P&G หรือ Procter and Gamble Trading (Thailand) เป็นบริษัทผู้ผลิตสินค้าอุปโภคบริโภครายใหญ่ของโลก รวมถึงในไทย ที่ตอนนี้ทำธุรกิจมาครบ 30 ปีในไทยแล้ว เชื่อว่าหลายคนต้องใช้สินค้าในบ้าน ถ้านึกไม่ออก เช่น แพนทีน, เฮด แอนด์ โชว์เดอร์, โอเลย์, ยิลเลตต์, ออรัล-บี, ดาวน์นี่ และ แพมเพิร์ส
และในโอกาสครบ 30 ปี ลองมาดูกันว่า P&G จะมีความเคลื่อนไหวทางธุรกิจอย่างไรต่อไป
ตั้งเป้าเติบโต 50% ใน 3 ปี เชื่อไทยมีศักยภาพ
ราฟฟี่ ฟาร์ฮาโด กรรมการผู้จัดการของ P&G ประเทศไทย บอกว่า P&G เตรียมขับเคลื่อนองค์กรภายใต้แนวคิด We Grow Together เน้น นวัตกรรม, ความเป็นผู้นำ และเป็นพลเมืองที่ดีของสังคม เน้นกลยุทธ์ความเป็น The Best ใน 3 เรื่อง คือ พัฒนาบุคลากรภายใน, ประสานกับพันธมิตร ทั้งคู่ค้าและลูกค้า, พัฒนาองค์อย่างยั่งยืน
ตามแผนดังกล่าว ตั้งเป้าว่า P&G จะมียอดขายเติบโตขึ้น 50% ภายใน 3 ปี หรือปี 2020 โดยที่ยังมีแนวทางขยายธุรกิจในอนาคต เช่น การรุก e-Commerce จากปีที่ผ่านมา เริ่มทดลองตลาดด้วยผลิตภัณฑ์แพมเพิร์ส และได้รับการตอบรับที่ดี ปีนี้จะศึกษาตลาดเพิ่มเติมอีก
รวมถึงการขยายสินค้าใหม่ๆ ในกลุ่มผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดผ้า โดยใช้แบรนด์ ดาวน์นี่ (Downny) แตกไลน์เป็น น้ำยาซักผ้า และได้รับการตอบรับอย่างดีจากผู้ใช้
ตลาดไทยแข่งเดือด ห้ำหั่นราคา สุดท้าทาย ในภูมิภาค
ในมุมมองของ P&G เห็นว่า ปกติแล้วตลาดประเทศกำลังพัฒนาจะมีการเติบโตที่ดีในกลุ่มสินค้าอุปโภคบริโภค มากกว่า 10% แน่นอนในทุกประเภท แต่ประเทศไทยกลับแตกต่าง เพราะปีที่ผ่านมาตลาดทรงตัวไม่เติบโต ยิ่งทำให้การแข่งขันหนักมาก มีโปรโมชั่นลดราคาต่อเนื่องทั้งปี
ฟาร์ฮาโด บอกว่า P&G จะไม่เน้นเรื่องการลดราคาเพราะไม่ใช่แนวทางการทำธุรกิจที่ยั่งยืน ในทางกลับกันจะเน้น 3 เรื่องเพื่อสร้างการเติบโตทางธุรกิจ คือ 1. เน้นทำตลาดสินค้าพรีเมียมมากขึ้น ซึ่งผู้บริโภคไทยเปลี่ยนไปใช้สินค้าคุณภาพมากขึ้น 2. เพิ่มขนาดและปริมาณให้มากขึ้น เป็นแนวโน้มของคนไทยชัดเจน นิยมซื้อขนาดและปริมาณใหญ่ วึ่งใช้ได้นานกว่าและประหยัดกว่า 3. เพิ่มการใช้ผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ เช่น ผลิตภัณฑ์ดูแลเส้นผม คอนดิชันเนอร์ เป็นต้น
“สินค้ากลุ่มดูแลเส้นผม hair care เช่น แพนทีน เฮด แอนด์ โชว์เดอร์ ถือว่าเป็นสินค้าที่ทำรายได้มากที่สุดของ P&G แต่ผู้บริโภคใช้ยาสระผมมาก แต่ยังใช้คอนดิชันเนอร์น้อย นี่คือสิ่งที่สามารถขยายตลาดได้”
สรุป
หลังจากเงียบหายจากหน้าสื่อไปาน P&G เริ่มกลับมาออกสื่ออีกครั้ง และการตั้งเป้าเติบโตในรอบ 3 ปีจากนี้ เชื่อว่าจะเห็นแผนการตลาดที่หนักขึ้น พร้อมรับการแข่งขันในตลาดสินค้าอุปโภคบริโภค
ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา