ครบรอบ 95 ปี Jubilee Diamond เปิดตัว แอฟ ทักษอร เป็นพรีเซนเตอร์คนแรก เดินหน้าทุ่ม 100 ล้านบาท ขยายสาขาและรีโนเวตเพิ่ม
เป้าหลักปีนี้ ขยายฐานลูกค้าให้กว้างขึ้น สื่อสารให้ชัดเจนมากยิ่งขึ้น ส่วนประเด็นเรื่องเพชรจากห้องแล็บไม่มีผลกระทบใดๆ
อัญรัตน์ พรประกฤต ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ยูบิลลี่ เอ็นเตอร์ไพรส์ จำกัด (มหาชน) เล่าถึงแคมเปญปี 2024 ว่า เป็นปีที่ชูมาตรฐานแบรนด์ระดับ World Class Standard โดยระบุว่า นี่คือสิ่งที่เราเป็นอยู่แล้ว แต่มาพูดให้ชัดเจนขึ้น โดยปีนี้โฟกัสในการใช้ Presenter Marketing
ทางยูบิลลี่เชื่อว่า เดิมสิ่งที่เราเป็น ถ้าเราได้บุคคลที่มีชื่อเสียง เป็นที่ยอมรับ จะทำให้คนอยากฟังเรื่องแบรนด์มากยิ่งขึ้น ถ้าเราพูดเองอาจจะพูดได้เฉพาะกลุ่มใดกลุ่มหนึ่ง แต่ถ้าได้บุคคลที่มีคนยอมรับ คนจะฟังมากขึ้นในวงกว้าง เรานำเข้าจากแหล่งเจียระไนที่ดีที่สุดของโลกคือประเทศเบลเยียม ส่วนเรื่องกรรมวิธีการผลิต ทำงานกับญี่ปุ่น ซึ่งเชี่ยวชาญเรื่องความละเอียด ประณีตในการขึ้นรูปตัวประดับ ถือว่าเป็นระดับ World Class ทั้งวัตถุดิบและกรรมวิธีการผลิต
ปัจจุบัน บริษัท ยูบิลลี่ มีทั้งหมด 131 สาขา กรุงเทพฯ 50 สาขา ที่เหลือคือต่างจังหวัด ทางยูบิลลี่อยากสื่อสารให้ลูกค้ามั่นใจ ว่าไม่ว่าชิ้นไหนก็เป็น World Class Quality ที่คุณมั่นใจได้ ในปี 2024 เป็นปีที่ทำ Product Marketing และ Presenter Marketing เพื่อให้แบรนด์ชัดเจนและขยายวงกว้างมากขึ้น
Jubilee มีมานาน 95 ปีแล้ว ตลาดเพชรก็อยู่ในไทยมา 100 กว่าปีแล้ว ตามห้างสรรพสินค้าไม่เคยมี Section เพชรมาก่อน แต่ยูบิลลี่เป็นผู้บุกเบิกเรื่องนี้ มีทั้งกลุ่มลูกค้า High Tier และ Mid Level เราจึงสร้างรูปแบบเคาท์เตอร์ในห้าง ดูก่อนได้ ไม่ชอบไม่เป็นไร สำหรับค่าเฉลี่ยในการคืนทุนประมาณ 1-2 ปีขึ้นไป แล้วแต่พื้นที่
ปีนี้ เน้นการสื่อสาร เน้นคุณภาพที่หลากหลายมากขึ้น ทั้งคุณภาพสี การเจียระไน น้ำหนักนี้ ลูกค้าครอบครองได้ง่าย ลูกค้าจับจ่ายใช้สอยกับเราไม่กี่หมื่นบาท แต่ใส่แล้วเพชรดูเม็ดใหญ่ขึ้น เหมือนซื้อครึ่งกะรัต แต่ใหญ่เหมือนหนึ่งกะรัต มีประกายแสบตา ปีนี้ ยูบิลลี่ทำหนังสั้น สะท้อนภาพ Bring World Class Diamond Jewelry for You ชื่อคอลเลกชัน The Excellent มีมานานกว่า 10 ปี ถือเป็น 1 ใน top 5 ของคอลเลกชั่นที่ขายดีด้วย ถือว่ารวมความดีงาม ดีเลิศของเพชรทุกมิติเข้ามาอยู่ในนี้
เพชรของ Jubilee มี Unique Sparkles มีประกายเพชรที่แตกต่าง นำมาจากแหล่งเพชรที่ดีที่สุดคือ เบลเยียม
สาเหตุที่เลือกแอฟ ทักษอร ภักดิ์สุขเจริญเป็น Friend of Jubilee Diamond คนแรกของแบรนด์เพราะเป็นภาพตัวแทนสื่อสารเรื่องราวเอกลักษณ์ของแบรนด์ได้ แอฟมีรูปลักษณ์ที่ Luxury, Premium เป็นสาวหวาน แต่ลึกกว่านั้น เป็นคนที่มีภาวะผู้นำ ตัดสินใจเด็ดขาด เขาขับรถสปอร์ตด้วย มีความเป็นตัวตนหลายอย่างที่หลายคนไม่รู้ การที่เราดำเนินธุรกิจมาได้ 95 ปี เรามีของๆ เรา ผ่านระยะเวลาหลายปีแต่ไม่ได้เล่าเรื่องของเราให้เขาฟัง แอฟเป็น Friend of Jubilee คนแรก จะทำหน้าที่สื่อสารข้อความเหล่านี้ให้กลุ่มลูกค้ากลุ่มใหม่ๆ ด้วย
เป้าหมายปี 2024
ภาพรวมยูบิลลี่คาดว่าจะโตที่ 8-10% คิดว่าอัตรากำไรโตไม่ต่ำกว่า 45% คาดว่าน่าจะเข้าถึงกลุ่มลูกค้าใหม่ๆ เพิ่มมากขึ้น เรามี Loyalty Program เรียกว่า The Sparkling Club สำหรับกลยุทธ์ที่จะเติบโต 8-10% ดังนี้
- ทำ Branding Campaign
- พนักงานเกือบ 300 คน มีการเทรน Product Specialize ให้อธิบายคุณภาพสินค้าและดูแลลูกค้าตรงเป้าหมายมากขึ้น
- มีการทำระบบหลังบ้านทั้งหมด ให้เข้าใจความต้องการลูกค้าได้รวดเร็วมากขึ้น
- ปีนี้จะมี คอลเลกชันใหม่ๆ เกิดขึ้น
- ล่าสุด Jubilee เป็นแบรนด์เดียวในไทยมีเหลี่ยมเพชรของตัวเอง ทรงสี่เหลี่ยมคูชัน (Cushion Cut Diamonds) เรามีถึง 90 เหลี่ยม ส่องประกายมากกว่าเพชรปกติถึง 60% และจดสิทธิบัตรผ่านเรียบร้อย เป็นเพชรกะรัตพิเศษ เรียกว่า Centennial Jubilee 90 Facets ครั้งแรกของโลกที่มีเพชรรูปทรงสี่เหลี่ยมจตุรัส
- The Sparkling Club มีฐานสมาชิกกว่า 2 แสนราย มีการโปรโมตในกรุงเทพฯ ไม่ต่ำกว่า 300 จอ ในต่างจังหวัดก็มีเช่นกัน ภายใต้แคมเปญ Craft For Excellence ให้ลูกค้าเข้าใจว่า ใส่แหวน Jubilee 1 วงมี Excellence อะไรบ้าง นี่เป็นครั้งแรก ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนใน 95 ปี แคมเปญนี้ใช้ทุกช่องทาง ทั้งสื่อดิจิทัลแพลตฟอร์มและสื่อนอกบ้าน
ลูกค้าสามารถแบ่งได้เป็น 8 Segment เริ่มตั้งแต่คนเริ่มต้นทำงานและระดับผู้จัดการ เจ้าของกิจการทั้งเล็กและใหญ่ระดับประเทศ แต่ละคนมีไลฟ์สไตล์ไม่เหมือนกัน ซึ่งลูกค้าระดับ Mid level คือลูกค้าที่บิลไม่ถึง 1 แสนบาท อาจต่ำกว่านี้บ้างเล็กน้อย อาจเป็นแหวนหมั้น แหวนแต่งงาน แหวนที่ซื้อเพื่อเป็นของขวัญตนเอง ตลาดนี้ส่วนใหญ่เป็นแบบ Self Purchase ซึ่งแหวนหมั้น แหวนแต่งงานอยู่ที่ประมาณ 30% ที่เหลือคือ Self purchase
ลูกค้าระดับ Mid Level คือกลุ่มที่มีอายุ 25 ปีขึ้นไป ส่วนใหญ่ซื้อแบบ Self Purchase ทุกวันนี้คนแต่งงานน้อยลง จริงๆ ก็เป็นแบบนี้มานานแล้ว คนซื้อเพชรเพราะอยากใส่ วันนี้เป้าหมายลูกค้ากว้างมากขึ้น นอกจากจะส่งเสริมบุคลิก ความมั่นใจ ลูกค้าไม่ใช่แค่ผู้หญิงแล้ว แต่มีหลากหลายมากขึ้น
ส่วนลูกค้าระดับ High Tier มีไม่มาก มีสัดส่วนประมาณ 20-25% ยอดค่าใช้จ่ายจะเป็นยอดสะสม ปีหนึ่งจะใช้จ่ายประมาณ 8 หลัก
ลูกค้ามีหลายกลุ่ม เช่น ถ้าเริ่มเข้ามาจะเป็น Sparkling Member กลุ่มถัดมา บิลอยู่ที่ 5 หลักต้นและปลาย, กลุ่ม 3 คือบิล 5 หลักปลาย, กลุ่ม 4 คือบิล 6 หลัก, กลุ่ม 5 หลักต่ำกว่า 5 แสนบาท, กลุ่ม 6 หลักมากกว่า 5 แสนถึงปประมาณ 1 ล้านบาท เป็นต้น ซึ่งค่าเฉลี่ยรวมของลูกค้า ซื้อแล้วจะกลับมาใหม่ภายใน 1 ปีครึ่ง
สำหรับปี 2024 นี้ ยูบิลลี่พร้อมทุ่ม 100 ล้านบาท เพื่อขยายสาขาและรีโนเวตเพิ่มเติม ปลายปีที่แล้วมีเอมโพเรียม ต้นปีนี้เปิดเพิ่มสองสาขาที่เวสต์วิล และเตรียมเปิดและรีโนเวตเพิ่ม
ประเด็นเรื่อง Lab Grown Diamond หรือเพชรสังเคราะห์จากห้องแล็บ
ยูบิลลี่มองว่า ประเด็นนี้มีมานานแล้ว ปีที่แล้วออกมาเยอะ เดิม เกิดจากตัวเพชรมีคุณสมบัติใช้ในวงการอุตสาหกรรม เป็นหัวตัดเครื่องจักรได้ ถ้าใช้เพชรแท้จะมีราคาแพง จึงจำลองอนุภาคของเพชรมาทำในแแล็บให้ราคาถูกลง นอกจากใช้ในวงการอุตสาหกรรม เห็นว่าสวยดี จึงมาใช้ในวงการเครื่องประดับด้วย แรกๆ คิดราคาถูกกว่าเพชรแท้ประมาณ 3 เท่า ถึงปีที่แล้ว รวมประมาณ 2 ปี ตอนนี้มีราคาไม่ถึง 10% ของราคาเพชรแท้ ไม่ได้รับความนิยมอย่างที่คิด มีเฉพาะตลาดอเมริกาที่ซื้อเพชรคุณภาพไม่สูงมาก เพราะมองว่าเป็นเรื่องที่จำเป็นต้องใช้ ไม่ใช่ของแท้ และไม่มี Value สำหรับในอนาคต ตลาดในเอเชียไม่ซื้อเลย
ส่วนตลาดหลักในการซื้อขายเพชร คือจีน อเมริกา ญี่ปุ่น อินเดีย 3 ใน 4 หรือตลาดเอเชียไม่ซื้อเลย เขามองว่าเอาเงินจริงซื้อของไม่จริง ไม่มี Future Value คนที่ทำการผลิต จะโปรโมตตลาดนี้ ราคา 1 ใน 10 ถ้ามีดีมานด์ราคาต้องไม่ลง พอไม่ได้รับความนิยม บางชอปในอเมริกา ซื้อเพชรแท้แถม Lab grown Diamond ซึ่ง Jubilee เราเป็น retail เราสามารถเพิ่ม product line ได้ ถ้ามีความนิยม ซึ่ง Certificate จะบอกว่าเลยว่าเป็น Lab grown
ช่วงสภาวะเศรษฐกิจไม่ดี คนเจียระไนเพชรเขาไม่อยากปล่อยให้โรงงานว่าง ต้องเจียอะไรสักอย่างหนึ่ง ถ้าเพชรแท้ราคาสูง จึงเจียระไน Lab grown Diamond แทน
ประเด็นเรื่องนโยบายด้านสิ่งแวดล้อม
Jubilee ทำงานกับ De Beers เราได้รับสิทธิจำหน่ายรายเดียว De Beers Forevermark ก็จะเลือกใช้เหมืองที่ใช้นำ้น้อย เน้นเรื่อง Woman Empowerment มีการใช้แรงงานน้อยลง เราทำงานร่วมกับ De Beers ก็จะเลือกทำงานกับแหล่งเจียระไนเพชรที่ต้องมี DNA ด้านนี้เพิ่มด้วย
ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา