกที่คอกีฬาชื่นชอบมานำเสนอให้กับสมาชิก และแฟนกีฬาอย่างต่อเนื่อง”
แอโร่ซอฟ ตามด้วยการรับชมแบบฟรี ๆ
การประกาศดังกล่าวของทรูวิชั่นส์เหมือนจะเงียบ ๆ และไม่ได้เป็นกระแสนักในหน้าสื่อ เพราะคนไทยอาจไม่รู้ว่ามีผู้ซื้อลิขสิทธิ์ฟุตบอลยูโร 2024 มาให้รับชมแล้ว แต่ในวันที่ 6 มิ.ย. 2024 เกิดสิ่งที่ทรูไม่อยากให้เกิด นั่นคือ แอโร่ซอฟ แบรนด์รองเท้าของคนไทย ร่วมมือกับรัฐบาล และบริษัทเอกชน ประกาศถ่ายทอดสดฟุตบอลรายการนี้ผ่านฟรีทีวี
ขึ้นชื่อว่าฟรีทีวีนั่นคือ รับชมฟรี นั่นเอง แถมยังมี บมจ. ปตท., บมจ. ไทยเบฟเวอเรจ, บมจ. ท่าอากาศยานไทย และ บมจ. การบินกรุงเทพ เป็นองค์กรเอกชนเข้ามาสนับสนุนการถ่ายทอดครั้งนี้ โดยจากข้อมูลทางการของยูโร 2024 พบว่า 3 ช่องที่ถ่ายทอดประกอบด้วย อสมท., ไทยรัฐทีวี และพีพีทีวี ทั้งหมดนี้ล้วนแพร่ภาพด้วยความคมชัดสูง
ทรูวิชั่นส์ และแอโร่ซอฟ ไม่ได้แจ้งว่าซื้อลิขสิทธิ์ฟุตบอลยูโร 2024 มาเท่าไร แต่ โกมล จึงรุ่งเรืองกิจ เจ้าของแอโร่ซอฟ เปรยว่า ลิขสิทธิ์ดังกล่าวราคาสูงกว่าครั้งก่อนเล็กน้อย โดยหากอ้างอิงข้อมูลเดิมจะพบว่า ค่าลิขสิทธิ์ที่แอโร่ซอฟซื้อฟุตบอลยูโร 2020 อยู่ที่ 10 ล้านยูโร หรือราว 300 ล้านบาท
เอไอเอส มาแจมถ่ายทอดยูโร 2024 ด้วย
ต่อด้วยวันที่ 12 มิ.ย. 2024 รุ่งทิพย์ จารุศิริพิพัฒน์ กรรมการผู้จัดการพันธมิตรธุรกิจด้านบันเทิง และคอนเทนต์ บมจ. แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส หรือ เอไอเอส แจ้งว่า บริษัทภูมิใจที่ได้ทำหน้าที่เป็นส่วนหนึ่งในการสนับสนุนภารกิจรัฐบาลในการมอบความสุขให้ชาวไทย เพราะคนไทยสามารถชมการถ่ายทอดสดฟุตบอลยูโร 2024 ได้ทุกนัด
การรับชมนั้นจะทำผ่าน กล่อง AIS PLAYBOX และ กล่อง GIGA TV (กล่องของ 3BB) โดยไม่มีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม ซึ่งจะเป็นการส่งผ่านสัญญาณจากช่องฟรีทีวีที่ได้รับสิทธิ์ เริ่มตั้งแต่วันที่ 14 มิ.ย. 2024 เป็นต้นไป ส่วนแอปพลิเคชัน AIS PLAY จะไม่สามารถรับชมได้ เนื่องจากมีเงื่อนไขด้านลิขสิทธิ์
เรียกว่าเป็นการเข้ามาแจมแกมซ้ำเติมทรูวิชั่นส์ เพราะก่อนหน้านี้เอไอเอสเคยจอดำในกล่อง AIS PLAYBOX กรณีที่ทรูมีส่วนในการสนับสนุนลิขสิทธิ์ฟุตบอลโลก และไม่ให้ถ่ายทอดผ่านช่องทาง IPTV ที่ไม่ใช่ของตัวเอง แต่ก็เป็นการเอาคืนกันไปมา เพราะกล่อง IPTV กล่องทรูก็เคยจอดำในกรณีที่เอไอเอส ซื้อลิขสิทธิ์โอลิมปิก 2020 เหมือนกัน
แต่เจ็บกว่าทรูคงไม่พ้นผู้ซื้อโฆษณากับทรู
จากเรื่องราวทั้งหมด ทรูคงเจ็บไม่น้อย เพราะจากเดิมคาดหวังจะขายแพ็กเกจให้แฟนบอลรับชมแบบสบาย ๆ ก็มาเจอช่องฟรีทีวีแย่งการรับชมไป เพราะนอกจากทีมพากย์ อาจมีแค่รายการวิเคราะห์ก่อนเกม และหลังการแข่งขัน 30 นาที การรับชมแบบรีรันได้ทุกคู่ ที่สำคัญถึงผู้ชมจะได้สมัครแพ็กเกจ ก็รับชมการแข่งขันผ่านช่องฟรีทีวีได้
ทรูอาจซื้อลิขสิทธิ์มาแบบไม่เอกซ์คลูซิฟ และไม่คิดว่าจะมีจะมีนายทุนคนไหนมาซื้อซ้อนอีกราย เล่นเอาแผนที่วางเอาไว้นั้นพังหมด แต่ที่เซ็งที่สุดก็คงไม่พ้นแบรนด์ที่เข้ามาซื้อแพ็กเกจโฆษณากับทรูเพื่อมีพื้นที่ในการแข่งขันนี้ ซึ่งมีรายงานว่าตัวเลขของการสนับสนุนนั้นอยู่ที่รายละหลักล้านเลยทีเดียว
ที่บอกว่าเซ็งที่สุดเพราะจากเดิมที่แบรนด์เหล่านั้นจะมีโอกาสถูกมองเห็นจากแฟนบอลที่รับชมผ่านช่องทางของทรู แต่สุดท้ายจำนวนผู้ชมอาจมีไม่เท่าที่คาดหวังไว้ เพราะแฟนบอล หรือคนที่อยากดูการแข่งขันนี้ก็คงเลือกช่องทางที่ง่ายที่สุดอย่างฟรีทีวีอยู่ดี
ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา