เศรษฐกิจจีนปี 2566 แม้ว่าจะเติบโตกว่าเป้าหมายที่ทางการจีนตั้งไว้ที่ 5.2% แต่ปี 2567 จีนยังมีความเสี่ยงหลายด้านทั้งภาคอสังหาริมทรัพย์ และภาวะเงินฝืดที่อาจเกิดขึ้นส่งผลให้ทั้งปี 2567 นี้คาดว่า GDP จีนจะเติบโตอยู่ที่ 4.5% ถือว่าชะลอลงจากปีที่แล้ว และคาดว่าเงินเฟ้อจีนจะอยู่ที่ 1.4%
ศูนย์วิจัยกสิกรไทย เปิดเผยว่า ปี 2567 นี้คาดการณ์ว่าการขยายตัวของเศรษฐกิจจีนจะอยู่ที่ 4.5%YoY มีแนวโน้มชะลอตัวกว่าปี 2566 สาเหตุหลักเพราะความเสี่ยงในภาคอสังหาริมทรัพย์และความเสี่ยงการเข้าสู่ภาวะเงินฝืดเพิ่มขึ้น
ทั้งนี้ ปัญหาในภาคอสังหาริมทรัพย์ยังคงยืดเยื้อมาจากปีที่ผ่านมา และจะเป็นปัจจัยกดดันต่อเศรษฐกิจจีน โดยในปี 2567 คาดว่าการผิดนัดชำระหนี้ของบริษัทพัฒนาอสังหาริมทรัพย์จะยังคงเห็นอยู่ โดยช่วงที่ผ่านมาแม้จีนจะออกนโยบายมาสนับสนุนทั้งในฝั่งของผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ และผ่อนคลายกฎเกณฑ์เอื้อให้ประชาชนซื้อบ้าน แต่ภาคอสังหาริมทรัพย์ก็ยังไม่ส่งสัญญาณฟื้นตัว โดยสถานการณ์ในเรื่องของบ้านที่สร้างไม่เสร็จและไม่ได้รับการส่งมอบยังคงไม่คลี่คลาย ขณะที่ยอดขายบ้านใหม่ของบริษัทพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ 100 แห่งในปี 2566 ยังปรับลดลงที่ 16.5%
ขณะเดียวกัน ความเสี่ยงเรื่องภาวะเงินฝืดเพิ่มขึ้น ในช่วงไตรมาส 4/2566 เงินเฟ้อของจีนออกมาติดลบติดต่อกัน 3 เดือนจนสร้างความกังวลถึงภาวะเงินฝืดภายในประเทศ ซึ่งการติดลบของเงินเฟ้อมีสาเหตุมาจากราคาเนื้อหมูที่เผชิญปัญหากำลังการผลิตที่มากเกินไป (Oversupply)
ในปี 2567 เงินเฟ้อยังมีแนวโน้มอยู่ในระดับต่ำทั้งจากปัญหาด้านการว่างงาน และภาคอสังหาริมทรัพย์ ทั้งนี้ คาดการณ์เงินเฟ้อปี 2567 อยู่ที่ 1.4% (Bloomberg consensus)
ดังนั้น ในปี 2567 นี้ ศูนย์วิจัยกสิกรไทย คาดว่าทางการจีนจะยังคงผ่อนคลายนโยบายการเงิน และการคลังต่อเนื่องเพื่อหนุนเศรษฐกิจจีนในช่วงเปลี่ยนผ่าน โดยต้องติดตามการประกาศเป้าหมายเศรษฐกิจของจีนปี 2567 จากทางการในการประชุมเดือน มี.ค. 2567
อย่างไรก็ตาม เศรษฐกิจจีนปี 2566 ออกมาที่ 5.2%YoY ซึ่งสูงกว่าเป้าหมายทางการที่ 5.0%YoY ส่วนหนึ่งมาจากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจและฐานที่ต่ำในปีก่อนหน้าเป็นปัจจัยหนุน รวมถึงภาคบริการที่เติบโตได้ที่ 5.8%
นอกจากนี้ การลงทุนในสินทรัพย์ถาวรปรับเพิ่มขึ้น 3.0% ซึ่งมาจากการลงทุนที่เกี่ยวข้องอุตสาหกรรมเทคโนโลยีเป็นสำคัญซึ่งสอดคล้องกับเป้าหมายของทางการจีนที่ต้องการพึ่งพาตนเองในส่วนของเทคโนโลยี อย่างไรก็ตาม การลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ปรับตัวลดลง 9.6% บ่งชี้ว่าภาคอสังหาริมทรัพย์ยังคงเป็นปัจจัยฉุดรั้งการเติบโตของจีน
ทั้งนี้ ในไตรมาสสุดท้ายของปี 2566 เศรษฐกิจจีนเติบโตที่ 5.2%YoY ต่อเนื่องจากในไตรมาส 3/2566 ที่เติบโต 4.9%YoY ได้รับปัจจัยหนุนจากการใช้จ่ายภายในประเทศ โดยตัวเลขยอดค้าปลีกของจีนในไตรมาส 4/2023 เติบโตอยู่ที่ 8.3%YoY จากการติดลบที่ 2.7%YoY ในไตรมาส 4/2565 นอกจากนี้ ทางการจีนได้มีการอนุมัติการออกพันธบัตรรัฐบาลมูลค่า 1 ล้านล้านหยวน (คิดเป็น 0.8% ของเศรษฐกิจจีนปี 2566) เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจผ่านการปรับปรุงโครงสร้างพื้นฐาน
ที่มา ธนาคารกสิกรไทย
ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา