ปัจจุบัน เมกาบางนา ศูนย์การค้าในเครือ บมจ. เซ็นทรัลพัฒนา ครองเบอร์ 1 ธุรกิจค้าปลีกย่านบางนา และพื้นที่ใกล้เคียงเก็บเบ็ดเสร็จ ผ่านความหลากหลายของร้านค้า และร้านอาหาร แต่ในอีกไม่กี่ปีจากนี้ แบงค็อก มอลล์ ของกลุ่มเดอะมอลล์ กำลังจะเปิดให้บริการ ทำให้เจ้าถิ่นเดิมย่อมอยู่เฉยไม่ได้
งานนี้ วรรณวิมล อรดีดลเชษฐ์ ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาด ศูนย์การค้าเมกาบางนา จึงประกาศลงทุนกว่า 200 ล้านบาท เพื่อใช้ในการทำตลาดหลากหลายแง่มุม เช่น โปรโมชันสมาชิก, ประสบการณ์การใช้บริการรูปแบบใหม่ รวมถึงการจัดอีเวนต์ 13 ครั้ง/ปี เพื่อเพิ่มจำนวนลูกค้าที่เข้ามาใช้บริการในปี 2023 ที่มีถึง 53 ล้านคน
รายละเอียดแผนการตลาดของศูนย์การค้าเมกาบางนาจะเป็นอย่างไร และการลงทุนครั้งนี้จะเพิ่มจำนวนผู้ใช้บริการ รวมถึงการจับจ่ายให้สะพัดมากขนาดไหน มาร่วมหาคำตอบจาก วรรณวิมล อรดีดลเชษฐ์ ที่เพิ่งเข้ามารับตำแหน่งนี้ได้ไม่ถึง 1 ปี ไปด้วยกัน
เมกาบางนา ผู้ทำบางนาให้ไม่เหมือนเดิม
วรรณวิมล อรดีดลเชษฐ์ ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาด ศูนย์การค้าเมกาบางนา เล่าให้ฟังว่า นับตั้งแต่ปี 2012 ศูนย์การค้าเมกาบางนาสร้างประสบการณ์ใหม่ให้กับผู้บริโภคในบริเวณนี้เป็นอย่างมาก ซึ่งหลังจากนี้เป้าหมายดังกล่าวยังคงอยู่ แต่มาพร้อมกับความท้าทาย และเรื่องใหม่ที่ไม่เคยเจอมาก่อน
“ง่ายที่สุดคือร้านค้าในวันนี้กับช่วงเริ่มเปิดให้บริการก็เปลี่ยนไปเยอะ ซึ่งการทำแบบนี้ช่วยให้เราตอบโจทย์ผู้บริโภคได้มากกว่าเดิม และนั่นคือสิ่งที่ทำให้ศูนย์การค้าเมกาบางนาเติบโตอย่างทุกวันนี้ ยิ่งถ้าถามลูกค้าที่อยู่ใกล้ ๆ เรา เขาจะบอกว่าเดี๋ยวนี้ไม่ต้องเข้าเมืองแล้ว เพราะที่เมกาบางนาก็มีสิ่งที่พวกเขาอยากได้เหมือนกัน”
ปี 2023 ศูนย์การค้าเมกาบางนามีผู้เข้ามาใช้บริการกว่า 53 ล้านคน สูงที่สุดตั้งแต่เริ่มเปิดให้บริการ และมากกว่า 50 ล้านคนที่เคยทำได้ช่วงก่อนโรคโควิด-19 ระบาด โดยในวันธรรมดามีผู้เข้าใช้บริการเฉลี่ย 1.2 แสนคน/วัน และวันสุดสัปดาห์จะเพิ่มเป็น 2.2 แสนคน/วัน โดยจำนวนดังกล่าวเพิ่มขึ้น 10% จากปี 2022
ผู้ใช้บริการเยอะขึ้น อีเวนต์ต้องตอบโจทย์กว่าเดิม
จากจำนวนผู้เข้าใช้บริการที่มากขึ้น ศูนย์การค้าเมกาบางนาจึงลงทุนกับการทำอีเวนต์เพื่อดึงลูกค้าปัจจุบัน และลูกค้าใหม่เข้ามาใช้บริการ ควบคู่กับการทำโปรโมชัน และสร้างสีสันให้กับศูนย์ฯ โดยในปี 2024 จะใช้งบประมาณราว 200 ล้านบาท เพื่อจัดงานอย่างน้อย 13 ครั้ง/ปี โดยมีงานใหญ่ที่สุดคือ Mega Countdown ช่วงปลายปี
“Mega Countdown คืองานใหญ่ที่สุดของเรา เพราะในวันปีใหม่มีผู้เข้าร่วมงานกว่า 5 แสนคน และจะใช้ความสำเร็จนี้มาต่อยอดในงานต่าง ๆ เช่น วันเด็ก, ตรุษจีน และอื่น ๆ ควบคู่ไปกับการหาผู้เช่าใหม่ ๆ เข้ามา เช่น Gentle Woman, Nike และ New Balance เพื่อตอบโจทย์ลูกค้าให้ได้มากที่สุด”
ทั้งนี้งบประมาณด้านการตลาด 200 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 10% จากปี 2023 และการลงทุนใหม่ที่จะเข้ามาคือการสร้างสังคมใหม่ ๆ ให้กับลูกค้า เช่น การสร้างสังคมสำหรับผู้ชื่นชอบสัตว์เลี้ยง เนื่องจากมีการสำรวจพบว่า 40% ของลูกค้าศูนย์การค้าเมกาบางนาเลี้ยงสัตว์ และกลุ่มผู้สูงอายุที่ล้อไปกับลูกค้า 53% เป็นกลุ่มคนมีครอบครัว
ความเชื่อมั่นผู้บริโภคยังดี ไม่หวั่นเพื่อนบ้านใหม่
วรรณวิมล เสริมว่า ตั้งแต่เปิดปี 2024 มา ความเชื่อมั่นของผู้บริโภคยังค่อนข้างดี สังเกตจากการเข้ามาใช้บริการในศูนย์การค้าเมกาบางนา และในปี 2023 ลูกค้าที่เป็นสมาชิก Mega Reward ของศูนย์ฯ มีการจับจ่ายโดยเฉลี่ย 4,500 บาท/คน เมื่อเข้ามาใช้บริการ
ขณะเดียวกันการมาถึงของเพื่อนบ้านใหม่ (ในที่นี้คือ แบงค็อก มอลล์ ของกลุ่มเดอะมอลล์) จะเข้ามาช่วยกระตุ้นตลาดในพื้นที่นี้มากกว่า นอกจากนี้การมีโครงการอสังหาริมทรัพย์ราคาสูงเตรียมเปิดตัวจะช่วยสร้างกลุ่มลูกค้าใหม่ในพื้นที่นี้เช่นเดียวกัน
- เมกาบางนา จับมือ คิดโด แปซิฟิก เนรมิตลานของเล่นขนาดยักษ์ รับกระแสวันเด็ก หวังลูกค้าเข้าร่วม 12,000 คน
- เมกาบางนา ฉลองความสำเร็จอย่างยิ่งใหญ่ครบรอบ 10 ปี ของการเป็น Your Everyday Meeting Place
ปัจจุบันศูนย์การค้าเมกาบางนา มีผู้เช่าเต็ม 100% ของพื้นที่ คิดเป็นจำนวนกว่า 900 ร้านค้า แบ่งเป็นร้านค้าแฟชั่น 40% ตามด้วยร้านอาหาร 30% และที่เหลือเป็นร้านค้าเกี่ยวกับไลฟ์สไตล์ และบริการต่าง ๆ โดยนอกจากกลุ่มลูกค้าครอบครัว 53% จะมีกลุ่มนักศึกษา และเฟิร์ส จ็อบเบอร์ 22% ซึ่งกลุ่มนี้จะมีมากขึ้นจากนี้
อ้างอิง // Mega Bangna
ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา