โอสถสภา มองเห็นการเติบโตของธุรกิจ เพอร์ซันนัลแคร์และโฮมแคร์ โตอย่างต่อเนื่อง ล่าสุดปูพรมรุกตลาด เน้นใช้นวัตกรรมคิดค้นและต่อยอดจุดแข็ง พร้อมขยายพอร์ตโฟลิโอสินค้าให้ครอบคลุมผู้บริโภคกลุ่มใหม่ๆ พร้อมขยายช่องทางการจัดจำหน่าย ตั้งเป้าผลิตภัณฑ์กลุ่มเพอร์ซันนัลแคร์เติบโต 4 พันล้าน ภายในปี 2570
สุทิพา ปัญญามหาทรัพย์ Chief Home & Personal Care and Health Care Officer เปิดเผยว่า ตลาดผลิตภัณฑ์เพอร์ซันนัลแคร์และโฮมแคร์ โดยเฉพาะผลิตภัณฑ์สำหรับแม่และเด็กมีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง เช่นเดียวกันกับตลาดผลิตภัณฑ์ของใช้ส่วนบุคคลมีเทรนด์กลับมาเติบโตหลังสถานการณ์โควิด-19 คลี่คลาย โดยโอสถสภา นำจุดเด่นของสินค้าที่โดดเด่นเรื่องด้านความอ่อนโยนและความหอมอย่าง ‘เบบี้ มายด์’ ที่อยู่ในกลุ่ม House of Mildness ครองส่วนแบ่งการตลาดมากถึง 38.3% ก็ได้ปรับให้ Brand proposition ใหม่ “The Power of Gentle Touch พลังสัมผัสอันอ่อนโยน สานสัมพันธ์ให้แข็งแรง” เพื่อสื่อถึงความสำคัญของพลังสัมผัสอันอ่อนโยนของแม่จากการทำกิจวัตรประจำวันง่ายๆที่คุณแม่สามารถทำได้ทุกวัน
หรือกลุ่มเป้าหมายใหม่ของ ‘เบบี้ มายด์’ โดยเฉพาะกลุ่ม วัยรุ่น วัยทำงาน ตลอดจนกลุ่ม silver generation ได้ออกผลิตภัณฑ์ในกลุ่มแบรนด์ ‘อัลตร้ามายด์ บาย เบบี้มายด์’ สินค้าครอบคลุมตั้งแต่ ครีมอาบน้ำสำหรับผู้ใหญ่ ผลิตภัณฑ์ปรับผ้านุ่ม ผลิตภัณฑ์ล้างจาน และล่าสุด ผลิตภัณฑ์สำหรับทำความสะอาดจุดซ่อนเร้น ได้ผลตอบรับที่ดีมาก ทั้งหมดนี้ ทำให้ ‘เบบี้ มายด์’ ครองตำแหน่งสินค้าผลิตภัณฑ์อาบน้ำและดูแลผิวเด็กยอดขายอันดับ 1 (วัดจากยอดขายร้าน official store) บนแพลตฟอร์ม Lazada และ Shopee โตขึ้นถึง 7 เท่า (693%) นับจากปีแรกที่เริ่มขายบนช่องทางอีคอมเมิร์ซ
ในส่วนของสินค้ากลุ่ม House of Beauty แบรนด์ ‘ทเวลฟ์พลัส’ และ ‘เอ็กซิท’ เป็นหัวเรือมีการเติบโดอย่างต่อเนื่อง โดย ‘ทเวลฟ์พลัส’ เป็นผู้นำอันดับ 2 ในกลุ่มผลิตภัณฑ์ลูกกลิ้งระงับกลิ่นกายสำหรับผู้หญิง ด้วยส่วนแบ่งตลาด 10.7% ด้าน ‘เอ็กซิท’ ตั้งเป้าหมายเป็นผู้นำตลาดอันดับ 2 กลุ่มผลิตภัณฑ์โรลออนสำหรับผู้ชาย
วางกลยุทธ์การตลาดขยายการเติบโตทั้งกลุ่มผลิตภัณฑ์แม่และเด็ก และกลุ่มผลิตภัณฑ์ความงาม เพื่อครองใจกลุ่มเป้าหมายหลักอย่างเหนียวแน่นและพร้อมขยายสู่กลุ่มเป้าหมายใหม่ ล่าสุดได้ออกผลิตภัณฑ์ใหม่ “ทเวลฟ์พลัส โรลออน สมูท เรเดียนซ์ ไฮยา” ที่มาพร้อมเทคโนโลยีนำสมัย Hy-N (ไฮ-เอ็น) นวัตกรรมไบโอพอลิเมอร์ ช่วยนำส่งส่วนผสมให้มีประสิทธิยิ่งขึ้น ซึ่งเป็นการพัฒนาร่วมกับแนบโซลูท (Nabsolute) สตาร์ทอัพก่อตั้งโดยทีมงานวิจัยที่มีความรู้จากคณะเภสัชศาสตร์จากจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย นอกจากนี้ ยังมีการพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ร่วมกับช่องทางการขายแบบเอ็กซ์คลูซีฟอื่นๆ เช่น Twelve Plus Brightening Perfume Lotion โลชั่นน้ำหอมกลิ่นเคาน์เตอร์แบรนด์ในราคาที่เข้าถึงได้ มีวางจำหน่ายในร้านวัตสันเท่านั้น รวมถึงการ collab ข้ามแบรนด์ของ ทเวลฟ์พลัส กับ เบบี้มายด์ เป็นผลิตภัณฑ์โคโลญกลิ่นแป้งเด็ก วางจำหน่ายแบบเอ็กซ์คลูซีฟในร้านเซเว่นอีเลฟเว่นซึ่งประสบความสำเร็จเป็นอย่างมาก
สุดท้ายบริษัทฯ เชื่อว่าการนำแบรนด์ที่มีความแข็งแกร่งขยายไปยังกลุ่มสินค้าใหม่ที่ตอบโจทย์ความต้องการในตลาดที่มีศักยภาพ ไม่ว่าจะเป็น ผลิตภัณฑ์ที่มีความอ่อนโยนสำหรับผู้ใหญ่ ผลิตภัณฑ์ที่ใช้ส่วนผสมจากธรรมชาติ และผลิตภัณฑ์สำหรับกลุ่มผู้สูงอายุ แตกไลน์สินค้าและออกผลิตภัณฑ์ใหม่สำหรับทุกคนในครอบครัวที่ต้องการผลิตภัณฑ์ที่มีความอ่อนโยน รองรับโอกาสทางการตลาดที่ยังคงเติบโตต่อเนื่อง พร้อมแผนกลยุทธ์เพื่อรักษาความเป็นผู้นำที่แข็งแกร่ง ครองใจกลุ่มเป้าหมายหลักอย่างเหนียวแน่น และขยายสู่กลุ่มเป้าหมายใหม่ๆ เพื่อชิงส่วนแบ่งการตลาดในเซ็กเมนต์อื่นๆ ตามแผนยุทธศาสตร์การเติบโตระยะยาวของโอสถสภา
ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา